จุดเสี่ยงลักเด็ก-"สนามหลวง"หายอื้อ




แฉท้องสนามหลวงพื้นที่เสี่ยงเด็กถูกลักพาตัว ศูนย์ข้อมูลคนหายระบุเด็กหลายรายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งสูญไปจากครอบครัวเร่ร่อนหรือแจ้งความแล้วไม่เป็นคดีเพราะถูกมองว่าเป็นการพลัดหลง จี้โรงเรียน-ผู้ปกครองมีมาตรการเฝ้าระวังเด็ก ผู้พบเห็นสังเกตลักษณะเด็กถูกลักตัวมีรอยถูกทำร้ายให้รีบแจ้งสื่อหรือตร.เร่งรีบในการติดตาม


เมื่อวันที่ 12 พ.ย. น.ส.ธิติมา หมีปาน หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงกรณีแก๊งค้ามนุษย์ลวงเด็กชาย-หญิงสองพี่น้องจากท้องสนามหลวงไปจ.อุดรธานี ว่า สนามหลวงถือเป็นพื้นที่เสี่ยงในการลักพาตัวเด็ก เพราะถือเป็นชุมชนที่มีคนจากที่ต่างๆ เข้ามาอาศัย พ่อค้าแม่ค้าก็ใช้ชีวิตมีลูกหลานก็อยู่ตรงนั้น ทำให้เด็กคุ้นเคยกับผู้คนง่าย เมื่อมีผู้ต้องหาใช้เด็กมาเป็นตัวล่อตีสนิทก็ไว้ใจ เห็นมีเด็กมาด้วยก็ไม่คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ และเด็กวัยนี้มักกลัวและถูกชักจูงง่าย ซึ่งมีเด็กที่ถูกลัก พาตัวไปจากสนามหลวงไม่เฉพาะเด็ก 2 คน ล่าสุดเท่านั้น ยังมีอีกไม่น้อยที่หายไปจากสนาม หลวง แต่ไม่ได้เป็นข่าว หรือแจ้งความแล้วตำรวจไม่รับเรื่องมองว่าเป็นการพลัดหลงทั่ว ไป หรือเด็กหายไปจากครอบครัวเร่ร่อนไม่สะดวกในการตามหา เป็นต้น


น.ส.ธิติมากล่าวอีกว่า กรณีเด็กถูกลักพาตัวจะสังเกตจากเด็กจะมีผิวพรรณภายนอกแตกต่างจากผู้ต้องหา หากผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นญาติก็ขอตรวจสอบหลักฐาน หลายรายที่พบเมื่อขอดูหลักฐานก็ไม่มี อีกทั้งเด็กที่ถูกลักพาตัวจะมีร่องรอยการถูกทำร้ายตามเนื้อตัว ลักษณะเด็กหวาดกลัว เกรงกลัวคนร้าย หรือเมื่อเด็กร้องขอให้ช่วยเหลือ บอกว่าถูกลักพาตัวมา ผู้ต้องหาจะอ้างว่าเด็กเป็นลูกหลานมีอาการทางจิต หากพบผิดสังเกตดังกล่าวให้รีบแจ้งตำรวจ นอกจากนี้หากพบเด็กถูกลักพาตัวให้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทันที เพราะจะรวดเร็วในการแจ้งเบาะแสจากผู้พบเห็นให้สามารถจับกุมได้ทันเวลา


"สังคมกรุงเทพฯ สนามหลวงและหลายพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเด็กหาย สนามหลวงมีโรงเรียนอยู่ในละแวกนั้นหลายแห่ง ยิ่งเศรษฐกิจ ขณะนี้ผู้ปกครองไม่มีเวลารับส่งปล่อยเด็กเดินทางตามลำพัง โรงเรียนต้องประกาศหน้าเสาธงให้มีมาตรการระมัดระวัง แจ้งผู้ปกครองร่วมกันหาแนวทางป้องกัน เช่น ตั้งเครือข่ายโรงเรียนผู้ปกครองเฝ้าระวังซึ่งกันและกัน หากผู้ปกครองไม่สะดวกรับส่งเด็กก็จัดให้เด็กที่บ้านอยู่ละแวกเดียวกันกลับด้วยกัน ช่วยดูแลกัน หากมีการลักพาตัวเด็ก ก็จะช่วยแจ้งเบาะ แสรูปพรรณผู้ต้องหาได้บ้าง" หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าว


ด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระ ทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือเด็กอีก 2 คน คือ ด.ญ.นงเยาว์ และด.ญ.เพชร รัตน์ อายุ 6 ขวบ ที่ถูกนางช้อน สีส่อง ลักพาตัวมาก่อนหน้านี้โดยเปลี่ยนชื่อนามสกุลเด็กใหม่ด้วยว่า ขณะนี้เด็กทั้ง 2 รายมาอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็ก และครอบครัว จ.อุดร ธานีแล้ว เบื้องต้นดูแลรักษาด้านร่างกาย ที่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนด้านจิตใจได้ให้ นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้เด็กมีอาการเหม่อลอย ไม่ค่อยยอมพูด และยังไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองได้ เช่น พ่อแม่ หรือญาติอยู่ที่ใด และสถานที่ถูกลักพาตัวมาจากไหน ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีบุคคลใดมาแจ้ง หรือแสดงตัวว่าเป็นญาติของเด็กทั้ง 2 ราย หากรู้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพ่อแม่และญาติของเด็กอยู่ในจังหวัดใดก็จะนำตัวเด็กไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวในจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ง่าย ต่อการส่งเด็กคืนสู่ครอบครัวที่แท้จริง


นายวัลลภกล่าวต่อว่า อยากฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และสอน อย่าให้บุตรหลานเชื่อคนง่าย รวมถึงฝากคน ในชุมชนเดียวกันร่วมกันสอดส่อง โดยเฉพาะหากพบเด็กในบ้านใดที่แปลกหน้าเพิ่งเข้ามา และมีอาการเหม่อลอย สะลึมสะลือ หรือมีอาการขัดขืนคน ในครอบครัวอย่างผิดปกติ ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือแจ้งเข้ามาที่ศูนย์ประชาบดี 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง



ขอบคุณหนังสือพิมพ์ข่าวสด


จุดเสี่ยงลักเด็ก-"สนามหลวง"หายอื้อ