..จักเป็นนำกรรมที่สร้างมาแต่ชาติก่อน หรือชาตินี้ได้สร้างกรรมอิหยังไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงบ่ได้ ..
**ความจริงที่เรามักเข้าใจผิดและเหมารวมว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะกรรมเก่า**
แต่บางอย่างมันเกิดจากการกระทำของเรานี่แหละ มาฟังเรื่องสั้นๆ ขอบอกว่าสั้นๆ นี่จักหน่อย
..อิสริยา รู้สึกตัวเจ้าของว่า เป็นหยังคือท้องอืด ปวดท้อง คักแท้ช่วง 10กว่ามื้อมานี่ ในใจกะคึดว่าเจ้าของเป็นคนธาตุหนัก กะเลยท้องผูกเป็นประจำอยู่แล้ว กะบ่หัวซาเจ้าของ แต่พักนี้ฮู้สึกว่าอาการสิหนักกว่าเก่า มันรบกวนจิตใจ กระวนกระวาย เว้าซื่อๆคือ บ่เป็นตาอยู่ในร่างกายเจ้าของนี่แหละ
.. จนในที่สุด ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว รู้สึกเจ็บตามกล้ามเนื้อหน้าท้อง (คิดในใจ เอ๋ เราซิทอัพไปเมื่อไหร่หว่า ทำไมเหมือนเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมา) แต่ก็ไม่น่าใช่ ที่สำคัญ ปวดฉี่บ่อยมากๆ ทุกๆ2 ชม.ต้องวิ่งไปห้องน้ำ สงกะสัย ตูนั่งทำงานในห้องแอร์ และอากาศช่วงนี้ฝนตกบ่อย .. ซะงั้น ...ด้วยความมักง่ายของตัวเอง คงบ่เป็นหยังดอก เราแข็งแรงอยู่แล่ว สบายมาก .. ( มั่นใจเจ้าของแฮง)
วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นั่งคลุกอยู่ที่โต๊ะทำงานเกือบ 2 ชม. รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ ดิฉันก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เหมือนมีดหรือเข็มสัก 100 ด้าม พุ่งเข้าชนท้องน้อยด้านขวาอย่างแรง และเสียบขาอยู่อย่างนั้น ด้วยความเจ็บ เสียด ๆ (คือก้างปลาคาคอ) อิสริยาทรุดฮวบลงกับพื้นห้อง หมู่พวกตกใจ กันหมด แล่นมาประคอง นังนี่ยังใจแข็ง (กลัวเสียฟอร์ม) บอกน้องๆเพื่อนๆ บ่เป็นหยัง ตูหน้ามืด นั่งซักพักน่าจะดีขึ้น หลังจากนั้นก็พาตัวเอง เกาะผนังห้องออกไปห้องน้ำ (ขณะนั้นเหมือนกล้ามเนื้อจะฉีกออกจากกันให้ได้ เจ็บลึกไปตามสันหลังและปลายเท้า)
คิดใจใน ..ตู ตายแน่ ๆ ถ่าเป็นแบบนี่ อิพ่อ อิแม่ อยู่ไสน้อ หน่าเอ้ย มึง เป็นไรวะ
แต่พอนั่งสักพักอาการก็จะหายไป
อาการเป็นแบบนี้มาได้ 2-3 วัน จนวันที่ 25 กย. ไม่ไหวแล้ว เป็นไงเป็นกัน วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่า เป็นหยังกันแน่ ....อิสริยาก็พาตัวเองไปหาหมอที่โรงพยาบาลแถวๆที่ทำงาน
แต่ก็ยังเก็กไม่เลิก ไม่บอกพ่อ แม่ แต่บอกคนขับรถประจำตัวว่า ไม่ไหวแล้วไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และบอกเพื่อนๆว่าไปตรวจร่างกายประจำปีซะหน่อย แต่ใจลึกๆ สาธุ ขออย่าให้ลูกเป็นอะไรนะ
..พอไปถึงโรงพยาบาล ขอตรวจร่างกายทั่วไป เสร็จ ขอตรวจพิเศษมะเร็ง ทางเดินอาหาร เสร็จ ... ก็เลยกระซิบบอกพยาบาลว่า ขอตรวจอาการเจ็บท้องน้อยด้วย เพราะเจ็บมาหลายวันแล่ว ..พยาบาลซักอาการสักพัก ก็ส่งดิฉันไปแผนกอายุรกรรม (เอ๊ะ ทำไมมาแผนกนี้วะ สงสัยแต่ก็เดินทางพยาบาลไป ) พอพบคุณหมอ (เกือบแก่) แกก็ซักประวัติ ปวดมากี่วันแล่ว เมนส์มาวันสุดท้ายเมื่อไหร่ มีลูกกี่คนแล่ว พ่อแม่มีใครเป็นโรคร้าย ฯลฯ .....
