กำลังแสดงผล 1 ถึง 6 จากทั้งหมด 6

หัวข้อ: คดีข่มขืนเด็กและวัยรุ่น

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430

    บ้านมหาโพสต์ คดีข่มขืนเด็กและวัยรุ่น

    กระทู้นี้ หากจะเสียเวลาสักนิด อ่านทุกตัวอักษร และอ่านให้จบ รับรองว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งต่อตัวท่านเอง ต่อบุตรหลาน ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคม

    การทารุณกรรมทางเพศ ได้ขยายวงกว้างในสังคมไทย เพราะสื่อลามกอนาจารหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป แม้ในอินเทอร์เน็ตก็มีกันเกลื่อน ไม่ว่าแก่หรือหนุ่ม ดูแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงทำให้เกิดการข่มขืนเด็กและวัยรุ่น วัยแรกแย้มกันมากขึ้น

    พล พระยาแล ได้สอบถามหลายคนเกี่ยวกับเหตุผลว่า ทำไมคดีข่มขืนจึงมุ่งประเด็นไปที่เด็ก วัยรุ่น เหตุผลเพราะ ความสดใสบริสุทธิ์ ความเต่งตึง และเสียงร้องอันไร้เดียงสา การขัดขืน ทำให้ได้อารมณ์ การอ่อนประสบการณ์ของเด็ก และการกลัวการข่มขู่ ฯลฯ

    นักโทษในคดีข่มขืนต่างสารภาพว่า เมื่อข่มขืนเสร็จจะให้เงินเป็นค่าตอบแทน หรือพูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ นานา หรือซื้อของให้เช่นโทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ สามารถที่จะข่มขืนได้ยาวนาน หลายคนก็เกิดความละอายไม่อยากโวยวายให้มันเป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องจำยอมหลายปี ทำให้พวกนี้กลับยิ่งได้ใจ บางคดีผู้ต้องหาก่อคดีมาแล้วกว่า 30 คดี

    ผมฟังข่าวข่าวพ่อข่มขืนลูกสาวสองคนของตัวเอง จนตั้งท้อง ผมรู้สึกหดหู่ใจ สังคมไทยกำลังก้าวไปสู่ยุคเสื่อมทางด้านจิตใจ เพราะการทำอะไรเหยาะแหยะ ๆ แบบหมาหยอกไก่ พอจะเอาจริงเอาจัง พวกที่เสียผลประโยชน์ก็เข้าขัดขวาง คนดีก็อยู่ไม่ได้ ก็กลับมาสู่จุดถดถอยเช่นเดิม ว่าง ๆ ไปเดินแถว ๆ คลองถม จะเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างครับ

    พูดมาตั้งนาน มาดูว่าถ้าเด็ก ๆ จะป้องกันตัวเอง ไม่ให้อยู่ในสถานการณ์ที่จะถูกข่มขืนจะทำอย่างไร
    ๑ . อย่าอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในบ้าน ห้องเรียน บ้านเพื่อน ในที่ๆ ลับหูลับตาคน ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น
    ๒ . ถ้าเพื่อนหรือแฟนชวนไปเที่ยวที่เปลี่ยวๆ หรือไปแล้วเห็นมีเพื่อนผู้ชายหลายคน และถ้าพวกเขากินเหล้าด้วยแล้ว ให้หาทางหรือใช้วิธีหลอกล่อให้ออกมาจากที่นั่น
    ๓ . อย่าเดินคนเดียวในทางที่เปลี่ยวไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน
    ๔ . ถ้าครูผู้ชายเรียกให้ไปพบสองต่อสอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปเด็ดขาด หรือครูผู้ชาย บอกให้ช่วยถือของไปให้ที่ห้องพักหรือบ้านพัก..อย่าทำเด็ดขาด ต้องมีเพื่อนไปกับเราด้วยอย่าง น้อย อีก ๒ - ๓ คน
    ๕ . อย่าไปกู้เงินรายวัน หรือของผ่อนอื่นๆ เด็ดขาด เพราะพวกนี้ถ้าไม่ได้เงินก็จะดักรอที่บ้านหรือ ก่อนถึงโรงเรียนเพื่อข่มขู่จะเอาเงิน ถ้าไม่ได้ก็จะพาไปร่วมเพศด้วย
    ๖ . ถ้ามีใครอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ หรือสารวัตรนักเรียน บอกว่า " หนีเรียน หรือ ทำผิดกฏหมาย " ไม่ว่าหนูจะทำผิดจริงๆ หรือไม่ได้ทำก็ตาม ... อย่าไปกับพวกเขาเด็ดขาด
    ๗ . ใครให้เงินหรือให้ของที่อยากได้ หรือบอกว่าขอความช่วยเหลือด่วนๆ อย่าช่วยเด็ดขาด

    ถ้าอยู่ในสถานะการณ์ที่รู้ว่าไม่อาจจะหนีได้ต้องโดนร่วมเพศแน่ ๆ มาดูกันว่าถ้าถูกพวกนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับตัวเรา จะหาทางแก้ไขทางกฎหมายได้อย่างไร

    ๑ . วิ่งให้เร็วที่สุด และร้องให้คนช่วย
    ๒ . ถ้าถูกเขาจับได้พยายามป้องกันตัวเท่าที่จะทำใด้ เพื่อไม่ให้มันบ้ามากขึ้น ซึ่งมันอาจจะทำร้ายถึงตายได้
    ๓ . เมื่อมันจับหนูแก้ผ้าได้แล้วก็นอนเฉยๆ ให้มันทำตามใจชอบของมัน
    ๔ . ถ้ามันจูบโดยเอาลิ้นเข้ามาในปากเรา .. ให้เราก็กัดให้สุดแรงเกิดจนลิ้นของมันขาดติดปากเรา และออกวิ่งหนีทันที ( ไม่ต้องห่วงเสื้อผ้า แม้ตามตัวไม่มีเสื้อผ้า )
    ๕ . ถ้ามันให้อมนกเขาของมัน ก็อมให้มันตามที่มันต้องการ แต่ในขณะที่มันเพลินๆอยู่ ให้เอามือมา ลูบบริเวณไข่ของมันใต้นกเขา ตั้งสติให้ดีๆ พอมันไม่ระวังตัว ก็บีบไข่ของมันให้เต็มแรงเกิด และกัดนกเขาของมันให้ขาด ถ้าทำได้แล้วออกวิ่งหนีทันทีไม่ต้องห่วงเสื้อผ้า
    ๖ . ถ้ามันไม่ให้อมหรือจูบปากเรา มันต้องการที่จะเอาจิ๋มก็ตามใจมัน เมื่อมันเอาเสร็จแล้ว ก็ยิ้มให้กับมันและถ้ามันจะเอาอีกก็ตามใจมัน แล้วถามมันว่า " (พี่ขา) หรือ (น้าขา) หนูจะท้องไหนค่ะ ถ้าหนูท้องหนูต้องอายเพื่อนๆ พ่อแม่หนูรู้หนูต้องตายแน่ๆ (พี่ขา) หรือ (น้าขา) ต้องช่วยหนูด้วยนะ นะค่ะ "

    พยามใช้คำพูดนี้บ่อยๆ เดี๋ยวมันก็จะบอกว่าไม่ท้องหลอกป้องกันได้ หรือมันอาจบอกว่า
    ซื้อคุมกินก็ไม่ท้องแล้ว ซึ่งขณะนี้มันจะคิดว่า หนูคงกลัวท้องมากกว่า แต่ไม่กลัวที่โดนร่วมเพศ ซึ่งมันอาจจะร่วมเพศกับหนูหลายครั้ง หนูพยายามยิ้มเอาไว้เวลาที่มันร่วมเพศ (แต่ถ้ามันจูบและให้อมก็ทำตามข้อ ๔ หรือข้อ ๕ จะดีมาก ) ที่แนะนำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มันฆ่าหลังจากร่วมเพศเสร็จ
    ๗ . ถ้ามันมีกันหลายคน ก็ใช้วิธีตามข้อ ๖ อย่าใช้ข้อ ๔ และข้อ ๕ จะไม่ได้ผล
    ๘ . ที่สำคัญที่สุดจงตั้งสติให้ได้ พยายามที่จะต้องจำใบหน้า เสื้อผ้า หรือรอยแผลเป็นที่ตัวมัน หรืออื่น ๆ ที่พอจะบอกลักษณะของมันได้บ้างจะดีที่สุด หลังจากที่มันข่มขืนเสร็จหรือหนีได้ก็รอดตายแล้วให้รีบกลับบ้านไปเล่าให้พ่อแม่ฟังเท่าที่จำได้

    หลังจากรอดมาแล้วควรทำอย่างไร

    ๑ . บอกผู้ใหญ่ให้รับรู้ ( ผู้ใหญ่ที่รับฟังก็ควรตั้งสติให้ดีๆ อย่าใช้อารมณ์ สอบถามรายละเอียด )
    ๒ . พยายามนึกถึงสถานที่ๆ รูปร่างหน้า จุดสังเกต ชื่อ และที่พอจะนึกได้
    ๓ . ไปหาตำรวจที่อยู่ในท้องที่ถูกข่มขืน จดชื่อตำรวจร้อยเวรที่รับแจ้ง และขอให้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุจะได้ตรวจเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุ เพื่อเอาผิดกับผู้ข่มขืน เช่น ร่องรอย คราบอสุจิ เสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ใช้ ถ้าจำหน้าได้และเป็นคนแถวนั้นก็ชี้ให้ตำรวจจับได้เลย
    ๔ . ถ้าผู้ถูกข่มขืนอายุไม่เกิน ๑๘ ปี ในการสอบสวนของตำรวจร้อยเวรจะต้องปฏิบัติ ปวิอ ๑๓๓ ทวิ ดังนี้
    ก . จะต้องมีผู้รวมฟังการสอบสวนด้วยคือ . ผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจปกครอง หรือบุคคลอื่นตามที่ผู้เสียหายร้องขอให้มีไม่ว่าจะเป็นทนายความ หรือญาติคนอื่นๆ
    ข . อัยการ นักจิตวิทยา หรือสังคมสงเคราะห์ ( ต้องมีตามกฏหมาย )
    ค . ตำรวจต้องส่งผู้เสียหายไปตรวจหาร่องรอยการข่มขืน เช่น คราบอสุจิ บาดแผล
    ง . ในการสอบปากคำผู้เสียหายทุกครั้งต้องมีบุคคลตามข้อ ก ข ค ทุกครั้ง จะสอบสวนเองในห้องตัวต่อตัวผู้เสียหายไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ควรขอให้มีนายตำรวจที่เป็นตำรวจหญิงทำการสอบจะดีที่สุด
    จ . หลังจากที่มีการสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จ ถ้าร้องเวรเอาบันทึกการสอบปากคำให้ผู้เสียหาย ลงชื่อผู้ปกครองควรจะต้องอ่านดูให้ละเอียดว่า . ตำรวจลงข้อความครบถ้วนตามที่ผู้เสียหายบอก

    หรือไม่ก่อน ถ้าเห็นว่ายังไม่ถูกต้อง ก็บอกให้ตำรวจผู้สอบลงให้ถูกต้อง .. ถ้าตำรวจไม่ทำก็อย่าลงชื่อเด็ดขาด และควรบอกผู้ที่ร่วมฟังให้รับรู้ทุกคน ถ้าผู้ที่เข้ารวมฟังยังไม่ทักท้วงให้ตำรวจ ลงข้อความ ตามที่เป็นจริง ก็ควรไปร้องกับหัวหน้าสถานีตำรวจทันที
    ๕ . ต่อมาถ้ามีญาติของผู้ต้องหามาพบ เพื่อขอเจรจาจ่ายค่าเสียหาย ..ควรป้องกันการถูกหลอกเพื่อให้มีผลเสียหายต่อรูปคดีควรปฏิบัติดังนี้
    ก . ให้มีผู้ที่รู้กฏหมาย หรือทนายความ ร่วมอยู่ด้วย
    ข . จดชื่อ นามสกุล ผู้มาเจรจาทุกคน ถ้าขอดูบัตรได้จะดีที่สุด
    ค . นายตำรวจเจ้าของคดีเรียกไปหา ให้พาบุคคลตามข้อ ก ไปด้วย ถ้านายตำรวจเป็นผู้เจารจา แทนผู้ต้องหา หรือญาติผู้ต้องหา ในลักษณที่ให้ยอมความกันและให้ผู้เสียหายเสียเปรียบด้วย แสดงได้ว่าตำรวจผู้นั้นมีพฤติกรรมที่เข้าข้างผู้ต้องหา หรือรับอาสามาเจรจาแทนเพื่อช่วยผู้ต้อง ควรร้องขอให้เปลี่ยนตัวนายเจ้าของคดีทันที เพื่อไม่ให้เสียหายทางคดี

    ข้อสำคัญของทางแก้นี้ ต้องทำให้มีหลักฐาน พอที่จะเอาความผิดทางคดีได้ .. เพราะถ้ามันคิดว่าไม่มีหลักฐานอะไรที่จะเอาความผิดได้ .. มันก็จะยิ่งได้ใจมากขึ้น อาจถึงขนาดทำร้ายเอาได้ ถ้ามีการเจรจาต่อรองเพื่อขอใช้เงินควรพิจารณาอย่างไร

    สิ่งที่ควรรู้ไว้ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือญาติของผู้ต้องจะมาต่อรองเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายเอาเรื่อง ซึ่งอาจจะมีเล่ห์กลแฝงอยู่ เพื่อให้เสียเงินน้อยที่สุด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางคดี
    ๑ . ผู้เสียหายสามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามกฎหมาย โดยฟ้องในคดีแพ่ง (ละเมิด )
    ๒ . ถ้ามีผู้มาเจรจาโดยเสนอว่า " จะรับผิดชอบเลียงดูผู้เสียหาย หรือแต่งงานกับผู้เสียหาย
    " ผู้เสียหายหรือพ่อแม่ ควรพิจารณา
    ก . ถ้าผู้เสียหายยังเรียนหนังสืออยู่ ก็ไม่ควรที่จะตกลงด้วย เพราะจะทำให้เด็กเสียอนาคตทางการศึกษา
    ข . ถ้าพวกผู้ต้องหาร้องต่อศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้แต่งงาน (สมรส) ท่านก็สามารถจะปฏิเสธได้
    ค . ถ้ามีข่มขู่ ก็ไม่ควรกลัว ควรมีพยานมารับรู้ และนำคำที่ถูกข่มขู่ไปแจ้งตำรวจพร้อมพยานด้วย
    ง . ครั้งที่มีการมาเจรจาที่บ้านผู้เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรให้ตามเพื่อนบ้านมาอยู่เป็นพยานทุกครั้ง
    ๓ . ในกรณีตามข้อ ๒ เป็นชั้นเชิงทางกฎหมายและเล่ห์กลที่จะเอาเปรียบผู้เสียหาย เพราะถ้ายอมตามที่พวกนี้เสนอ เด็กหรือผู้เสียหายจะพบเคราะห์กรรมจะเกิดขึ้น คือ
    - ไม่มีโอกาสได้เล่าเรียน
    - อาจถูกญาติฝ่าย ตั้งข้อรังเกียรติ ว่าเป็นตัวปัญหา
    - โดนถูกทำร้าย ภายหลังจากได้แต่งงานกันแล้ว
    - สุดท้ายก็ต้องเลิกกันไป..เพราะฝ่ายชายไม่ต้องติดคุกแล้ว
    ๔ . ควรเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินตามที่เห็นสมควร ซึงก็สามารถที่จะเรียกร้องเท่าไรก็ได้เพราะญาติผู้ต้องหากลัวว่าถ้าผู้เสียหายไม่ยอม ผู้ต้องหาก็ต้องติดคุกแน่ๆ จะไปวิ่งเต้นกับตำรวจก็อาจไม่ได้ผล
    ๕ . ในการเจรจา ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของเรื่อง เป็นผู้เจรจาให้ หรือพูดในทำนองว่า " ผู้เสียหายก็ยินยอมให้ผู้ต้องหาร่วมเพศด้วยอยู่แล้ว ฟ้องศาล ศาลก็ยกฟ้องอยู่แล้ว หรือถ้าติดคุกก็ติดไม่กี่ปีก็ออก " จงรู้เอาไว้ว่าตำรวจผู้นั้นมีการช่วยเหลือผู้ต้องหา " ท่านต้องระวังให้มากเพราะจะทำให้สำนวนที่จะฟ้องผู้ต้องหาอ่อน เรียกง่ายๆ ว่า " วิ่งล้มคดี " .. และถือว่าตำรวจผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่โดย มิชอบอาจติดคุกด้วย
    ๖ . ถ้าโดนข่มขู่และท่านกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเองหรือตัวผู้เสียหาย ก็ให้แจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีร้องขอต่อศาลเพื่อคุ้มครองวิธีเพื่อความปลอดภัย หรือห้ามบุคคลดังกล่าวเข้ามาในเขตที่จำกัดเอาไว้

    " คำเตือน " พ่อแม่หรือผู้ปกครองผู้เสียหาย ไม่ควรเห็นแก่เงินที่จะได้จากการให้ผู้เสียหายแต่งงาน ควรมองถึงอนาคตการศึกษาของผู้เสียหายมากกว่า .. ส่วนเงินค่าเสียหายนั้นถึงอย่างไร พวกญาติผู้ต้องหาก็ต้องจ่าย ..หรือยอมจ่ายให้อยู่แล้วเพื่อยอมความทางคดี.. หรือฟ้องเรียกเอาได้อยู่แล้ว อย่าไปหลงเชื่อคำหวานๆ ที่มีเล่ห์กลซ่อนเร้นอยู่ ลูกหลานท่านจะเสียโอกาสและอนาคตที่ดีไป

    แต่ก็ยังมีผู้เสียหายบางคนไม่กล้าที่จะเอาเรื่อง และก็ถูกบังคับข่มขืนมาตลอด ยังมีอีกหลายคนที่ตกอยู่ในมุมมืด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ทุกวันต้องทุกข์ทรมาร ต้องยอมให้พวกมันทำทุกอย่างที่มันต้องการ บ้างครั้งถึงขนาดท้อง ที่ไม่กล้าเอาเรื่องคงเพราะกลัว หรือเพราะกลัวพ่อแม่จะได้รับความอับอาย หรืออายเพื่อนๆ หรือถูกข่มขู่เอาชีวิต

    ทางแก้ไม่ยาก เล่าเรื่องให้ผู้อื่นหรือทนายความ ไปติดต่อพวกนี้และทำหลักฐานเอาไว้ ถ้าพวกนี้ยังมารังควานอีก หรือข่มขู่อีกก็สารมาถที่จะเอาเรื่องได้เลย .. โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อพวกนี้โดนถูกขู่กลับไปบ้างก็มักจะกลัวและไม่กล้าที่จะจะยุ่งกับผู้เสียหายอีก เพราะกลัวจะติดคุก แต่ถ้ามันไม่กลัว และกลับมารังควานอีกก็สมควรที่จะเอามันเข้าคุก .. และเรียกค่าเสียหายจากพ่อแม่ของมันด้วยหรือ เอาพ่อแม่แม่มันเข้าคุกด้วย

    ที่สำคัญที่สุด ถ้าท้องขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มาก เมื่อท้องขึ้นมาแล้วก็คงต้องเอาออกและการเอาออกก็ต้องเสียเงินมากตั้งแต่ ๓,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ บาท ( ยิ่งเดี๋ยวนี้ ๕,๐๐๐ บาท ขึ้นไป ) เพราะการทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย .. แต่ก็มีการทำแท้งที่ถูกกฎหมายและเสียเงินน้อยด้วยและยังมีการทำแท้งที่แบบลับๆ ไม่ต้องอายใคร ( อาจไม่ต้องเสียเงินเป็นพันๆ )

    ถูกข่มขู่กลัวอิทธิพลกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมทำอย่างไร
    สิ่งนี้ย่อมเกิดกับทุกคนที่ถูกข่มขืน หรือถูกอนาจาร ... ข้อแนะนำที่ดีที่สุดก็คือควรบอกผู้ใหญ่ หรือขอความช่วยเหลือจาก ผู้รู้กฏหมาย , ทนาย , สภาทนาย , สำนักงานอัยการ , มูลนิธิคุ้มครองเด็กและสตรีต่าง ๆ
    --------------------------------------------------------------------------

    ที่มา : ไทยลอเยอร์ดอทคอม, สอบสวนดอทคอม, ความผิดทางเพศ


    ปล. ผมเอาเรื่องนี้มาลงซ้ำอีกครั้ง เพื่อหวังจะเป็นแนวทางแก้ไขให้หลาย ๆ คนที่เจอปัญหาแล้วไม่รู้ทางออก ว่าจะทำอย่างไร
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ติ๋ม เปอร์โย; 07-11-2009 at 12:32. เหตุผล: โตหนังสือใหญ่ไปจ้า...

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •