ถึงเวลาที่จะหลุดจากบ่วงพันธนาการ
ในสมัยก่อนนั้น....
แถบแถวจังหวัดสุรินทร์ ถิ่นอีสาน มีการออกคล้องช้าง ซึ่งผู้ที่ทำการคล้องช้างจะถูกเรียกว่าหมอช้าง หมอช้างจะเป็นผู้ที่คาถาอาคมในการจับช้าง ซึ่งช้างที่จะเลือกคล้องมานั้น จะต้องเป็นลูกช้าง เพราะว่าง่ายต่อการฝึกสอน
ช้างที่ถูกคล้องมาได้จะถูกจับไว้ในเพนียด โดยเพนียดจะทำโดย ใช้ซุงต้นใหญ่ๆล้อมทำเป็นคอกวงกลมโดยมีทางเข้าออกเพียงแค่ทางเดียว และทางออกจะมีสลักซึ่งเป็นซุงขนาดใหญ่กั้นไว้แล้วมี ซุงอีกท่อนปักอยู่กลางเพนียด เพื่อล่ามช้างไว้ตรงกลางด้วยโซ่ตรวน
ลูกช้างที่ถูกจับมาจะถูกล่ามไว้กลางเพนียด ความเป็นสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ในป่า ลูกช้างตัวนี้จึงพยายามที่จะเดินที่จะให้ตัวองหลุดออกจากโซ่ตรวนที่ถูกพันธนาการไว้ มันพยายามทุกวันวันละหลายๆครั้งแต่ทุกครั้งที่มันดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้น มันเริ่มรู้สึกว่าถึงแม้ว่ามันจะดิ้นรนสักเท่าไร มันก็ไม่สามารถที่จะทำลายหรือหลุดพ้นจากโซ่ตรวนที่ผูกไว้ที่ข้อเท้ามันได้แถมยิ่งดิ้นรนมันยิ่งรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่มันได้รับ อนิจจาบ่วงพันธนาการ...
ช้างน้อยคิดอยู่ในใจว่ามันคงไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากโซ่ตรวนเส้นนี้ได้อย่างแน่นอน ทุกๆครั้งที่มันเดินจนโซ่ตึง มันจึงหันหลังกลับเพื่อที่เท้ามันจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ มันทำเช่นนี้จนกระทั่งตัวมันใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น...ทุกที ด้วยพละกำลังอันมหาศาล
แต่ด้วยความเคยชินที่มันรับรู้ได้มาโดยตลอดว่าถ้าโซ่ตึงเมื่อไรมันจะต้องหันหลังกลับ จึงทำให้มันต้องถูกโซ่ที่ตึงมันมาตั้งแต่ตัวยังเล็กๆยังคงพันธนาการมันอยู่ และมันก็คงจะลืมไปว่าโซ่เส้นเล็กแค่นั้น ไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของช้างใหญ่อย่างมันได้
และถ้าหากมันคิดจะสู้อีกครั้งเพื่อปลดปล่อยพันธนาการที่มันได้รับมาตั้งแต่ยังเป็นลูกช้าง…มันก็คงทำได้
เหมือนกันกับท่านทั้งหลายหากสิ่งที่ผ่านมามัน...ทำให้ท่านต้องรู้สึกเจ็บปวดหรือรู้สึกว่าท้อแท้ แต่อย่าลืมว่าสิ่งนั้นมันผ่านมาแล้ว ปัจจุบันนี้ท่านคือผู้ที่มีกำลังมหาศาล สามารถที่จะฮึดกลับมาสู้อีกครั้งได้อย่างแน่นอน.........
ข้าพเจ้าเชื่อว่าคุณทำได้......ลองดูเถอะรวบรวมพลังที่ท่านมีทั้งหมดแล้วสู้ต่อไป...และขอเป็นกำลังใจในการปลดเปลื้องตัวเองจากห่วงพันธนาการ ด้วยสติปัญญา ด้วยความสามารถ ด้วยความรู้สึกที่ท่านมีพละกำลังอันมหาศาล...ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ...สู้ สู้ สู้
ข้อความบางส่วน นำมาจาก สาระแนดอทคอม
Bookmarks