กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: Manager VS Leader ต่างกันอย่างไร…

Hybrid View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    Manager VS Leader ต่างกันอย่างไร…

    Manager VS Leader ต่างกันอย่างไร…



    ทราบหรือไม่คะว่า Manager VS Leader ต่างกันอย่างไร…
    “หัวหน้า” คือ คำหรือตำแหน่งที่ใช้เรียกคนที่เราต้องทำงานภายใต้การควบคุมของเขา ถ้าเป็นคำไทยๆ ก็คือ ‘เจ้านาย’ นั่นเอง



    แต่ในคำว่าหัวหน้าหรือเจ้านาย ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกัน ครั้งนี้เราจะพูดถึงหัวหน้า 2 ประเภท




    ประเภทแรก เรียกว่า Manager ซึ่งก็คือ ผู้จัดการ หัวหน้าแบบนี้คือ ผู้ที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามจุดหมายของงานที่ตั้งไว้ แมเนเจอร์จะเน้นที่ ตัวงานเป็นสำคัญ อะไรจะเกิดขึ้นไม่เป็นไร ขอให้งานลุล่วงสำเร็จเรียบร้อยตามเป้าหมายเป็นพอ ไม่ยอมให้งานผิดพลาดเด็ดขาด คือ ‘มุ่งพัฒนาตัวเนื้องาน’ เป็นหลัก


    ประเภทที่สอง เรียกว่า Leadership คือ หัวหน้าที่มีภาวะความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูง ให้ความสำคัญกับการทำงานระหว่างผู้คน ช่วยดึงศักยภาพของผู้อื่นให้ออกมาใช้อย่างเต็มที่ ให้โอกาสในการตัดสินใจ ไม่ออกคำสั่งเพื่อให้ทำตาม จนมีคำกล่าวว่า ผู้นำก็คือคนที่พยายามทำให้ผู้ตามกลายมาเป็นผู้นำคนต่อไป ยินยอมให้งานผิดพลาดได้ ในขณะที่คนทำงานได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น คือ ‘มุ่งพัฒนาขีดความสามารถของคน’ เป็นหลัก



    ฉะนั้นแล้ว หัวหน้าบางคนอาจทำงานเก่งเรื่องจัดการงานต่างๆ ได้ดี แต่ไม่มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว ไม่มีคนเคารพเชื่อฟัง ไม่ได้ใจลูกน้องหรือทีมงาน ซึ่งตรงข้ามกับคนทำงานบางคนที่อาจไม่ใช่ระดับหัวหน้างาน แต่มีภาวะผู้นำอยู่ในตัว จะพูดหรือ จะทำอะไรก็มักจะมีคนเชื่อฟังสนับสนุนพร้อมทำตามอย่างเต็มใจ แม้จะทำงานระดับเท่ากัน แต่อาจให้ความเคารพเชื่อฟังมากกว่าหัวหน้าของตนเองเสียอีก


    พูดอีกแบบให้ง่ายขึ้นก็คือ คนที่เป็นระดับ Manager ทุกคนไม่ได้หมายความว่าจะเป็น Leader ที่ดีได้เสมอไป แต่คนระดับต่ำกว่า Manager บางคนสามารถเป็น Leader ที่ดีได้

    ความเป็น ‘ผู้นำ’ กับ ‘ผู้จัดการหัวหน้างาน’ จึงเป็นคนละเรื่องนั่นเอง ลองสำรวจตัวเองว่าคุณมีความเป็น Manager หรือ Leader มากกว่ากัน ถ้ามีทั้งสองอย่างต้องขอปรบมือให้ดังๆ



    Road to Leadership

    บางคนอาจจะเกิดมาพร้อมกับความเป็นผู้นำอยู่แล้ว มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป แต่ความเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องของ ‘พรสวรรค์’ เฉพาะบุคคล แต่เป็นทักษะที่สร้างขึ้นมาได้ด้วยการฝึกฝน พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ และ 3 ข้อนี้คือทักษะที่สำคัญใหญ่ๆสำหรับผู้ที่จะก้าวมาเป็นผู้นำ



