ตำนานเมืองฟ้าแดดสงยาง
" อาณาจักรโบราณ ของอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เมืองฟ้าแดดสงยาง เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาแต่อดีต ปัจจุบันเหลือร่องรอยการตั้งถิ่นฐานซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ เป็นแหล่งอารยธรรมตลอดจนศิลปะด้านต่างๆ ที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน "
เมืองฟ้าแดดสงยาง เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มีความอุดมสมบูรณ์ผู้ปกครองเมืองคือพญาฟ้าแดด มีพระมเหสีชื่อ พระนางจันทาเทวี(เขียวค่อม) มีพระธิดาชื่อ พระนางฟ้าหยาด เป็นผู้ที่มีพระสิริโฉมงดงามมาก เป็นที่หวงแหนของพระราชบิดา-มารดา พญาฟ้าแดดให้ช่างสร้างปราสาทเสาเดียวไว้กลางน้ำ โดยใช้ศิลาแลงในการก่อสร้างบริเวณนี้ปัจจุบันเรียกว่า "โนนฟ้าแดด" นอกนั้นยงมีการขุดสระไว้รอบเมือง มีคูค่ายและเชิงเนิน มีหอรบอย่างแข็งขัน สระที่ขุดไว้ในปัจจุบันเป็นหนองน้ำสาธารณะ เมืองลูกหลวงของเมืองฟ้าแดดคือ เมืองสงยาง มอบให้อนุชาชื่อ พญาอิสูรย์ (เจ้าฟ้าระงึม) เป็นผู้ครองเมือง เมืองทั้งสองหางกันประมาณ 2 กิโลเมตร เลยรวมเรียกว่า "เมืองฟ้าแดดสงยาง"
พระธาตุยาคู
เมืองเชียงโสม เป็นเมืองหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับเมืองฟ้าแดด มีพญาจันทราชเป็นผู้ปกครองจัดให้มีเทศกาลเล่นหมากรุก และตีหิงคลี ใครแพ้-ชนะ ก็จะส่งส่วยกินเมืองตามประเพณี ครั้งหนึ่งพญาจันทราชได้ออกล่าสัตว์ และต่อไก่ มุ่งหน้าลงทางใต้ จึงถึงหนองเลิง ได้หลงทางเข้าไปในอุทยานของนางฟ้าหยาด เมื่อพญาจันทราชพบหน้านางฟ้าหยาดก็ชอบพอ
ต่อมาพญาจันทราชเดินทางกลับเมืองเชียงโสมได้มอบให้ขุนเล็ง ขุนดาน นำเครื่องบรรณากาารมาสู่ขอนางฟ้าหยาด แต่ไม่สำเร็จ พญาจันทราช จึงได้เคลื่อนขบวนทัพมาตีเมืองฟ้าแดดสงยาง โดยขอความช่วยเหลือไปยังเมืองเชียงสง เชียงสา เชียงเครือ ท่างาม น้ำดอกไม้ สาบุตรกุดอก ให้ส่งกองทัพมาช่วยฝ่ายพญาฟ้าแดด เมื่อทราบข่าวก็ขอความช่วยเหลือไปยังผู้ปกครองเมืองสงยางผู้เป็นอนุชาให้มาช่วยรบ เมื่อเกิดสงครามมีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก พญาจันทราชสิ้นพระชนม์บนคอช้าง แม่ทัพนายกองเห็นดังนั้นก็ยอมแพ้
นางฟ้าหยาดเมื่อทราบข่าวก็มีความเสร้าโศกจนสิ้นชีวิตบนปราสาทกลางน้ำ ต่อมาพญาฟ้าแดดก็ให้ นำศพนางฟ้าหยาด และศพพญาจันทราช บรรจุลงในหีบทองคำ ตกแต่งอย่างสมพระเกียรติ และให้สร้างเจดีย์คู่เป็นอนุสรณ์ไว้ (ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันตกของโนนเมืองฟ้าแดดสงยาง) ก่อนที่จะบรรจุอัฐิของนางฟ้าหยาดกับพญาจันทราช ได้รับสั่งให้ช่างหลอพระพุทธรูปและเทวรูปทองคำ จำนวน 84,000 องค์ ประกาศให้ชาวเมืองฟ้าแดดสงยางหล่อหรือสร้างพระพุทธรูปทุกครัวเรือน โดยให้หล่อหรือสร้างด้วยทองคำ อิฐ หิน หรือดินเผาแล้วแต่ศรัทธา แล้วบรรจุไว้ในเจดีย์คู่ เพื่อเป็นการบูชาและล้างบาปที่กระทำไว้ จากนั้นได้มอบให้พญาธรรมไปครองเมืองเชียงโสม ส่งสวยแก่เมืองฟ้าแดดเป็นประจำทุกปี
จากตำนานที่เป็นเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน อาจจะมีความคลาดเคลื่อนแต่ก็คงแฝงไว้ด้วยความจริงไว้บ้าง
โนนสาวเอ้
โนนสาวเอ้มีลักษณะเป็นเนินดินกว้างใหญ่มีคุณค่าทางโบราณคดี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเมืองฟ้าแดดสูงยาง บริเวณล้อมรอบเป็นทุ่งนาชื่อว่า ?ทุ่งฟ้าแดด? บนเนินสาวเอ้นี้
มีสถูปเจดีย์และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ มีลักษณะเด่นและสำคัญ คือ เป็นเนินดินกว้างใหญ่อยู่ใจกลางทุ่งนา ส่วนการเข้าถึงนั้นห่างจากเมืองกาฬสินธุ์ตามถนนหมายเลข 214 ประมาณ 13กิโลเมตรแล้วแยกขวาต่อไปยังบริเวณเมืองฟ้าแดดสูงยางระยะทาง 6 กิโลเมตร
ใบเสมาหินสมัยทวารวดีที่พบในบริเวณอาณาเขตเมืองฟ้าสง อยู่ที่วัดโพธิ์ชัยเสมารามหรือวัดบ้านก้อม
ปล. บังเอิญฅนภูไทเห้นชื่อ สาวเมืองฟ้าแดดสงยาง ในห้องแชท กะเลยเกิดความสนใจอยากรู้แหล่งที่มาของชื่อ เลยไปค้นคว้ารวบรวมข้อมูลมาเห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาฝาก สมาชิกท่านได๋มีข้อมูลกะมาเพิ่มเติมให้แหน่ครับ
ขอบคุณทุกแหล่งข้อมูลเด้อครับ
[RADIO]http://www.hotlinkfiles.com/files/2679054_tqkku/pongputhai.wma[/RADIO]
Bookmarks