แล่วคุณหมอก็บอกพยาบาลว่า พาคนไข้ไปแผนกสูติที อ้าว มาผิดแผนก ...คือเป็นจั่งซั่นล่ะพ่อใหญ่หมอ ไปกะไป (ตายเอาดาบหน้า) ...พอมาถึงแผนกสูติ คุณหมอ ผู้ชายไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ แกก็ซักประวัติเหมือนข้างบน แล่วคุณหมอ กะบอกว่า ไป นอนรอหมอบนเตียง ถอดกางเกงออกให้หมดนะ (กรี๊ด ไม่จริง )
คุณหมอขอตรวจภายในค่ะ (ขอเซ็นเซอร์ค่ะ) แล่วคุณหมอก็บอกว่า ไปห้องอัลตร้าซาวนด์เหมือนจะเจอก้อนอะไรสักอย่าง ( แป่ว เปรี๊ยง ... อารายกานอีกเนี่ย พ่อลุงหมอ ห้องนั่นกะห้องนี่ คือไปเรื่อยๆปานรถขายโอ่งแท้)
หลังจากกินน้ำไป 1 ขวดใหญ่เพื่อถ่าให้ปวดฉี่ แต่บ่ให้ฉี่ ถ้าปวดยามใด๋ให้ไปบอกพยาบาล ว่าปวดแล่ว เพิ่นกะพาไปห้องอุลตร้าซาวนด์
(ถอดกางเกงอีกแล่วค่ะ ) บรรยากาศดี๊ดีค่ะ เหมือนคุณแม่กำลังนอนรอลุ้นว่า ลูกในครรภ์จะเป็นหญิงหรือชาย แต่สำหรับข้าน่อย บ่อยากเห็นอีหยังอะโลด หมอเพิ่นเปิดหน้าจอให้เบิ่งว่า หม่องนี่เป็นพกเยี่ยว หม่องนี่เป็นมดลูก หม่องนี่เป็นปีกมดลูก (ขอบรรยาศอีสานเด้อ เพราะบ่อยากให้เจ้าของเศร้ากั่วนี่) แต่หม่องปีกข้างขวา มันเป็นก้อนโตผิดปกติ ถ้าเทียบกับฝั่งซ้ายที่แนมบ่เห็นหยังเลย (แปลว่าไรคะ หมอ ! ) ก็หมายถึงมันมีก้อนเนื้อ 1 ก้อนขนาดก็เกือบ 2 ซม. สิ่งนี่แหละที่ทำให้คุณอิสริยา ปวดเสียดท้อง ปัสสาวะบ่อย เพราะมันไปดันอย่างอื่น ..(แล้วไงคะหมอ ! คิดในใจ) ได้แค่ พยักหน้า ค่ะ ค่ะ แล้วหมอก็บอกว่า ไปพบหมอที่ห้อง เพื่อบอกอาการโดยรวมอีกทีนึง
ไม่จริงใช่ไหมหน่า แกเป็นเนื้องอกที่ปีกมดลูกเหรอ (วินิจฉัยโรคเองเลย) แกจะเป็นมะเร็งหรือเปล่า แล่วถ้าเป็นจริง จะทำยังไง ? ฯลฯ ? !!!! ?? ในสมองมีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ บอกกงๆว่าสมองว่างเปล่า เหมือนกล่องสูญญากาศ ล่องลอยไปมา วนเวียนแต่คำถามเดิมๆ (สติแตกกระเจิง ) โทรไปบอกคนขับรถว่า ตรวจแล่ว หมอเพิ่นบอกว่ามีก้อนเนื้อในมดลูก (เสียงอ่อยๆเหมือนป่วยหนักสุดชีวิต และตัดสายโทรศัพท์ทันทีเพราะไม่สามารถเว้าต่อไปได้)
สรุปคุณหมอสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการบวม อาจจะไม่ใช่ก้อนเนื้อ ให้ยามากินก่อน สัก 7 วัน หากไม่หายบวม อาจจะเป็นช็อคโกแลตซีส ( อ้าว หมอทำไมในห้องอัลตร้าซาวนด์พูดซะน่ากลัว ทำไมตอนนี้ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างเดียวล่ะ ) แล่วไอ้ช็อคโกแลตซีส เนี่ย มันกินยาแล่วหายไหม เพราะไม่อยากผ่าตัดง่ะ หมอบอกว่า ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็ต้องผ่าอย่างเดียว ....
หมอบอกว่าเคยตรวจภายในดูบ้างไหมเนี่ย อายุก็เยอะแล่วนะ ทำไมถึงไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง นี่ถ้าไม่แสดงอาการก็ไม่มาหาหมอใช่ไหม (หมอหรือแม่วะเนี่ย แต่ก็จริงของเพิ่น ตอนนี้นึกอยากเขกกบาล เจ่าของสัก ร้อยเทือ แต่ก็กลัวเจ็บ)
สรุปได้ยา เม็ดเท่าหัวแม่มือมา 20 เม็ด ฆ่าเชื้ออย่างแรง (รอวันศุกร์หน้าไปพบหมออีกทีนึง )
จบแล่วค่ะ ที่อยากเขียนบรรยาย หม่องนี่แหละว่า อยากระบายค่ะ เพราะคิดว่าเรื่องใดที่เราไม่สบายใจ ไม่รีแลกซ์ การปลดปล่อยมันออกมา ถ่ายทอดออกมาทางการเม้าท์ หรือตัวอักษร เพื่อให่คนอื่นได้รับรู้บ้าง มันช่วยผ่อนคลายได้จริงๆ อย่างน้อยก็ยังมีคนฟัง หรืออ่านบ้างสักคนก็ยังดี
Bookmarks