... ประมาณกลางๆเดือนมิถุนายน ๕๒ ผมได้ไปอบรมการบันทึกข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จะมีส่วนราชการหลายหน่วยส่งเจ้าหน้าที่เข้าอบรมไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน จะมาจากทุกภาค สถานที่อบรมคือสถาบันเทคโนโลยี ทีโอที นนทบุรี ในห้องอบรมจะจัดโต๊ะคอมฯ ไว้เป็นแถว ด้านหน้า ด้านหลังคนนั่งเต็มหมด ตรงกลางจะว่าง เพราะผมเข้าห้องอบรมช้า จำต้องเดินไปนั่งตรงนั้นจนกลายเป็นจุดสนใจของคนที่อยู่ในห้อง ... จนพักกลางวัน คนเริ่มทยอยออกจากห้องเพื่อไปกินข้าวเที่ยง ส่วนผมเข้าใจช้ากับงานที่วิทยากรสอน ก็เลยไม่รีบร้อน แล้วก็มีชายคนหนึ่งเดินมาหาผม แล้วก็ถามผมว่า “คุ้นๆ หน้าผมไหม? จำผมได้ไหม?” ผมมองดูแล้วก็ตอบไปทันทีว่า “ถ้าปัจจุบันผมไม่คุ้น ผมจำไม่ได้หรอก ถ้าเป็นอดีต ที่เคยเรียนที่โรงเรียนอุเทนพัฒนา คุณคือ....” ผมยังพูดไม่จบ “ใช่ เราชื่อกล้วย” ผมก็บอกเพื่อนอีกที “เราชื่อดิษย์” เมื่อความทรงจำในอดีตชัดเจนขึ้นผมกับเพื่อนจึงไปกินข้าวเที่ยงกัน ยี่สิบปีเต็มๆ ที่ไม่เคยได้เจอกันหลังจบ ม.๖ เมื่อปี ๓๒ เพื่อนบอกผมว่าคุ้นๆ ว่าเคยเจอที่ไหนคิดไม่ออก มันคาใจ ก่อนตัดสินใจถามผม ได้โทร.ไปถามเพื่อนที่อยู่นครพนม...เพื่อความชัวร์ ว่าเพื่อน ที่เป็นทหารชื่ออะไร? คุ้นๆ หน้า เพื่อนที่อยู่นครพนมก็บอกว่าเข้าไปถามดูไม่เสียหายนี่... เพื่อนเจอเพื่อน ก็ธรรมดา (ไปกินสุรา...) หลังอบรมช่วงเย็นไม่เข้าห้องพัก เข้าไปร้านค้า กำลังพล ของ ทีโอที คุยกันสนุกสนาน ส่วนมากเป็นเรื่องสมัยเป็นนักเรียน เขาเรียกว่าตามประสาคนแก่...คนย่างใกล้ เลขสี่... แก้วแรกก็ดี แก้วสองสามสี่ความคิดถึงเพื่อนเริ่มมีมากขึ้น หาเบอร์เพื่อนในกรุงเทพ มีใครบ้าง “คุณกา คุณอยู่ไหน... ผมเจอเพื่อนเก่า...คุณรีบมาเลย..” เสียงเพื่อนสวนมาทันที “คุณดิษย์ คุณนี่ขัดลาภฉันจริงๆ เดี๋ยวตามไป ” เพื่อนตอบรับ ผมก็งง ทำไมเราต้องขัดลาภเพื่อนด้วย เมื่อเพื่อนมาถึงจึงรู้ว่าเราขัดลาบเพื่อน เพราะเพื่อนกำลังจ่ายตลาดกับสามีเพื่อจะทำลาบกินที่บ้าน เมื่อผมโทรไปจึงต้องมา ในที่สุดก็ตระเวนกินไปในกรุงเทพฯเมืองหลวงเราก็เมาได้เหมือนกัน ...ถึงห้องพักตีสาม น้ำไม่ต้องอาบ...
สรุปแล้ว “ผมไม่ได้กินเหล้า แต่ว่าเหล้ากินผม” ...เหล้าสุรามันไม่ดี แต่เมื่อเจอเพื่อนจะชวนกินโค้กน้ำอัดลมก็คงผิดวิสัย “เพื่อนเก่าก็เหมือนอัญมณีที่ล้ำค่า”
“ สุรายาเสพติด เป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม” เป็นคำขวัญในสมุดปกสีน้ำตาลที่กระทรวงศึกษาธิการแจกสมัยเป็นเด็ก มีรูปลายเส้นคนผอมนั่งตัวงอๆ มือประสานที่ท้ายทอย
คำขวัญนี้แม้จะผ่านมากี่สิบปีก็ยังมีความหมายเหมือนเดิม
Bookmarks