    เปิดใจให้กว้าง

    ไม่เอาแต่ใจ ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง ผู้นำคือคนที่มีหน้าที่ดึงศักยภาพของผู้อื่นให้ออกมาใช้มากที่สุด ไม่ใช่คนคอยแจกจ่ายงานให้คนอื่นทำตามที่ตัวเองต้องการแค่นั้น แล้วเวลาประชุมหรือระดมความคิดเห็นก็ต้องรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ใช่ บอกว่าให้ทุกคนออกความเห็นแต่ตัวเองมีสิ่งที่ต้องการหรือคำตอบสุดท้ายอยู่ในใจอยู่แล้ว แบบนี้จะขอความคิดเห็นจากผู้อื่นไปทำไมให้เสียเวลา และถ้าทำแบบนี้บ่อยๆลูกน้องก็จะไม่อยากเข้าประชุม และไม่อยากออกความเห็นเพราะรู้ว่าสุดท้ายหัวหน้าก็จะเอาสิ่งที่ตัวเองคิดเหมือนเดิม




    พร้อมเสี่ยงกับลูกน้องหรือทีมงาน

    มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ไปไหนไปกัน เฮไหนเฮนั่น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของผู้นำ หนึ่งในหน้าที่ของผู้นำก็คือสร้างให้ผู้ตามกลายมาเป็นผู้นำในอนาคต ฉะนั้นเราต้องเปิดโอกาสกล้าให้เขาตัดสินใจเรื่องสำคัญๆบ้างตามโอกาสอำนวย แล้วคอยดูว่าผลจะเป็นยังไง มันอาจจะดีและไม่ดีก็ได้ แต่ถ้าการตัดสินใจครั้งนั้นส่งผลดีมาก นั่นเท่ากับว่าคุณให้โอกาสครั้งสำคัญแก่เขาในการแสดงความสามารถ และเขาก็คงซึ้งในน้ำใจคุณเช่นกันที่ช่วยทำให้ตัวเขาเกิดความมั่นใจในการทำงานเพิ่มขึ้น และคนอื่นก็จะรู้ว่าคุณเป็นคนให้โอกาสคน สนับสนุนผู้อื่น ไม่ใช่เป็นพวกสกัดดาวรุ่งแน่ๆ ใครก็อยากมาทำงานกับหัวหน้าที่ส่งเสริมลูกน้องแบบนี้ทั้งนั้นแหละ




    กล้ารับความล้มเหลว

    ข้อนี้ยิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าคุณให้โอกาสลูกน้องทำงานแล้วเกิดผิดพลาด คุณต้องไม่โยนหรือปล่อยความผิดให้ลูกน้องเป็นผู้รับไปเต็มๆคนเดียว คุณต้องให้กำลังใจอย่าปล่อยให้ลูกน้องเสียขวัญ ใครๆก็ทำผิดได้ ทุกคนต้องเคยทำอะไรผิดมาแล้วทั้งนั้น อย่าลืมว่าคนไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลยต่างหาก และถ้าคุณเป็นคนแรกที่ก้าวออกมายอมรับความผิดพลาดในฐานะหัวหน้าไม่ว่างานนั้นคุณอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยมากนัก แต่รับผิดด้วยหน้าที่ รับรองได้เลยว่าครั้งต่อไปทีมงานของคุณจะคิดอย่างรอบคอบ ใส่ใจตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและส่งผลกระทบไปถึงหัวหน้าได้อีก นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว คุณน่าจะกลายมาเป็นที่ชื่นชมของคนอื่นอีกด้วย

    นอกจาก 3 เรื่องนี้แล้วคุณก็อาจจะพัฒนาตนเองในคุณสมบัติอื่นอีกเช่น การควบคุมอารมณ์ ความเป็นกลางยุติธรรม ต้องยืนอยู่กับความจริง วางเป้าหมายและลำดับความสำคัญให้ชัดเจน มีการติดตามงาน ให้รางวัลผู้ทำงานดี และต้องรู้จักตนเองให้ดีด้วย เหล่านี้ก็จะทำให้คุณกลายมาเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบ…



    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    ร่วมกิจกรรมนำความรู้ สัญลักษณ์ของ เซียนเมา
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ที่อยู่
    Suratthani
    กระทู้
    1,450
    ผมยอมรับนะครับว่าหัวหน้างานมีผลต่อสภาพจิตใจของลูกน้องและผลกระทบของงาน (ถ้าหัวหน้างี่เง่า ลูกน้องก็ทำงานด้วยใจที่ไม่ปกติแน่นอน)

  3. #3
    ศิลปิน นักร้อง นักแสดง สัญลักษณ์ของ หมอลำเอกชัยคนหล่อ
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    ที่อยู่
    วารินชำราบ
    กระทู้
    362
    ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีทึ่สุดครับ

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •