รักนี้ดั่งนิยาย

ภาคแรก.........

บ่าว
เป็นหนุ่มชาวสมุทรปราการวัยยี่สิบปลายๆ
มีฟาร์มกุ้งของต ัวเองที่ต้องดูแล
และยังมีกิจการอื่นๆอีก
บ้าง เช่นขายหิน
ไม้กระบอก ไม้รวก


บ่าวจะล่องเรือเอี้ยมจุ๊นสองคนกับน้องชายจากสมุทรปราการเลาะชายฝั่งทะเลไปเข้าปากแม่น้ำแม่กลอง

แล่เรือทวนน้ำจากแม่กลองไปราชบุรีเพื่อซื้อหินที่ท่าหินซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ตัวเมืองราชบุรี
แล้วแวะซื้อไม้ไผ่
และไม้รวกที่มีขายอยู่ที่ท่าไม้ใกล้ๆกันเอาไปขายที่สมุทรปราการ

> > ตั้งแต่ครั้งแรกที่บ่าวแวะซื้อไม้รวกและไม้ไผ่ที่ท่านั้น
> > บ่าวสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในวัยยี่สิบต้นๆ
> > เป็น
> > หญิงสาวหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง
> > แต่ท่าทางเธอขยันช่วยครอบครัวค้าขาย
> > เพราะมากี่ครั้ง
> > ก็จะเห็นหญิง
> > สาวช่วยพ่อแม่ค้าขายอยู่ทุกครั้ง
> >
> >
> >
> > เป็นเวลานานที่บ่าวแวะซื้อไม้จากท่านี้เป็นประจำทุกเที่ยวที่มา
> > ไม่เคยเปลี่ยนไปซื้อท่าไหนเลย
> > และได้พบ
> > กับเธอ "สา ว" ทุกครั้ง
> > แต่ก็ไม่เคยพูดอะไรกันเลย
> >
> > เนื่องจากทราบว่าพ่อแม่หวงลูกสาว
> > แต่อะไรจะห้ามความรักได้
> > ในเมื่อทั้งสองคนที่ได้แค่สบตากันเท่านั้นต่
> > างก็มีความรู้สึกตรงกันทั้งที่ไม่เคยคุยกันสักครั้ง
> >
> > วันหนึ่งบ่าวแวะมาซื้อไม้อีก
> > วันนี้เขาตัดสินใจที่จะบอกความในใจให้สาวได้รับรู้
> > ไม่ว่าผลจะออกมาอย่าง
> > ไรก็ตาม
> > แต่บ่าวก็แอบมีความหวัง
> > เพราะสายตาสาวเจ้านั้นไม่มีแววของความรังเกียจเลยแม้แต่น้อย
> > แล้วเวลานั้นก็มาถึง
> > เมื่อสาวเจ้าขนไม้รวกมาส่ง
> > พอเดินเฉียดเพราะบ่าวตั้งใจ
> >
> > บ่าวกระซิบเบาๆพอได้ยินกันสองคนด้วยคำพูดคำแรกที่พูดด้วย
> > " คิดถึงนะ"
> > ความรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย
> > หัวใจชุ่มชื้นไปด้วยความสุข
> >
> > สาวเจ้าก็คงรู้สึกไม่แพ้กัน
> > เพราะบ่าวสังเกตได้ว่าหล่อนอาย
> > แต่ก็เก็บอาการเพราะกลัวสายตาพ่อกับแ ม่อ
> > ยู่
> > ก่อนจะถอยเรือออกจากท่า
> >
> >
บ่าวเห็นสายตาที่ส่งมาของสาวเจ้าอีกครั้ง......ช่างเป็นสายตาที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและเริงร่าอย่างไม่เค
> > ยเป็นมาก่อนในชีวิตวัยหนุ่มของบ่าว
> >
> > ตั้งแต่วันนั้นบ่าวนอนหลับอย่างมีความสุข
> > ทรมานนิดๆกับความคิดถึง
> > แต่มันช่างเป็นความทรมานที่เปี่ยมด้วย
> > ความสุขเสียนี่กระไร
> > และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
> > สาวเจ้าก็เฝ้าชะเง้อมองเรือ
> > เมื่อไรหนอเขาจะมา
> > เวลาช่างเชื่องช้าเหลือ
> > เกิน
