ชายไทยแซงโค้งเรื่องเครียด
จากสายด่วนกรมสุขภาพจิต ชายไทยแซงโค้งเรื่องเครียด
เมื่อใดก็ตามที่พบเจอปัญหา วิธีการแก้ไขหรือการหาทางออกที่ดีที่สุดในตอนนั้น คือ เอาตัวเองออกมา และวิเคราะห์ไตร่ตรองเจ้าตัวปัญหาว่า อะไรคือสาเหตุ โดยใช้สติวิจารณญาณในการแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด
แต่บ่อยครั้งที่ปัญหามันไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว หรือมาเยี่ยมเยือนแค่เพียงช่วงเวลาอันสั้นแล้วลาจากไป บางครั้งปัญหามันเกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนบางครั้งกลายเป็นความเครียดในที่สุด
ปัญหาซึ่งเกิดขึ้นทางจิตใจ หรือสั้นๆ ว่า ปัญหาทางจิต หากเกิดขึ้นกับใครแล้วคงมีน้อยคนที่จะนิ่งนอนใจ กินอิ่ม นอนหลับกันได้โดยไม่ไยดีกับมัน นั่นหมายรวมไปถึง ความเครียด ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน ความรัก เรื่องเพศ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นเจ้าของปัญหาก็ควรที่จะหาทางแก้ไข
จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาประชาชนให้ความสนใจขอรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ผ่านสายด่วน 1323 เพิ่มมากขึ้น ปี 2550 จำนวน 9,345 ราย เพศชาย 4,163 ราย เพศหญิง 4,901 ราย ปี 2551 จำนวน 28,289 ราย เพศชาย 12,112 ราย เพศหญิง 14,870 ราย ปี 2552 จำนวน 83,602 ราย เพศชาย 24,422 ราย เพศหญิง 23,849 ราย
ทั้งนี้ มีข้อน่าสังเกตว่า ในปี 2552 นี้ เพศชายขอรับบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเพศหญิง
เมื่อคนขอรับคำปรึกษาทางจิตเพิ่มขึ้น
นายแพทย์ทวีสิน วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคม และโฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้รายละเอียดถึง ตัวเลขของกรมสุขภาพจิตที่พบว่ามีผู้ชายโทร.เข้ามาขอคำปรึกษามากกว่าผู้หญิงนั้นเนื่องมาจากว่าผู้ชายให้ความสำคัญต่อปัญหาเรื่องสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น และส่วนใหญ่เรื่องที่ผู้ชายโทร.เข้ามาปรึกษาก็จะเป็นเรื่องเพศ ซึ่งปกติผู้ชายจะให้ความสำคัญต่อเรื่องเพศมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว และอีกหนึ่งเหตุผลหลักก็อาจจะเป็นเพราะว่ากรมสุขภาพจิตมีการเพิ่มคู่สายโทรศัพท์จากประมาณ 17 คู่สายเป็น 30 กว่าคู่สาย
โดยปกติของสายด่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 191 หรือ 1669 ปัญหาที่พบกันอยู่บ่อยครั้งก็คงจะหนีไม่พ้นสายป่วน ซึ่งจำนวนพวกสายป่วนนี้เองที่อาจจะทำให้จำนวนสายที่โทร.เข้ากรมสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น
"มันก็มีหลายเหตุผล บางทีก็มีพวกป่วนโทร.เข้ามา เห็นกันบ่อยๆ ก็เป็นพวกเซ็กซ์โฟน ซึ่งถ้าเป็นคนที่โทร.เข้ามาตั้งใจป่วนโดยเฉพาะ เราก็จะแนะนำให้เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์วางสายไปเลย แต่ถ้าเขาโทร.เข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ เราก็ช่วยให้เขาผ่านตรงนั้นไปได้"
เมื่อถามถึงว่า จำนวนสายที่โทร.เข้ามามากนั่นแสดงถึงว่าประชาชนชาวไทยเริ่มป่วยเป็นโรคทางจิตมากขึ้นจริงหรือไม่ นายแพทย์ทวีสิน อธิบายว่า ในจำนวนคนที่โทร.เข้ามาขอคำปรึกษา ส่วนมากจะไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพียงการมีปัญหาทางจิตเท่านั้น ซึ่งคนที่มีปัญหาไม่ใช่คนป่วย
"ถ้าเขานอนไม่หลับ 3-4 วัน หรือเครียดในช่วงเวลาสั้นๆ อาจจะเพราะว่าใกล้วันสอบ วันแต่งงาน นั่นก็ไม่ถือเป็นโรค แต่ถ้าเขานอนไม่หลับมานานเป็นเดือนเป็นปี เครียดนานติดต่อกันเป็นเวลานาน และเกิดอาการซึมเศร้าตามมา นั่นถึงแสดงออกว่าเป็นโรค"
Bookmarks