เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500เจาะลึกเครื่องบิน ART 72-500
เจาะลึกเครื่อง ATR 72-500

อุบัติเหตุเมื่อเกิดขึ้นกับการเดินทางด้วยอากาศยานที่กำลังร่อนลงจอด ส่วนมากเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้ายเสมอ และมักจะเกิดขึ้นโดยมีความเร็วของลม และสภาพพื้นผิวของรันเวย์ในขณะนั้น เป็นหลักสำคัญ กระแสลมที่พัดในบริเวณรันเวย์ ถ้ามีความเร็วเกินกว่า 25 น็อต ไม่ว่าจะพัดมาจากทิศทางใดในระหว่างที่เครื่องบินจะทำการร่อนลงจอดมักสร้างปัญหาให้กับนักบินในการควบคุมเครื่องบินให้ได้แนวระดับทั้งความสูงและทิศทาง เพื่อทำการร่อนลง ไม่ว่าลมกำลังแรงจะพัดมาจากหน้าเครื่อง ด้านข้างของลำตัว หรือด้านท้ายก็ตาม สนามบินแทบทุกแห่งในประเทศไทย จึงทำการติดตั้งเครื่องวัดความเร็วลมบริเวณหัวรันเวย์ ทั้งสองฝั่งจนสุดทางวิ่งและบริเวณด้านข้างของรันเวย์ที่สามารถ วัดความแรงของกระแสลมที่พัดอยู่ในทุกบริเวณของสนามบินเพื่อแจ้งค่าความเร็วของลมในขณะนั้น ให้นักบินรับทราบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบินขึ้นหรือร่อนลงจอด
14.10 น.เครื่อง ATR 72-500 ของสายการบิน BANGKOK AIRWAY เที่ยวบินที่ PG266 มีต้นทางที่สนามบินกระบี่ จะไปสถานีปลายทางที่สนามบินบนเกาะสมุยโดยมีระยะทางในการบินไม่ไกลนักและผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเที่ยวบินนี้มักเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการบิน จากกระบี่ไปสมุยด้วยความรวดเร็วและสะดวกสบายในการเดินทางรวมถึงประหยัดเวลา ได้มากกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์
ระหว่างที่บินถึงสนามบินสมุยและจะทำการร่อนลงจอด เกิดสภาพอากาศที่ไม่ดีบริเวณสนามบินสมุย เนื่องจากมีพายุฝนและลมกระโชกแรงบริเวณรันเวย์ และผิวของรันเวย์ปกคลุมด้วยน้ำ จากคำให้การของผู้ที่อยู่บนเขาใกล้กับสนามบินแจ้งว่า มีลมจากพายุฝน พัดเข้าหารันเวย์ด้วยความเร็วสูง หลังจากทำการร่อนลงและเครื่องกำลังวิ่งอยู่บนรันเวย์ ตัวเครื่องเกิดการลื่นไถลและเสียหลักหลุดจากบริเวณทางวิ่งไปชนเข้ากับหอ บังคับการบินเก่าที่เลิกใช้งานแล้วและดัดแปลงเป็นที่จอดรถดับเพลิงของสนาม บินสมุย นักบินที่หนึ่งคือกัปตันชาติชาย ปั้นสุวรรณพยายามประคองเครื่องจนสุดความสามารถ บริเวณส่วนหัวของเครื่อง ATR 72 กระแทกเข้ากับตัวอาคารของหน่วยดับเพลิงประจำสนามบินจนทำให้ กัปตันชาติชาย เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ6 คน ส่วนนักบินที่สองและผู้โดยสารที่เหลืออีก 62 คนปลอดภัยทั้งหมด
ATR 72-500 ซีรีย์นัมเบอร์ MSN 670 ของสายการบิน BANGKOK AIRWAY นำเข้ามาเมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม พ.ศ. 2544 ขนาด 70 ที่นั่ง มีรายละเอียดดังนี้
ATR-72 สร้างขึ้นโดยบริษัท Aerospatiale Marta จากประเทศฝรั่งเศส และบริษัท Alenia Aerospazio จากประเทศอิตาลี ATR เป็นเครื่องแบบสองเครื่องยนต์ ชนิดใบพัดปีกสูง ATR 72 สร้างจากต้นแบบของ ATR42 ด้วยการต่อลำตัวออกไปอีก 4.5 เมตร และจุผู้โดยสารเพิ่มเป็น 64-72 ที่ ( ATR 42 จุ ผู้โดยสารได้ 42-50 ที่) ATR-72 บินเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 1988 ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐฯตอนปลายปี1989 สายการบินนำมาให้บริการในวันที่ 27 ตุลาคม 1989 (ATR-42 บินเป็นครั้งแรกเดือน สิงหาคม 1984).ATR 72-500 สามารถ สังเกตุได้จาก มีใบพัด 6 ใบ ซึ่งใบพัดจะสั้นกว่าเก่า และความเร็วรอบช้าลง ทำให้เสียง และการสั่นสะเทือนเข้าไปยังห้อง ผู้โดยสารน้อยลง ใบพัดเป็นของบริษัท Hamilton Standard /Ratier Figeac และเครื่องยนต์เป็นของบริษัท Pratt & Whitney Canada PW 127 F ซึ่งให้กำลัง 1250 ชาร์ปฮอร์สพาวเวอร์(SHP) ATR 72-500 เพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระบนห้องเหนือศรีษะ
เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ทำให้สามารถบรรทุกและระยะทางเพิ่มขึ้น เดิมที ATR72-500 ได้ชื่อว่า ATR 72-210A ATR 72-500 ใช้ระยะทางในการวิ่งขึ้น เพียง 3580 ฟุต (1091 เมตร) และระยะทางวิ่งลงเพียง 3235 ฟุต (986 เมตร) ที่วันมาตรฐาน และระดับน้ำทะเล (SL,ISA)
ATR 72-500
ประเภท : อากาศยานขนส่งระยะสั้น
ลูกเรือ กัปตันและนักบินผู้ช่วย พนักงานต้อนรับ 2 ผู้โดยสาร 70 คน
เครื่องยนต์ : แพลตแอนด์วิดนี่ย์ สองเครื่องยนต์รุ่น PW 127 F เทอร์โบพร๊อบ 2750 แรงม้า/เครื่อง
น้ำหนักบินขึ้นสุงสุด : 22000 กิโลกรัม
สมรรถนะ : ความเร็วในการบินเดินทาง 490 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพดานบินสูงสุด : 7620 เมตร / 25,000 ฟิต
บินไกล : 1,668 กิโลเมตร (900 naut miles)
ระวางบรรทุกสินค้า : 7,050 กิโลกรัม
ระยะทางวิ่งขึ้น : 1,079 เมตร
ระยะทางร่อนลงจอด : 1,048 เมตร

chang palace
chang.arcom@hotmail.com
ภาพโดย
The World Of Aviation
Skycontrol.net: Aviation & Aerospace News Magazine

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