-
นักการภารโรง
ฉลองยิ่งใหญ่ออกพรรษ...ตื่นตางานประเพณีไหลเรือไฟ
เที่ยวงานกาชาดนครพนมชมศิลปวัฒนธรรมไทย
ประเพณีไหลเรือไฟ ในวันออกพรรษา นับเป็นงานยิ่งใหญ่ที่คนไทยรู้จักกันดี โดยเฉพาะชาวนครพนม ดังนั้น จังหวัดนครพนม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาลเมืองนครพนม จึงร่วมกันจัดงานออกพรรษา “ประเพณีไหลเรือไฟ และงานกาชาด ประจำปี 2552” ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 5 ตุลาคม 2552 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ศาลากลางจังหวัดนครพนม และเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การออกร้านและนิทรรศการของส่วนราชการ งานกาชาด การแสดงดนตรี คอนเสิร์ต หมอลำ สวนสนุกชุดใหญ่ คาราวานสินค้าราคาถูกจากโรงงาน สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์จากอำเภอต่าง ๆ ทุกอำเภอ การแสดงผลิตภัณฑ์ สินค้าและศิลปวัฒนธรรม ไทย-ลาว-เวียดนาม ณ บริเวณศาลากลางจังหวัด และยังจะได้ชม มหกรรมไหลเรือไฟ อันตระการตา ท่ามกลางแสงจันทร์คืนเดือนเพ็ญในลำน้ำโขง คือ วันที่ 4 ตุลาคม 2552 คือ วันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 การประกวดธิดาเรือไฟ การแสดงเรือไฟ 3 ชาติ และการแสดงผลิตภัณฑ์สินค้า ศิลปวัฒนธรรมไทย-ลาว-เวียดนาม การแข่งขันเรือยาวระหว่างประเทศมิตรภาพ ไทย-ลาว และมหกรรมสายน้ำ (โขงมหาธารา..มนตรานครพนม) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา
นอกจากนี้ยังจะได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองที่แสนอร่อย งานข้าวพาแลง ถนนอาหารและถนนคนเดิน การรำบูชาองค์พระธาตุพนม ณ ลานหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม (วันที่ 4 ตุลาคม 2552) การตักบาตรเทโว ณ บริเวณหน้าตลาดอินโดจีน ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม (วันที่ 5 ตุลาคม 2552) การประกวดขบวนแห่ปราสาทผึ้งของ 24 ชุมชน
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า งานประเพณีไหลเรือไฟ เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ ปี โดยรวมเอางานกาชาดประจำปี 2552 เข้ามาด้วย มีการจำหน่ายสลากกาชาด การล้วงไหกาชาด มีรางวัลมากมาย ผู้มาเที่ยวงานจะได้ทั้งบุญ กุศล และความสนุกสนาน ขณะเดียวกัน ได้คัดสรรดนตรีและนักร้องชื่อดัง มากมาย เช่น ปู-พงษ์สิทธิ์ เดวิด อินธี พี สะเดิด แคลช เสียงอิสาณ โปเตโต้ วงเฟรม มาให้ความสุขแก่ผู้มาเที่ยวงาน
ทางด้าน นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม กล่าวว่า เทศบาล เมืองนครพนม จัดการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2552 โดยมีเรือยาวจาก สปป.ลาว และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมแข่งขันกว่า 50 ลำ