> > เวลาล่วงเลยไปนานวันอย่างที่เป็นอยู่
> >
> > ความรักเกิดแล้ว
> > สองเราเข้าใจกันแล้วทางสายตา
> > บ่าวรู้แล้วว่านี่คือคนที่เขาต้องการใช้ชีวิตร่วมด้วยไป
> > ชั่วชีวิต
> > แล้วจะมีทางใดเล่าที่จะทำให้เป็นเช่นนั้น
> >
> >
ในที่สุดบ่าวตัดสินใจเข้าไปคุยขอแต่งงานกับแม่ของสาวเจ้าโดยไม่ได้บอกให้สาวเจ้ารู้ล่วงหน้า
> > เพรา ะคุย
> > กันไม่ได้
> > บอกความในใจและความต้องการของตน
> >
> > แม่ของสาวเจ้านิ่ง
> > และตอบแบบนิ่งๆ
> > โดยหลอกบ่าวว่า
> > มีหนุ่มแบ๊งค์จับจองไว้แล้ว
> > และจะมาขอเร็วๆนี้
> > จะด้วยไม่ชอบบ่าว
> >
หรือยังไม่อยากให้ลูกสาวออกเรือนก็ไม่มีใครเดาได้แต่ที่แน่ๆคือแม่ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้
> > สาวฟัง
> > จึงมีเพียงสาวคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
> >
> > หัวใจบ่าวแตกสลายทันที
> > สาวเจ้ามีคนรักแล้วทำไมจึงส่งสายตาเช่นนั้น
> > เกิดความสับสนในใจ
> > น้อยใจ
> > ทำไมสาวเจ้าไม่แสดงให้รู้แต่ต้นว่าไม่รับไมตรี
> > รู้สึกเสียหน้า
> >
> > หัวใจมันแตกสลายจริงๆกับรักครั้งแรก
> > บ่าวเดินลงเรือ
> > ถอยเรือออกจากท่ากลับบ้านโดยไม่หันไปมองสาว
> > เจ้าเลยแม้แต่น้อย
> > และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่แวะมาที่นี่อีกเลย
> >
> > และบ่าวก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
> > จากวันเป็นเดือน
> > จากเดือนเป็นปี
> > สาวเจ้าชะเง้อมองเรือเอี้ยมจุ๊นลำนั้นทุกวัน
> > เขาหายไปไหน
> > เขาเป็นอะไรไปหรือเปล่า
> > หรือเขามีคนอื่น
> > หรือ.............
> >
> > สารพัดคำถามที่ผุดขึ้นในใจ
> > มันกัดกร่อนและทรมานเหลือเกิน
> > ป่านนี้เขาคงมีคนอื่นไปแล้วกระมัง
> > เวลา
> > ล่วงเลยไปหลายปี
> > เลิกชะเง้อมองเรือเอี้ยมจุ๊นลำนั้นเถอะสาว
> > เขาคงไม่มาแล้วหละ
> >
> > ภาคจบ.............
> >
> > นานมากแล้ว "
> > สาว"ยังเป็นหญิงที่อยู่กับเหย้าเฝ้าแต่เรือน
> > เพราะไปไหนด้วยตัวเองไม่เป็น
> > ขับขี่รถไม่
> > ได้
> > จึงอยู่แต่บ้านไม่ไปไหน
> > สังคมของหล่อนคือบ้านเท่านั้น
> > และสายน้ำหน้าบ้านที่ต้องเห็นทุกวันคือเครื่องต
> > อกย้ำความรัก
> > ความคิดถึง
> > ที่ดูเหมือนไม่มีวันรู้ว่าทำไมเขาจึงจากไป
> > และแม่ของส าวก็จากโลกนี้ไปพร้อม
> > กับความลับที่สาวไม่รู้ตลอดกาล
> >
> > บ่าวก็ยังเป็นบ่าวคนเดิม
> > ทำงาน งาน และงาน
> > ที่แน่วแน่คือไม่ไปท่าไม้นั้นอีกเลย
> > มันทรมานหัวใจที่พบรัก
> > ครั้งแรกของชายหนุ่มจนเกินจะยอมรับ
> >
> > ป่านนี้เค้าคงมีความสุขกับหนุ่มธนาคารคนนั้น
> > พร้อมหน้าทั้งพ่อ แม่
> > ลูก
> >
> > ณ
> > งานราชบุรีไชน่าทาวน์
> > 2009
> > เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
> > เป็นเวลาที่ล่วงเลยมาจากเหตุการณ์ของ
> > "
> > บ่าว" และ "สาว"
> > ดังที่กล่าวมาแล้ว 20
> > กว่าปี.................โอ....พระเจ้า...........
> >
> >
> > สาว
> > ยังคงเป็นแม่บ้านแม่เรือนเหมือนเดิม
> > ไม่ได้ไปไหนกับเขา
> > น้าของสาวจึงชวนสาวไปเปิดหูเปิดตา
> > มารับพาไปเดินชมงานไชน่าทาวน์
> > และในขณะที่เดิมชมงานอยู่นั้น
> >
> > สาวเ หลือบไปเห็นชายคนหนึ่งโดยบังเอิญ
> > คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นคนคุ้นๆ
> > สาวมองเพ่งอย่างตั้งใจ
> > ชาย
> > ผู้นั้นมากับครอบครัว
> > ทั้งลูกและภรรยา
> > มองชัดๆ ใช่แน่นอน
> >
> > เขาคือน้องชายของพี่บ่าวคนที่ล่องเรือมากับพี่บ่าวทุกเที่ยวนีนา
> > สาวตัดสินใจร้องทัก
> > เขาหันมา โอ ใช่
> > จริงๆด้วย
> >
> > การสนทนาเริ่มขึ้น
> > ความลับกำลังถูกเปิดเผย
> > สาวเริ่มรับรู้ถึงสาเหตุที่
> > "เขา" จากไปโดยไม่ร่ำลา
> > และ
> > ที่รู้มากกว่านั้นคือ
> >
> > "เขา" ยังคงเป็นคนเดิม
> > ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับสาวคนไหน
> > ไม่มีคนใหม่
> > ยังครองความเป็นโสดตลอดมา
> > และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จบไปเมื่อ
> > 20 กว่าปีที่แล้ว.....
> >
> > เรื่องราวเมื่อคืนที่งานไชน่าทาวน์
> > ได้ถูกถ่ายทอดไปถึงบ่าว
> > เริ่มมีการติดต่อกันอีกครั้ง
> > บ่าว ติดต่อกับสาว
> > และแวะมาหาสาวที่บ้าน
> > เหมือนมาค้นหาความจริง
> > และความมั่นใจ
> >
> > ว่าที่ได้รับฟังมานั้นไม่ใช่เรื่องจริง
> > มันไม่ใช่เรื่องจริง
> > ไม่เคยมีหนุ่มแบ๊งค์คนไหนมาข้องแวะเลย
> > ไม่เคยมี
> > ใครเลย
> >
> > " เรามาแต่งงานกันนะ
> > ผมอยากให้คุณมีลูกให้ผม"
> > บ่าวบอกสาว
> >
> > แน่นอน
> > หล่อนไม่ขัดหรอก
> > แต่............ "
> > สาวไม่มีมดลูกแล้ว
> > มีปัญหาสุขภาพต้องตัดทิ้งไปแล้ว"
> >
> > บ่าวหมดหวังมีลูกแล้วหละ
> >
> > "
> > ตอนนี้สาวก็เป็นมะเร็งกล้ามเนื้อ
> > เพิ่งตรวจพบ"
> >
> > สาวตัดสินใจบอกทุกอย่างให้บ่าวรู้
> >
> > ความเงียบเข้ามาครอบงำชั่วขณะ
> >
> > "
> > ไม่เป็นไร....ไม่เป็นไร...
> > ผมจะดูแลคุณเอง"
> >
> > ความใน ใจของบ่าวที่เผยออกมา
> >
> > "
> > เป็นความผิดของผมที่ทิ้งผู้หญิงคนหนึ่งให้รอคอยมาชั่วชีวิต
> > โดยไม่มีความผิดอะไรเลย
> > ผมจะดูแลเขา
> > อย่างดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้"
> >
> > สั้นๆ แต่ได้ใจความ
> > และวันนี้ เจ้าสาว
> > ในวัย 43 ปี และเจ้าบ่าว
> > ในวัย 49 ปี
> > ขอให้ทั้งสองคนมีความ
> > สุขที่สุดในโลกครับ

เครดิต . ธรรมะสวัสดี