ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีเด็กน้อยกำพร้าอยู่คนหนึ่ง ญาติพี่น้องไม่มีใครสนใจ
เขาจึงต้องเที่ยวเร่ร่อนขอทานตามหมู่บ้านต่างๆ พอได้กินไปวันๆ
หลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่งสงสารจึงรับเลี้ยงไว้เป็นลูกศิษย์ในวัด

ในสมัยนั้นเด็กผู้ชายจะต้องออกจากบ้านไปหาเรียนวิชาแล้วแต่ใครต้องการเรียนอะไร
หลวงพ่อก็สั่งท้าวกำพร้าให้ไปเรียนวิชาเช่นกัน โดยก่อนไปได้กำชับว่า

"เรียนอะไรก็เรียนให้จบ และอยากเรียนอะไรก็ให้เลือกเรียนได้ตามใจชอบหลวงพ่อไม่ว่าอะไร"

ณ สำนักเรียนที่มีอาจารย์เก่งทางวิชาอาคมเวทมนตร์ต่างๆ เปิดสอนให้กับผู้คนทั่วไป
โดยเฉพาะคนหนุ่มๆนิยมไปเรียนกันมาก หลายคนเลือกเรียนวิชาตามใจชอบ
แต่ท้าวกำพร้ากลับเลือกเรียนในวิชาที่ไม่มีใครเรียนกัน นั่นคือ
"วิชามนต์ตด"
เขาเพียรพยายามเรียนจนจบตามที่หลวงพ่อสั่งไว้ว่าเรียนอะไรก็เรียนให้จบ

ข่าวการเรียนมนต์ตดได้ยินไปถึงหูของญาติพี่น้องของเขา ยิ่งเพิ่มความจงเกลียดจงชังมากขึ้น

"เรียนอะไรไม่เรียนไปเรียนมนต์ตด ไม่ต้องเรียนมันก็ตดอยู่แล้ว ไปเรียนให้เสียเวลาทำไม"
ญาติคนหนึ่งบ่นท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตด

อันตัวข้าพเจ้ามีนามกรว่า...ท้าวกำพร้า
ได้ศึกษาวิชา...มนตราว่าด้วยตด...ทั้งตดยาว...ตดสั้น
ตดไปข้างหน้า...ตดมาข้างหลัง...ตดลอยสูง...ตดลอยต่ำ
ตดควบคุมเสียง...ตดเสียงสูง...เสียงต่ำ...ตดดัง...ตอค่อย
ตดไร้เสียง...................................................................
..................................................................................
ตดควบคุมกลิ่น...ทั้งกลิ่นหนา...กลิ่นบาง...ตดสร้างมิตร...
เสน่ห์ยาแฝด...ตดใส่หญิง หญิงรัก...ตดใส่ชาย ชายหลง..
..ตดใส่ตุ๊ด ตุ๊ดเป็นลม...เอ้ยไม่ใช่...หลงคารม.................
ตดกลิ่นทำลายมิตรภาพ...........ตดพิฆาตศัตรูพ่าย......
..........................................
เมื่อศึกษาจนแตกฉาน
คิดทำการณ์สิ่งใด ก็สำเร็จดังประสงค์


พอเรียนจบเขากลับมาหาหลวงพ่อและเล่าเรื่องราวการเรียนให้หลวงพ่อฟัง
หลวงพ่อไม่ว่าอะไรได้แต่ให้กำลังใจว่า

"ใครจะว่าอะไรก็อย่าไปสนใจ วิชาอะไรทุกอย่าง
มันมีคุณทั้งนั้น ขอให้รักษาวิชาตดไว้ให้ดีบางทีเราอาจได้อาศัย"


อยู่มาวันหนึ่งมีเรือสำเภาขนาดใหญ่ขนสัมภาระเพื่อไปจำหน่ายมากมาย
พอไปถึงหมู่บ้านนั้นเกิดไปติดหาดทรายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
จ้างคนทั้งหมู่บ้านลากเข็นก็ไม่ไป พอดีเท้ากำพร้าเดินไปพบเข้าจึงพูดออกไปว่า

"เรือติดแค่นี้ ไม่ต้องทำอะไรมากเลย เพียงแค่ฉันตดใส่เท่านั้นก็เคลื่อนออกได้แล้ว"

นายสำเภาได้ยินดังนั้นก็โกรธแค้นมาก คิดว่าท้าวกำพร้าพูดสบประมาท
"ข้าจ้างคนทั้งหมู่บ้านยังลากออกไม่ได้ เอ็งเก่งมาจากไหนวะจะมาตดใส่ให้สำเภาเคลื่อนออกไปได้"
พอพูดจบนายสำเภาก็สั่งลูกน้องให้จับตัวท้าวกำพร้าไว้ ฐานพูดจาดูหมิ่น

"ช้าก่อนท่าน" ท้าวกำพร้าชิงพูดขึ้น
"ข้ายังไม่ทันตดให้ดูเลย ทำไมท่านถึงคิดว่าทำไม่ได้ต้องพิสูจน์กันก่อนซิ
ถ้าข้าตดแล้วสำเภาออกไปได้ ท่านจะยอมให้สินค้าทั้งหมดบนเรือแก่ข้าไหม"


"ตกลง...ถ้าสำเภาเคลื่อนไปได้ ข้าจะยกสินค้าในสำเภาให้เอ็งหมด แต่ถ้าเคลื่อนไม่ได้
เอ็งจะต้องถูกฆ่าตาย"
นายสำเภาตกลงและต่อรอง

เมื่อตกลงดังนั้นแล้ว ท้าวกำพร้าจึงยกมือเหนือหัวแล้วอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์
เสร็จแล้วจึงเบ่งตดออกมาเสียงดัง....
"ป้าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
ทุกคนตกตะลึงแทบไม่เชื่อสายตาและหู ที่สำเภาได้ค่อยๆเคลื่อนออกจากหาดทราย
นายสำเภาดีใจมาก จึงได้มอบสินค้าทุกอย่างที่มีบนเรือ ให้หนุ่มน้อยไปตามสัญญา

จากนั้นท้าวกำพร้าก็มีฐานะร่ำรวย ไม่อดอยากอีกต่อไป


จบบริบูรณ์

ท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตด

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"คิดจะเรียนอะไรก็เรียนให้จบ อยากจะเรียนอะไรก็ให้เลือกเรียนได้ตามใจชอบ
ใครจะว่าอย่างไรก็อย่าไปสนใจ วิชาอะไรทุกอย่างมันมีคุณทั้งนั้น"


ท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตดท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตดท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตดท้าวกำพร้าเรียนมนต์ตด