กำลังแสดงผล 1 ถึง 1 จากทั้งหมด 1

หัวข้อ: เรียนฟรีตลอดหลักสูตร พระอภิธรรม ทางไปรษณีย์

  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ญา ทิวาราช
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    กระทู้
    825
    บล็อก
    17

    เกาทัณฑ์ เรียนฟรีตลอดหลักสูตร พระอภิธรรม ทางไปรษณีย์

    เรียนฟรีตลอดหลักสูตร พระอภิธรรม ทางไปรษณีย์



    อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
    ระเบียบการการศึกษาพระอภิธรรมทางไปรษณีย์
    วัตถุประสงค์
    1. เพื่อรักษาหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงสืบต่อไป
    2. ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ที่ต้องการศึกษาพระอภิธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    ผู้ที่มีเวลาเรียนน้อย ไม่สามารถที่จะไปเรียนในสำนักเรียนได้ หรือผู้ที่อยู่ห่างไกลจากสำนักเรียน ให้มีโอกาสได้ศึกษาพระอภิธรรมด้วยตนเองทางไปรษณีย์
    3. เพื่อเผยแพร่หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในส่วนของพระอภิธรรมปิฎก ให้แพร่หลายสู่สาธุชนทั่วไป อันจะยังประโยชน์ให้ผู้ที่สนใจศึกษา เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของชีวิตและรู้แนวทางการปฏิบัติ เพื่อเข้าถึงความพ้นทุกข์ ตามพุทธประสงค์
    เรียนฟรีตลอดหลักสูตร โดยความอุปถัมภ์ของ มูลนิธิเผยแผ่พระสัทธรรม
    ประโยชน์ที่จะได้รับ จากการศึกษาพระอภิธรรม มีอยู่มากมายหลายประการ แต่ที่สำคัญมีโดยสังเขปดังนี้
    ๑. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนา เพราะพระอภิธรรม เกิดจากพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธองค์ การเข้าถึงพระอภิธรรม จึงเท่ากับเข้าถึงพระปัญญาคุณ ของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
    ๒. การศึกษาพระอภิธรรม ก็คือศึกษาธรรมชาติ การทำงานของ กายและใจ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวเรา และสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องจิต (วิญญาณ), เรื่องเจตสิก, เรื่องอำนาจจิต, เรื่องวีถีจิต, เรื่องกรรมและการส่งผลของกรรม, เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด, เรื่องสัตว์ในภพภูมิต่างๆ และเรื่องกลไกการทำงานของกิเลส ทำให้รู้ว่าชีวิตของเรา ในชาติปัจจุบันนี้ มาจากไหนและมาได้อย่างไร มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นปัจจัย เมื่อได้คำตอบชัดเจนดีแล้ว ก็จะรู้ว่าตายแล้วไปไหนและไป ได้อย่างไร อะไรเป็นตัวเชื่อมโยง ระหว่างชาตินี้กับชาติหน้า ทำให้หมดความสงสัยว่า ตายแล้วเกิดอีกหรือไม่ นรก สวรรค์ มีจริงไหม ทำให้มีความเข้าใจเรื่องกรรม และการส่งผลของกรรม(วิบาก) อย่างละเอียดลึกซึ้ง
    ๓. ผู้ศึกษาพระอภิธรรม จะเข้าใจเรื่องของปรมัตถธรรม หรือสภาว ธรรมอันจริงแท้ตามธรรมชาติ ในพระอภิธรรม จะแยกสภาวะออกให้เห็นว่า ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลอะไรทั้งนั้น คงมีแต่สภาวธรรม คือ จิต เจตสิก รูป ที่วนเวียนอยู่ในความเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยอาศัยเหตุ อาศัยปัจจัยอุดหนุน ซึ่งกันและกัน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นใหม่แล้วก็ดับ ไปอีก มีสภาพเกิดดับอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา นานแสนนานไม่รู้กี่แสนชาติ กี่ ล้านชาติมาแล้ว ที่สืบต่อกันอยู่เช่นนี้ โดยไม่รู้จักจบจักสิ้น แม้ใครจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม สภาวธรรมทั้ง ๓ นี้ก็ทำงานอยู่เช่นนี้ โดยไม่มีเวลาหยุดพักเลย สภาวธรรมหรือธรรมชาติเหล่านี้ มิใช่เกิดขึ้นจากพระผู้เป็นเจ้า พระพรหม พระอินทร์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ เป็นผู้บันดาลหรือเป็นผู้สร้าง แต่สภาวธรรมเหล่านี้ เป็นผลอันเกิดมาจากเหตุ คือ กิเลสตัณหานั่นเองที่เป็นผู้สร้าง
    ๔. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจสภาวธรรมอีกประการหนึ่ง อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด ในพระพุทธศาสนาที่ต้องการให้เข้าถึง นั่นก็คือ นิพพาน
    นิพพาน หมายถึง ความหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา ผู้ที่ปราศจากกิเลส ตัณหาแล้วนั้น เมื่อสิ้นชีวิตลง ก็จะไม่มีการสืบต่อ ของจิต+เจตสิก และ รูปอีกต่อไป ไม่มีการสืบต่อภพชาติ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากทุกข์ทั้งปวงโดยสิ้นเชิง จึงกล่าวว่า นิพพานเป็นธรรมชาติ ที่ปราศจากกิเลส ตัณหา เป็นธรรมชาติที่ดับทุกข์โดยสิ้นเชิง และเป็นธรรมชาติที่พ้นจากขันธ? ๕ นิพพานมิใช่เป็นแดนสุขาวดี ที่เป็นอมตะ และเพียบพร้อมด้วยความสุขล้วนๆ ตลอดนิรันดร์กาล ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ
    ๕. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจคำสอนที่มีคุณค่าสูงสุด ในพระพุทธศาสนา เพราะแค่การให?ทาน รักษาศีล และการเจริญสมาธิก็ยังมิใช่ คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นเหตุ ให้ต้องเกิดมารับ ผลของกุศลเหล่านั้นอีก ท่านเรียกว่า วัฏฏกุศล เพราะกุศลเหล่านี้ยังไม่ทำให้ พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวมหาสติปัฏฐาน ๔ เพื่อให้เห็นว่า ทั้งนามธรรม (จิต + เจตสิก) และรูปธรรม (รูป) มีสภาพที่ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ ได้ ไม่ใช่ตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ มีการเกิดดับ ๆ ตลอดเวลา หาแก่นสาร หาตัวตน หาเจ้าของไม่ได้เลย เมื่อมีปัญญาเห็นแจ้ง ในสภาวธรรมตามความเป็นจริงเช่นนี้แล้ว ก็จะนำไปสู่การประหาณกิเลส และเข้าถึงพระนิพพาน ได้ในที่สุด
    ๖. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจเรื่องอารมณ์ของวิปัสสนา ซึ่งต้องมีนามธรรม (จิต + เจตสิก )และรูปธรรม (รูป) เป็นอารมณ์ เมื่อกำหนดอารมณ์ ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้ถูกต้อง การปฏิบัติก็ย่อมได้ผล ตามที่ต้องการ
    ๗. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการสั่งสมปัญญาบารมีที่ประเสริฐที่สุด ไม่มีวิทยาการใดๆ ในโลกที่ศึกษาแล้ว จะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งโลกได้เท่ากับ การศึกษาพระอภิธรรม
    ๘. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการช่วยกันรักษา หลักธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์ไว้ ให้อนุชนรุ่นหลัง และเป็นการช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงถาวรตลอดไป

    วิธีการเรียนการสอน
    1. นักศึกษาที่สมัครเรียน จะได้รับแจกเอกสารประกอบการศึกษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ (เรียนฟรีตลอดหลักสูตร)
    2. เอกสารประกอบการศึกษานี้จะแจกให้ทีละชุด เมื่อนักศึกษาตอบคำถามชุดที่ 1แล้ว จะได้รับบทเรียนชุดที่ 2 เมื่อตอบคำถามชุดที่ 2 แล้ว จะได้บทเรียนชุดที่ 3 เช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ (ในแต่ละชุด จะมีบทเรียน 1-3 ตอน)
    3. นักศึกษาที่ตอบคำถามครบถ้วนตามหลักสูตร (ทั้ง 10 ชุด) จะได้รับวุฒิบัตร '' พระอภิธัมมัตถสังคหะทางไปรษณีย์ ''
    4.ไม่จำกัดระยะเวลาในการศึกษา
    5.ไม่จำกัดพื้นความรู้

    การสมัครเรียน
    หากท่านต้องการ ศึกษาพระอภิธรรม ทางไปรษณีย์
    โปรดแจ้ง ชื่อ ที่อยู่ ของท่านโดยละเอียด และส่งไปที่
    ตู้ ปณ. 28
    ปณฝ. หน้าพระลาน
    กรุงเทพฯ 10202
    เจ้าหน้าที่ทางมูลนิธิฝากบอกมาว่า สามารถส่งใบสมัครของหลาย ๆ
    คนรวมกัน ในซองเดียวทีเดียว ได้ครับ จะได้ประหยัดค่าซองและแสตมป์ (น้ำหนักไม่เกิน 20 กรัม = แสตมป์ 3 บาท)
    หรือ Fax ใบสมัครส่งมาทางเบอร์ 02 - 884 5090
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    โทรศัพท์ : 02 884 5091 - 2
    โทรสาร : 02 884 5090
    http : // http://www.buddhism-online.org/
    http : // http://www.mcu.ac.th
    หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อขอทราบรายละเอียด ได้ที่
    มูลนิธิเผยแผ่พระสัทธรรม
    5/108 - 9 ซอยอุดมทรัพย์ ถนนบรมราชชนนี
    แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
    โทรศัพท์ 02 - 884-5091-2
    โทรสาร 02 - 884-5090
    การเดินทางไปมูลนิธิฯ ด้วยรถประจำทาง
    สามารถไปได้หลายสายดังนี้ :-
    รถประจำทาง สาย 19 , 28 , 30 , 40 , 57 , 66 , 123 , 124 , 127 , 146 , 149 ,
    รถปรับอากาศ สาย 3 , 7 , 11 , 17 , 30 , 33 , 66
    รถไมโครบัส สาย 4 , 8 และรถตู้อีกหลายสาย
    ** ลงที่ป้าย เซ็นทรัญปิ่นเกล้า หรือ เมเจอร์ปิ่นเกล้า


    แต่ถ้าท่านใดอยากร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ ร่วมบริจาคได้ที่
    ชื่อบัญชี มูลนิธิเผยแผ่พระสัทธรรม
    ธ.กรุงไทย/สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
    เลขที่ 031-1-46872-1
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ญา ทิวาราช; 03-09-2010 at 11:37. เหตุผล: ..................

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •