อย.เก็บตัวอย่างสาหร่ายอบแห้งจีน ส่งกรมวิทยาศาตร์ฯตรวจ อันตรายหรือไม่
เตือนหยุดบริโภคก่อน (มติชนออไลน์)
อย.ตรวจร้านค้าตลาดชายแดนไทย-พม่า เก็บตัวอย่างสาหร่ายอบแห้งจีน
ส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจอันตรายหรือไม่ ขอผู้บริโภคหยุดกินชั่วคราว
รอผลก่อน
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่บริเวณย่านการค้าสายลมจอย และตลาดดอยเวาชาย
แดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นพ.พงธ์พันธ์ วงค์มณี รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ
อาหารและยา (อย.) และกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค จ.เชียงราย ออกตรวจสินค้า
ตามแนวชายแดนไทย-พม่า หลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่าพบสาหร่ายทะเลแห้ง
นำเข้าจากประเทศจีนปนเปื้อนพลาสติคและมีสารอันตรายผสม จากการสุ่มตรวจตามร้านค้ากว่า 200 ร้าน
พบว่ายังมีการนำสาหร่ายทะเลแห้งทั้งแบบสำเร็จรูปพร้อมกินและสำหรับ
ประกอบอาหาร จำหน่ายชิ้นละ 20 บาท 3 ชิ้น 50 บาท หรือแพ็คละ 40-50 บาท
นพ.พงธ์พันธ์กล่าวว่า สาหร่ายที่วางขายตามแนวชายแดนยังไม่สามารถระบุว่าเป็น
อันตราย ด้วยการมองรูปลักษณะ หรือนำมาทดสอบโดยการแช่น้ำหรือเผาไฟ
แม้จะมีลักษณะเหมือนพลาสติคก็ตาม แต่ต้องตรวจสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จาก
การสำรวจพบว่าสาหร่ายที่วางจำหน่ายตามแนวชายแดนมี 8 ชนิด ซึ่งจัดเก็บตัวอย่างของ
สินค้าทั้งหมด ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นอันตราย
หรือไม่ แต่ในระยะนี้ผู้ปริโภคควรงดบริโภคไปก่อน เพราะไม่ทราบว่ายี่ห้อใดเป็นอันตรายบ้าง
หากจะรับประทานจริงควรเลือกที่มี ตรา อย.รับรอง จะลดความเสี่ยงในการบริโภค
สำหรับสาหร่ายที่นำเข้าจากประเทศจีนเหล่านี้จะวางจำน่ายอยู่ตามแนวชายแดนเท่านั้น
นพ.สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงราย
กล่าวว่า เชียงรายมีพื้นที่เสี่ยงในการนำเข้า 3 จุด คือด่านพรมแดน อ.แม่สาย
อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เพราะมีรอยต่อแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น
สปป.ลาวและพม่า ที่เชื่อมต่อไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งผลิต
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานสาหร่ายที่มีพลาสติคปนเปื้อนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
"สาหร่ายที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสาหร่ายสำเร็จรูปที่ผลิตจากไทยและมีตรา
อย. รับรอง ส่วนที่เป็นพลาสติคน่าจะเป็นสาหร่ายแห้งที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ แต่เพื่อความไม่
ประมาทได้ประสานทุกฝ่ายร่วมกันสอดส่องดูแล้ว ขณะที่ประชาชนผู้ปริโภคเองควรสังเกต
ให้ดี หากไม่มีตรา อย.รับรอง ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน" นพ.สุรินทร์กล่าว
นายอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผู้ผลิตและจัด
จำหน่ายผลิตภัณฑ์สาหร่ายอบ ชื่อดัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวพบสาหร่ายปลอม
ที่ระบุว่ามาจากประเทศจีนนั้น ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด ยังมียอด
ขายในอัตราปกติ และคาดว่าสิ้นปีจะสามารถทำยอดได้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 30%
เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อถือในตัวสินค้า ประกอบกับผลจากที่ช่วงก่อนหน้านี้มีกระแส
เรื่องไข่ปลอมจากประเทศจีน ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกหาสินค้าที่เชื่อถือได้ จึงถือเป็น
โอกาสในการทำตลาดของเถ้าแก่น้อย
นายอิทธิพัทธ์กล่าวว่า หากกระแสสาหร่ายปลอมรุนแรงขึ้นอาจต้องทำประชา
สัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บริโภค ทั้งนี้เถ้าแก่น้อยนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเกาหลี
เป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน 90% และประเทศญี่ปุ่น 10% เดิมจะนำเข้าสาหร่ายจาก
ประเทศจีน แต่ปัจจุบันลดการนำเข้าลงแล้ว เนื่องจากมีปัญหาสินค้าปลอมและไม่มี
คุณภาพ
Bookmarks