ปิดตำนาน ซิ่งผานโผนฝ่ากำแพงไฟ จอห์น อิสรัมย์ แชมป์โมเตอร์ครอสคนแรกของไทย กล้ามเนื้อหัวใจวาย เสียชีวิตกะทันหันกลางดึกที่บ้านพักเมืองแปดริ้ว ทั้งที่สุขภาพแข็งแรงไม่เคยมีโรคประจำตัว นางประกายเพชร ภรรยาคนคู่ชีวิตเผยจู่ๆ เกิดแน่นหน้าอก ต้องเรียกศูนย์แพทย์นเรนทรด่วน แต่ทีมแพทย์ไปช่วยไม่ทัน เสียชีวิตก่อนถึงมือหมอแค่ 5 นาที เป็นยอดนักสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย
วงการแข่งรถจักรยานยนต์เมืองไทย เจอเรื่องช็อกแบบไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อ จอห์น อิสรัมย์ ยอดนักแข่งรถมอตอร์ไซด์ชื่อกระฉ่อนเมืองไทย ที่โด่งดังจากการขับขี่รถผาดโผนหลากหลายรูปแบบ จนชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก และแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง จู่ๆ เกิดอาการหัวใจวายเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อกลางดึกเช้ามืดวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ บ้านพัก จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งที่ทีมแพทย์พยายามนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
ผู้สื่อข่าวรุดสอบถามถึงรายละเอียดเรื่องนี้ ก่อนได้รับการเปิดเผยจากนางประกายเพชร ภรรยาของจอห์น อิสรัมย์ว่า กลางดึกคืนวันที่ 19 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 3.20 น. ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ จอห์น อิสรัมย์ ก็ปลุกตนขึ้นมาพร้อมแจ้งว่าเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตนพร้อมสมาชิกในบ้าน ซึ่งเป็นน้าสาวจึงโทรศัพท์แจ้งด่วนไปยังศูนย์แพทย์นเรนทร เพื่อขอความช่วยเหลือทันที
หลังจากนั้น อาการของจอห์น ก็เริ่มหนักขึ้น จนต้องพยายามปั้มหัวใจตามคำแนะนำของแพทย์จากศูนย์นเรนทรตลอดเวลา กระทั่งผ่านไปประมาณ 20 นาที จอห์น ก็หมดลมหายใจ จากโลกนี้ไปอย่างสงบ หลังจากนั้นอีก 5 นาที ทีมแพทย์ของศูนย์นเรนทร เดินทางมาถึงจึงช่วยกันปั้มหัวใจอีกครั้ง พร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อหวังใช้อุปกรณ์ที่ครบถ้วนกว่ายื้อชีวิตยอดนักบิดเอาไว้ให้ได้ แต่ก็ไม่อาจเรียกชีพจรกลับมาได้ ต้องจากโลกนี้ไปในที่สุด โดยสาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจวาย
นางประกายเพชร เล่าทั้งน้ำตา ถึงชีวิตที่ร่วมทุกข์สุขกันมาว่า ตนและจอห์นอยู่กินกันมา 7 ปีโดยไม่ได้แต่งงานกัน ก่อนหน้านี้ จอห์นเคยมีภรรยาและลูกมาแล้วสองครั้ง ตนเป็นภรรยาคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย "เขาแข็งแรงมาก ไม่เคยเป็นอะไรเลย แต่เราก็ไม่ประมาทให้เขาไปตรวจร่างกายปีละสองครั้ง เขาก็บอกว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรทุกอย่างปกติดี จู่ๆ ก็มาหัวใจวายแบบนี้ บอกตรงๆ ว่าไม่อยากเชื่อเลย"
ภรรยาคนคู่ชีวิต เผยด้วยว่า ชีวิตของ จอห์น ระยะหลัง ยังคงรับงานขับขี่รถแบบผาดโผนอยู่เรื่อยๆ แม้งานจะน้อยลงไปไม่เหมือนสมัยอายุยังน้อย แต่ก็ยังมีความสุขดีครอบครัวไม่ได้ลำบากอะไร เนื่องจากตนก็มีบ้านและมีฐานะพออยู่พอกินไม่ได้ลำบากอะไร
แต่จอห์นเป็นคนที่สู้ชีวิตพยายามทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือตนเสมอๆ ที่สำคัญคือทั้งสองคนอยู่กันด้วยความรักและความเข้าใจกันมาตลอดเวลา จะมีปากเสียงกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมียเท่านั้น ไม่เคยมีอะไรรุนแรง และไม่เคยทำอะไรให้เสียใจแม้แต่น้อย
"เสียใจมากค่ะเพราะอยู่กันมา เขาดีกับเราทุกอย่าง ที่ผ่านมา เขาก็มีครอบครัวมาแล้ว ถึงจะแตกแยกมา ถึงจะมีคนพูดว่าเขาเจ้าชู่หรืออะไรก็ตาม แต่กับเราเขาดีมาก ไม่เคยทำให้เราเสียใจเลย เขาเป็นคนดีจริงๆ ค่ะ"
หลังการเสียชีวิตแล้ว ภริยาและญาติพี่น้องได้นำร่างของจอห์นซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ไปประกอบพิธีและฝังที่สุสานของสุเหร่า
สำรับประวัติของ จอห์น อิลรัมย์นั้น เริ่มต้นชีวิตการขับขี่รถจักรยานยนต์ชนิดโมโตครอส หรือมอเตอร์ไซด์แบบวิบากมาตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนจะเริ่มมีชื่อเสียงด้วยการเป็นนักแสดงผาดโผนเมื่อครั้งที่ยังวัยรุ่น 17-18 ปี จากนั้นได้เข้าแข่งขันมอเตอร์ครอส ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2520 และได้เป็นแชมเปี้ยนคนแรกของประเทศ
จากนั้นจึงออกแข่งขันในระดับประเทศ และระดับโลก จนได้แชมป์จากหลายสนาม และต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ได้เล่นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกชื่อ "แข่งรักแข่งรถ" จนเป็นที่รู้จักทั่วไป โดยประกบกับ กรุง ศรีวิไล, ภิญโญ ทองเจือ, อำภา ภูษิต, สุเชาว์ พงษ์วิไลฯ
ด้วยความสามารถทั้งการแสดงมอเตอร์ไซค์ผาดโผน จอห์น อิสรัมย์ เปิดการแสดงโชว์ผาดโผนทั่วประเทศ เป็นที่รู้จักดีในยุคนั้น ต้นตำรับ ลอยเหินเวหา ลอดห่วงไฟ พุ่งชนสิ่งกีดขวาง สารพัดการแสดงเสี่ยงชีวิต และยังรับงานแสดงภาพยนตร์ต่อเนื่องเรื่อยมา โดยเฉพาะบทร้าย เพราะเล่นได้ถึงใจทั้งการแสดงและลีลาบู๊ล้างผลาญ แม้กระทั่งงานโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์โทรทัศน์วิทยุ เจ้าของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนตร์ต่างก็มั่นใจให้ จอห์น อิสรัมย์ เป็นพรีเซนเตอร์
นอกจากนั้นยังเคยออกผลงานเพลงกับค่ายนิธิทัศน์ชุดแรกและชุดเดียวในประวัติศาสตร์ คือชุด บิดสุดขีด ประมาณปี พ.ศ. 2535 เวลาไปแสดงโชว์ที่ไหน บางที่มีเวที ก็มักจะได้ฟังเพลงจากเสียงร้องของ จอห์น อิสรัมย์ เป็นของแถมนอกจากนี้จอห์น อิสรัมย์ ปรากฏในภาพยนตร์ฮอลีวู๊ด และฮ่องกงมาบ้าง เพราะต่างชาติเขาให้ความมั่นใจในความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงยกย่องเป็นบรมครูทางด้านการขับขี่มอเตอร์ไซด์วิบาก เพราะเป็นเทรนเนอร์ผู้ให้การอบรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์วิบากจบหลักสูตรไปหลายรุ่นแล้ว
บทความจาก :ข่าวกีฬาสยามสปอร์ต
Bookmarks