ขณะที่ นายวิชุกร กุหลาบศรี ผอ.ททท. สำนักงานนครพนม กล่าวว่า ททท.ได้ให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ด้วยการพิมพ์ โปสเตอร์แจกจ่ายไปยัง สำนักงาน ททท.ทุกแห่ง และต่างประเทศ มอบเงินจำนวนหนึ่งสนับสนุนงาน ให้งานยิ่งใหญ่ สมกับงานประเพณีประจำปี
สำหรับ การไหลเรือไฟ ถือเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่ ดาวดึงส์พิภพ เพื่อแสดงพระสัทธรรมเทศนา อภิธรรม 7 คัมภีร์ (บทที่ใช้สวดในงานศพ) เพื่อโปรดพระพุทธมารดา เมื่อออกพรรษาแล้วพระพุทธเจ้าก็เสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ โดยบันไดทิพย์ทั้ง 3 คือ บันไดทองอยู่เบื้องขวาเป็นที่ลงแห่งหมู่เทพยดา บันไดเงินเป็นที่ลงแห่งหมู่พรหม ส่วนบันไดแก้วเป็นทางเสด็จของพระพุทธเจ้า หัวบันไดอยู่ยอดเขาพระสิเนรุราช ทรงแสดง “โลกวรณ์ปาฏิหาริย์” คือ เปิดโลกโดยทอดพระเนตรไปเบื้องบนถึงพรหมโลกเบื้องต่ำสุดถึงอเวจีนรกและทิศ ต่าง ๆ ทั้งแปดทิศโลกธาตุแห่งหมื่นเดียวกัน ทำให้สวรรค์มนุษย์นรกแลเห็นกันและกันจึงเรียกวันนี้ว่า“วันพระเจ้าโปรดโลก” พระองค์เสด็จมา ณ เมืองสังกัสสะสถานที่นั้น เรียกว่า “อจลเจดีย์” ทวยเทพทั้งหลายส่งเสด็จ มนุษย์ทั้งหลายรับเสด็จด้วยเครื่องสักการบูชามโหฬาร การไหลเรือไฟ ก็คือ เป็นการสักการบูชามโหฬาร การไหลเรือไฟก็คือ เป็นการสักการบูชาอย่างหนึ่งในวันนั้น และได้ทำเป็นประเพณีสืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ยังมีตำนานการไหลเรือไฟที่กล่าวมาถึงที่มาของการไหลเรือไฟแตกต่าง ออกไปอีก ซึ่งแต่ละตำนานล้วนมีเหตุผลที่แตกต่างกัน ไป มีการอ้างอิงพระพุทธประวัติเมื่อสมัยสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว อย่างไรก็ตาม วิธีการทำเรือไฟ แต่เดิมถึงวันออกพรรษาชาวคุ้มต่าง ๆ จะพากันหาท่อนกล้วยหรือไม้ไผ่มาต่อเป็นลำเรือยาวประมาณ 5-6 วา ทำหัวท้ายเหมือนเรือธรรมดา แคมเรือยกขึ้นสูงหนึ่งเมตร ทำราวไว้ทั้งสองข้าง เพื่อวางขี้ไต้ ตะเกียงหรือโคมไฟ จัดหาข้าวปลาอาหาร ฝ้ายใน ไหมหลอด เสื่อผืน แพรวา ไว้ข้างใน พอเวลาเย็นประมาณ 5 โมง จะเริ่มทำพิธีไหลเรือไฟ โดยนิมนต์พระสงฆ์สวดมนต์ไหว้พระรับศีล และฟังเทศน์ เมื่อเสร็จแล้วจะให้ญาติโยมประดับตกแต่งเรือด้วยดอกไม้ธูปเทียนที่ถือไป ประกอบพิธีทางศาสนา พอเวลาย่ำค่ำก็จุดไฟในเรือแล้วปล่อยไปตามแม่น้ำ ปัจจุบันการทำเรือไฟได้พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น สามารถออกแบบรูปต่าง ๆ ประดับดวงไฟนับหมื่นดวง สว่างไสวตามลำแม่น้ำโขง งานตระการตายิ่งนัก นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดกับประเพณีอันโด่งดังของชาวอีสาน.
บัณฑิต แสงวิจิตร
นสพ.เดลินิวส์
-
Super Moderator
Guide & Photographer
เอ่าๆ ตากล้องทั้งหลาย รายงานตัวเร้ววว
e(9:
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks