กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต

    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต



    ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในประเทศไทย หากตรวจสอบจากสถิติการตายของประชากรในประเทศไทยจะพบว่าสาเหตุการตายด้วยโรคมะเร็งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

    เพราะอะไรหรือคะ ก็เพราะว่า

    ประชาชนของประเทศไทยขาดความเอาใจใส่ต่อสุขภาพของตนเอง

    เช่น
    พักผ่อนไม่เพียงพอ
    ขาดการออกกำลังกาย
    รับประทานอาหารไม่ถูกสุขอนามัย เป็นต้น


    โรคมะเร็งมีด้วยกันหลายชนิดแต่ที่รู้จักกันดี

    ได้แก่
    โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
    โรคมะเร็งในลำไส้
    โรคมะเร็งปอด
    โรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง
    และโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย เป็นต้น


    จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกอวัยวะ ในร่างกาย

    ซึ่งโดยปกติเนื้อเยื่อของร่างกายจะมีการสร้างเซลล์ขึ้นมาทดแทน
    ในส่วนที่ชำรุดหรือตายไป โดยกลไกดังกล่าวมีไว้ควบคุม
    ให้การสร้างทดแทนนี้อยู่ในภาวะที่สมดุล
    และเมื่อใดก็ตามที่กลไกในการควบคุมนี้เสียเนื้อเยื่อ
    ตรงส่วนนั้นก็จะเจริญอย่างผิดปกติ

    หากก้อนเนื้อที่ผิดปกตินี้โตขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ลุกลามไปไหน
    เรียกว่า เนื้องอกธรรมดาก็จะไม่เกิดอันตรายใดๆ
    แต่ถ้าก้อนเนื้อดังกล่าวเจริญผิดปกติและลุกลาม
    ไปยังเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆหรือที่เรียกว่าเนื้อร้าย
    ซึ่งเนื้อร้ายดังกล่าวจะขยายตัวไปทำลายโครงสร้าง
    และหน้าที่ของอวัยวะใกล้เคียงจากนั้นอาจแพร่กระจาย
    ไปในเส้นน้ำเหลืองและเส้นเลือด ไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
    และนั่นคือเหตุผลที่ว่าเหตุใดเซลล์มะเร็งจึง
    สามารถแพร่กระจายไปยังตำแหน่งต่างๆในร่างกายได้
    ภายในเวลาเดียวกัน


    สาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งนั้นอาจเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย

    เช่น

    1 เกิดจากการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมหรือสภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
    2 นอกจากนั้นปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมก็อาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
    เช่น การได้รับสารเคมี รังสี เชื้อไวรัสและพยาธิบางชนิด


    เพราะแต่ละคน มีภูมิต้านทานที่ต่างกัน
    ซึ่งหากร่างกายได้รับสิ่งกระตุ้นหรือบางครั้งที่เราเรียกว่าสารก่อมะเร็ง
    ในปริมาณที่น้อยแต่ได้รับติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
    จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อและ
    กลไกการควบคุมต่างๆภายในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
    ซึ่งปัจจัยบางอย่างที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตัวเราเอง ไม่สามารถ
    เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้

    แต่เรา....

    สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้
    โดยการปฏิบัติตนให้มีสุขอนามัยที่ดี

    โดยการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

    และอาหารที่มีสารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ

    เช่น


    1. B-carotene (Carotenoid) คือเม็ดสีที่สามารถละลายได้ในไขมันพบมากในอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือสีแดง


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    2. vitamin E คือหนึ่งในองค์ประกอบของสารอาหารที่ส่งเสริมระบบต้านทานปฏิกริยา oxidation ของร่างกาย แล่งที่พบในธรรมชาติคือ น้ำมันพืชจาก wheat germ ข้าว และเมล็ดฝ้าย


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    3. Glutathione พบในเซลล์พืช เซลล์สัตว์และแบคทีเรียเป็นตัวต้านทานสารพิษหลักในเซลล์


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    4.Vanillin เป็นองค์ประกอบสำคัญของฝักวานิลลาที่ใช้สำหรับปรุงแต่งอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต



    5. Cinnamaldehyde เป็นสารปรุงแต่งกลิ่นในลูกกวาด เครื่องดื่ม อาหารชนิดที่เป็นน้ำมันสีเหลืองมีกลิ่นแรง เป็นองค์ประกอบหลักของน้ำมันอบเชยมีฤทธิ์ต้านทานการกลายพันธุ์ (สารก่อมะเร็ง)


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    6. Vitamin C เป็นสิ่งที่จำเป็นในกระบวนการ oxidation ต่างในสิ่งมีชีวิต แหล่งสำคัญของวิตามินซีได้แก่ ผักและผลไม้สด ซึ่งผักหลายชนิดเช่น กะหล่ำปลี ขิง ชาเขียว ผักขม ผักกาดหอมและกะหล่ำดอก มีสารต้านทานการกลายพันธุ์ได้


