กำลังแสดงผล 1 ถึง 4 จากทั้งหมด 4

หัวข้อ: คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต

  1. #1
    Super Moderator สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    วันที่สมัคร
    Jul 2007
    ที่อยู่
    เหนือสุดในสยาม
    กระทู้
    1,977
    บล็อก
    17

    คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต



    วันนี้ได้รับเมลล์ เรื่อง คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต จากพี่คนหนึ่งที่เป็นพยาบาลที่รู้จักกัน
    การสูญคนที่รัก..จากการเป็นโรคมะเร็งเป็นเรื่องที่น่าเศร้านะค่ะ
    เพราะ..หมูน้อยเจอเรื่องนี้มากับตัวเอง....และคิดว่าการดูแลสุขภาพตัวเองโดย
    เฉพาะเรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่สำคัญ..เลยหยิบเรื่องนี้มาฝากพี่น้องบ้านมหาทุกคนค่ะ
    ....คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต การสูญเสียคนที่เรารัก..ที่เรามีโอกาสรู้ว่าเขาเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
    ก่อนเสียชีวตแค่ 2 อาทิตย์ 2 อาทิตย์กับการได้อยู่ดูแลเขา
    เป็นเรื่องที่เศร้านะค่ะ..เศร้าจนเราไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้กับคนที่เรารักอีกเลย
    แต่เราก็ไม่สามารถห้ามได้..เรามาป้องกัน-กันดีกว่านะค่ะ
    ก่อนที่จะเกิดการสูญเสียโดยที่ตั้งตัวไม่ทัน...คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิตคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต


    โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจขาดเลือด
    ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุการเจ็บป่วย และเสียชีวิตของคนไทยในระดับต้นๆ
    และจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรค
    การรับประทานอาหารไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมถึงชั่วโมงละ 7คน
    หรือปีละ 61,320 คน



    หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัด
    โรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก
    ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์


    1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน
    จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งใน
    ร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบ
    เซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น


    2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

    3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเรงจะถูกทำลายและป้องกัน
    ไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

    4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับ
    โภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

    5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภท
    ของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

    6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
    แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก
    ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย
    เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

    7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้
    เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ

    8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ
    อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

    9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกัน
    อาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตราย
    จากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

    10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา
    และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

    11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไป
    ใช้ในการขยายตัว


    อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง

    a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับ
    เซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล ""
    ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า
    คือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูป
    ก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน

    b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็ง
    จะไ้ด้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม
    จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

    c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะ
    กรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อ
    และหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิต
    บางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

    d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง
    และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจ
    ได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึม
    ได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญ
    เติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด
    ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน
    เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F ( ประมาณ 40 องศา C)

    e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือก
    ที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง
    เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด
    ให้หลีกเลี่ยง


    12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย
    เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษ
    มากขึ้น

    13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง
    จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้
    เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

    14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol
    hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-
    อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถ
    กำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการ
    ตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย
    ในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

    15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและ
    การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ
    การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะ
    เป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อน
    คลายและมีความสุขกับชีวิต

    16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การ
    ออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้่ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไป
    จนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

    "รัก" และ "กำลังใจ" ฉันมีไว้เพื่อแบ่งปัน

  2. #2
    อ่านแล้วอาหารที่กินส่วนใหญ่มีส่วนอาหารป้อนมะเร็งหมดเลย T_T

  3. #3
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ชิงช้าชาลี
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    กระทู้
    644
    บล็อก
    1
    โอย แย่แล้ว ทำยังไงดี ป่านนี้น้องเซลล์กำลังเปรมอยู่กับอาหารชั้นเลิศกันอยู่แน่ๆ ขอบคุณคุณหมูน้อยจริงๆ

  4. #4
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ลูกอิสาน
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    กระทู้
    460
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้า ได้ประโยชน์อิหลีจ้า สิได้หันมาใส่ใจกับสุขภาพเจ่าของแล้วจ้า
    ก่อนที่สิสายเกินไปคือบุคคลใกล้ชิด มะเร็งนี้บ่ปราณีไผ๋อิหลี

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •