จากศักดินา สู่ สามัญชน : รักแท้ของพระธิดาราชวงศ์ญี่ปุ่น
รักแท้ของพระธิดาราชวงศ์ญี่ปุ่น
เจ้าหญิงซายาโกะ หรือ เจ้าหญิงโนริ พระธิดาองค์เดียวแห่งจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ประกาศหมั้นและแต่งงานกับ นาย โยชิกิ คูโรดะ วัย39 ปี หนุ่มที่มีอาชีพเป็นข้าราชการผังเมือง ประจำกรุงโตเกียว
เจ้าหญิงโนริกับโยชิกิรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยกาคูซูอิน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงของกรุงโตเกียว และเป็นสถาบันที่ราชวงศ์ญี่ปุ่นเรียนกันมาหลายรุ่นแล้ว นายโยชิกิเป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนกับ เจ้าชายอากิชิโน พระเชษฐาของเจ้าหญิงซายาโกะ
เจ้าหญิงโนริกับโยชิกิ มีความสนใจในเรื่องสัตว์ป่า และการดูนกเหมือนกัน สมัยเรียน ทั้งสองเข้าร่วมอยู่ในชมรมธรรมชาติและวัฒนธรรมเหมือนกัน โดยเจ้าชายอากิชิโน (พระเชษฐา) เป็นประธานชมรม นายโยชิกิเป็นสมาชิกร่วมชมรม ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองจึงรู้กันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด
ภายหลังที่ห่างเหินกันไปหลังเรียนจบ ทั้งสองก็กลับมารื้อฟื้นความรักกันใหม่ โดยผ่านทางพระเชษฐาอากิชิโน ที่งานเลี้ยงอาหารค่ำแด่พระสหายเก่า ที่พระตำหนักอาซากาของพระองค์ เรียกได้ว่า นายโยชิกิเป็นบุคคลใกล้ชิดคุ้นเคยกับราชนิกุลในราชวงศ์นี้เป็นอย่างดี
ภายหลัง เจ้าหญิงโนริและนายโยชิกิที่พลิกฟื้นตำนานรักแล้ว สมเด็จพระจักรพรรดิ์อากิฮิโตและพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงเห็นชอบที่จะให้ทั้งสองได้แต่งงาน จากนั้นเป็นต้นมา ประตูพระราชวังอิมพิเรียลก็เปิดต้อนรับนายโยชิกิ คูโรดะ ตลอดเวลา
ภายหลังการประกาศพิธีหมั้น เจ้าหญิงโนริได้เตรียมตัวเป็นสามัญชนโดยการไปซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาเกต และเรียนขับรถยนต์ในเขตพระราชวังอิมพิเรียล
ตามธรรมเนียมญี่ปุ่น เจ้าหญิงไม่มีสิทธิ์ได้ขับรถยนต์มาก่อน แต่ในกรณีนี้เจ้าหญิงต้องขับรถยนต์ด้วยตัวเองให้ได้ เพื่อฝึกซ้อมพระองค์ให้ใช้ชีวิตแบบสามัญชน โดยปราศจากพระพี่เลี้ยง และคนคอยอารักขาดูแล และภายหลังแต่งงาน เจ้าหญิงจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี และได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
พระองค์เป็นเจ้าหญิงองค์แรกแห่งราชสำนักญี่ปุ่น ที่อภิเษกกับสามัญชน นับแต่ปี 1960 (พ.ศ. 2503) เป็นต้นมา
ตามกฎมณเฑียรบาลของราชสำนักญี่ปุ่น เจ้าหญิงที่แต่งงานกับสามัญชน จะต้องสละฐานันดรกลายเป็นบุคคลชนชั้นสามัญ
เจ้าหญิงโนริเองก็เช่นกัน พระองค์จะกลายเป็นสามัญชนอย่างเต็มตัว เมื่อเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 15 พ.ย. 2548 ที่ผ่านมา
หลังอภิเษกลมรสแล้ว เจ้าหญิงโนริทรงวางแผนใช้ชีวิตอย่างสามัญชนโดยการเป็นแม่บ้าน และพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เล็กๆ ขนาด60 ตารางเมตร และมีเงินค่าครองชีพเพียงเดือนละ 100,000 บาท ทางราชสำนักญี่ปุ่นได้มอบเงินจำนวน 152.5 ล้านเยน หรือประมาณ 53.4 ล้านบาท ที่พระองค์จะได้รับตาม กฎมนเฑียรบาล เงินจำนวนนี้ไม่มาก เมื่อเทียบกับความสุขสบายในพระราชวังที่พระองค์เคยดำรงชีวิตอยู่ และหลังพิธีแต่งงาน เจ้าหญิงจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุล "คูโรดะ" ตามสามี และจะต้องเสด็จออกนอกวังไปอยู่ อพาร์ทเมนต์ ทำหน้าที่ภรรยาเยี่ยงสามัญชนเต็มตัว
เจ้าของบทความ : คู่สร้างคู่สม
Bookmarks