    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต


    7. โยเกิร์ตและนมสามารถช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้

    โรคมะเร็งร้าย ... ทำลายชีวิต



    ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมักมีสารก่อมะเร็งอยู่ เช่น


    1. การบริโภคขนมขบเคี้ยว ขนมกรุบกรอบที่ทำจากแป้งหรือพืชประเภทที่ให้คาร์โบไฮเดรทสูงแล้วนำมาทอดหรืออบโดยใช้ความร้อนสูงเกิน 120 °C พบว่ามีสารจำพวกอะคริลาไมด์ (สารก่อมะเร็ง)สะสมอยู่

    2. การบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีการเติมสารไนไตรด์และสารเคมีอื่นๆ เพื่อถนอมเนื้อสัตว์ให้มีสีที่แดงสด สารเคมีเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการทำให้เกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้

    3. การบริโภคไข่ น้ำนมสัตว์ หรือเนยในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับสารไดออกซิน (สารก่อมะเร็ง)ได้ เนื่องจากสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหารสามารถละลายได้ดีในไขมัน ซึ่งสารดังกล่าวส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ได้

    4. อาหารประเภทหมักดอง อาหารที่ใส่สารกันบูด อาหารกระป๋องที่หมดอายุแล้วหรืออาหารที่ใส่สีผสมอาหารที่มีสีสันสวยงามซึ่งส่วนใหญ่มักทำมาจากสีย้อมผ้า

    5. เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองตั้งแต่ในช่องปากไปจนถึงระบบทางเดินอาหารได้ อีกทั้งยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมลงอีกด้วย


    จากปัจจัยเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้วนะคะ

    เราก็ยังควรหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

    เช่น

    - การสูดดมควันบุหรี่หรือการสูดดมควันจากท่อไอเสียรถยนต์
    เขม่าควันจากโรงงานอุตสาหกรรม

    - การใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มี”สารไทรโคซาน” เป็นองค์ประกอบ
    (สารสารไทรโคซานจะทำปฏิกิริยากับคลอรีน (สารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำประปา) เกิดเป็นแก๊สคลอโรฟอร์ม และเมื่อร่างกายได้รับแก๊สนี้ในปริมาณที่มากอาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งได้)


    - วิธีการตรวจหาโรคมะเร็งทำได้โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจหา Tumor maker หรือสารที่อาจพบในกระแสเลือด ในปัสสาวะหรือตามเนื้อเยื่อต่างๆ ในระดับที่มากกว่าปกติ ซึ่งสารเหล่านี้ถูกสร้างโดยเนื้อมะเร็งหรือเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อเซลล์มะเร็ง


    ที่จริงโรคมะเร็งเป็นโรคที่มีแนวทางป้องกันและสามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น ซึ่งวิธีการสังเกตอาการของโรคมะเร็งสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองดังนี้คือ

    1. หากเป็นแผลเรื้อรัง แผลหายช้า ซึ่งส่วนมากจะเป็นนานมากกว่า 2 สัปดาห์และมักเป็นแผลที่ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บโดยเฉพาะแผลในช่องปากที่เกิดการระคายเคือง

    2. คลำพบก้อนเนื้อผิดปกติหรือก้อนที่มีอยู่เดิมแต่โตเร็วขึ้นซึ่งตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่บริเวณลำคอ รักแร้ ขาหนีบและบริเวณเต้านม

    3.มีอาการเจ็บคอ เวลากลืนอาหารที่เป็นของแข็ง เช่น ข้าวสวย จะรู้สึกเหมือนติดคอแต่ถ้ากลืนอาหารเหลวๆเช่น ข้าวต้มหรือโจ๊กจะรู้สึกคล่องคอมากขึ้น

    4. มีอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารย่อยยาก ท้องอืด ขับถ่ายผิดปกติ หรือมีอาการท้องผูกสลับกับท้องเสีย เป็นต้น

    5. ไอเรื้อรังและมีเสมหะปนเลือดหรือมีเสียงแหบเรื้อรัง

    6. หูด ไฝ ปานหรือตุ่มใต้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น มีขนาดใหญ่ขึ้น สีเปลี่ยน มีอาการคัน เจ็บหรือเป็นแผลอักเสบเกิดขึ้น

    7. มีน้ำเหลือง น้ำหนองหรือเลือดไหลออกมาจากทวารต่างๆของร่างกาย เช่น ตา หู จมูก ปาก หัวนม ทางเดินปัสสาวะ และทวารหนัก

    8. ในผู้หญิงกรณีที่มีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ใช่ก็ได้ หรืออาการขาดประจำเดือนในผู้หญิงวัยที่ยังไม่ควรหมดประจำเดือน

    สัญญาณต่างๆเหล่านี้อาจเป็นอาการที่บ่งบอกว่าเราป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ ซึ่งหากท่านพบว่ามีอาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีไม่ควรทิ้งไว้นานเพราะหากได้รับการรักษาที่รวดเร็วและถูกวิธี ก็มีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้





    ขอขอบคุณ

    นางสาวยุวศรี ต่ายคำ สสวท
    “สารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์” dmsc.moph.go.th
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 10-11-2009 at 03:46.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ กำลังใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    กระทู้
    1,529
    บล็อก
    1
    เป็นโรคที่น่ากลัวมาก ๆ

  3. #3
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197
    มะเร็งน่ากลัวน้อจ้า................
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •