เช้าวันเสาร์ที่สดใสของเด็กชายคนนึง เย้ เย้ เย้ วันนี้ได้ดูกาตูนย์อีกแย้วววววววววว
เสียงร้องเรียกจากหัวใจเพราะคงไม่มีใครที่จะรับฟังเขานอกจากตัวเอง เด็กชายคนนี้ไร้เพื่อนสนิทที่จะมาเล่นด้วยในวันหยุด ไร้พี่น้องชีวิตของเขาอยู่กับตัวเอง อยู่คนเดียว เล่นคนเดียว สร้างจินตาการบนอากาศได้หย่างหลุดลอยด้วยการสมมติขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรืออะไรก็ตามจะถูกสมมติขึ้นมาทั้งสิ้นย้อนไปถึงตอนเด็ก(กว่า)เขาจะถูกล้อจากคนอื่นๆเสมอๆเพราะคนที่จะมาเล่นกับเขาคือผู้หญิง แน่นอนผู้หญิงสิ่งที่เขาจะเล่นกันพ่อแม่ลูก ถือว่าคลาสสิคสุดๆแล้ว ผมเลยอยู่กับเพื่อนกลุ่มผู้หญิงมาเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นมัดผมถักเปีย เล่นตุ๊กตา โถชีวิต อิอิ แต่ก็ดีเพราะความอ่อนโยน
สุภาพเรียบร้อยเลยติดมาด้วยแบบไม่รู้ตัว จนถึงสักช่วงนึงเริ่มมีคนเอ็ดลูกสาวเขาที่มาเล่นกับเรา เพราะผู้ชายกับผู้หญิงบ้าง เขาติที่ฐานะเราบ้าง เพราผมเป็นเพียงลูกกรรมกร ก่อสร้างที่แสนจะยากจนคนที่มาเล่นด้วยเขาคงไม่คิดอะไรเพราะยังเด็กๆด้วยกันทั้งนั้น แต่คงจะเป็นเหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองของเขา ที่ต่างเป็นลูกคนรวยมีเงิน มีบ้านสวยๆที่อยู่ละแวกที่พ่อแม่ผมทำงานก่อสร้างทั้งนั้น ชีวิตของเด็กชายที่เปื้อนฝุ่น อิฐ หิน ปูนทราย
คงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้เข้าใกล้ คงเป็นเพราะรอยยิ้มที่จริงใจของเด็กใสซื่อไม่รู้อะไรยังจำได้วันนึงแม่ซื้อรถตักดินให้ราคาคงจะสิบบาทถ้าจะไม่ผิด ดีใจมากเลยของเล่นชิ้นแรกที่ได้ เพราะส่วนใหญ่ที่เล่นรถก็จะเป็นอิฐแดกก้อนแล้วเอามาเข็น ๆ ๆ ๆ กับกองทรายพอได้รถก็นั่งเล่นอยู่แล้วมีเด็กชายคนหนึ่งมายืนมองรุ่นเดียวกับเราด้วย ในใจของเด็กชายคนนี้คิดไปเขาคงอยากเล่นกับเรา มาซิ ๆ มาเล่นด้วยกันเสียงเรียกแบบเชิญชวนโดยไม่คิดอะไร เด็กชายคนนี้ก็เดินกำลังจะไปจูงแขนเขามาเล่นด้วย
แต่ไม่เจียมกะลาหัวเอาซะเลยพอเราเดินเขาไปสิ่งที่ได้ตอบรับมาคือการผลักอกอย่างแรงจนหงายกลิ้ง เรานั่งฟุ๊บลงอย่างหมดท่าแม่ของเด็กชายคนนั้นมาจากไหนไม่รู้พร้อมเสียงเอะอะ เหมือนว่าเราไปทำอะไรลูกของเขาเด็กชายยิ้มอย่างไม่รู้อะไรคิดแค่ก็อยากให้มาเล่นด้วยกัน แม่ของเด็กชายคนนั้นพาลูกไปขึ้นรถอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้ารังเกียจ(มาคิดเอาตอนโตเพราะจำได้ไม่ลืม อิอิ) รอยยิ้มแห้งของเราอยู่บนใบหน้าพร้อมกับงง ๆ กับเหตุการณ์ที่ผ่านไป แม่เราปรี่เขามาอย่างรวดเร็ว ปล่าวแม่เราไม่ได้มาประคองเรา
ไม่ได้มาโอ๋เราเหมือนเด็กชายคนเมื่อกี้ เสียงมือตีมาที่ตัวเราเพี๊ยะ ไปทำอะไรเขา!! เสียงของแม่ดังสนั่น พร้องกับตีเราอย่างไม่มีการถามเรื่องราว น้ำตาของเราไหลเป็นทางเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดแต่เราก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น แม่ตีเราอย่างแรงแต่แม่ ก็บอกให้เราเงียบ เสียงสะอึกสะอื้นของเรายังอยู่ เด็กน้อยเดินไปหลบมุมอยู่ข้างกองอิฐที่เดิมที่เราเคยอยู่ นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้นพร้อมกับเล่นอิฐเหมือนเดิม
รถที่แม่ซื้อให้ไปไหนแล้วไม่รู้ แต่ยังไม่กล้าออกไปจากตรงนี้นั่งอยู่จนเย็น ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนของเด็กชายคนนี้ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ไม่กล้าพูดจากับใคร ไม่กล้าจะเล่นกับใครอีกเลย เพื่อนผู้หญิงที่เคยเล่นด้วยกันเราก็ไม่กล้าเล่นด้วย นี่คือสาเหตุที่เราอยู่คนเดียวพูดจาคนเดียวเหมือนจะบ้า แต่นั้นคือสิ่งเดียวที่เราทำได้เพื่อที่จะมีความสุขกับการเล่น
พอเริ่มที่จะโตมาอีกนิด เราก็จะเล่นกับเด็กเล็ก ๆ ที่แทบจะพูดไม่รู้เรื่องเราก็ได้เด็กน้อยเหล่านี้แหล่ะเล่นกับเขา เพราะยังไงเขาก็ต้องเล่นกับเราอยู่แล้ว อิอิ แต่เสียอย่างเดียวเวลางอแง ร้องจ๊ากกกกอย่างเดียว แต่เด็กเหล่านั้นคือสิ่งเดียวที่เราได้เล่นด้วย มาถึงวันนี้เราคิดถึงตอนที่แม่ตีเราครั้งนั้น ครั้งแรกได้ติดใจ
แม่คงปวดใจอย่างมากที่ตีลูกชายคนนี้ถึงแม่จะรู้อย่างดีว่าเราคงไม่ทำอะไรใคร แต่แม่คงทำอะไรไม่ได้มากกว่าการตีลูกตัวเอง เพราะเรามันจนใช่ไหมแม่ เรามันแค่คนงานก่อสร้างใช่ไหม คำถามเกิดขึ้นในใจ แต่เราก็รู้อยู่เต็มประดาว่ามันคืออะไร เวลาผ่านไปมันก็กลืนกินทุกอย่างมาจนเรามาเข้าเรียน.....ติดตามตอนต่อไปตอน3 ไดอะรี่คนตัวดำ 3 จะมาต่อจากที่เริ่มวันเสาร์ เย้ เย้ เย้ ว่าเกิดอะไรขึ้น
Bookmarks