หลายคนคงเคยประสบปัญหาที่แก้ไม่ตกในการซักผ้า นั่นก็คือการขจัดคราบสกปรกที่ฝังลึก
อยูในเนื้อผ้าให้หลุดออกง่ายๆ ซึ่งบางครั้งการแช่ทิ้งไว้นานๆ ก็ยังไม่สามารถที่จะขจัดรอย
เปื้อนให้หมดไปได้ วันนี้เรามีวิธีการขจัดครบฝังลึกในรูปแบบต่างๆ มาฝากการขจัดคราบบนเสื้อ-ผ้าการขจัดคราบบนเสื้อ-ผ้า


เสื้อผ้าสีขาวที่เริ่มจะกลายเป็นสีเหลือง
สามารถแก้ไขได้โดยใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า ทิ้งไว้สักครู่
แล้วจึงซัก

เสื้อผ้าที่เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน
ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ
วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด
แล้วจึงนำไปซัก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด
ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ
ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่น
ออก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง
แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ
ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแล็ต
ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย
จากนั้นนำไปซักแห้ง


เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน
ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบ
บริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ

เสื้อผ้าที่เลอะโคลน
ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง
จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา
ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว
รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช
ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก


เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า
ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที


เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ
ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าด
หรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)


เสื้อผ้าที่ขึ้นราเล็กน้อย
ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบ
มะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ


เสื้อผ้าที่เปื้อนรอยสนิม
ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่
แล้วจึงนำไปซักตามปกติ


เสื้อผ้าที่เลอะคราบเบียร์
ขจัดคราบโดยซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็น แปรงตรงรอยเปื้อนทันที


เสื้อที่เลอะคราบน้ำมันรถ (น้ำมันเครื่อง) ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน จนรอยเปื้อนจางลง
แล้วจึงนำไปซัก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู
ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก
ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก


เสื้อผ้าที่เลอะกาว
ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง
ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษ
จนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู
และเตารีดที่เย็นกว่า

เสื้อผ้าที่เลอะไข่
ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก

เสื้อผ้าที่เลอะยางกล้วย
ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที

เสื้อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ
ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน)


เสื้อผ้าที่เลอะยาแดง

ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ

เสื้อผ้าที่เลอะมัสตาร์ด
ขจัดคราบโดยใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เลอะคราบปัสสาวะ
ให้ซับที่รอยเปื้อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรือเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
แล้วซักได้ตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ
3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง
ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ
อย่างละเท่ากัน เช็ดให้แห้งแล้วนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เลอะหมึกจีน
ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปกติ


เสื้อผ้าที่เลอะสีน้ำมัน
ขจัดคราบโดยใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะสีเคลือบเงา
ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน หรือผสมแอมโมเนีย กับน้ำมันสนในอัตราส่วน
ที่เท่ากัน แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่

เสื้อผ้าที่เลอะสีปากกาเมจิก
ให้ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เลอะคราบดินสอ
ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้

เสื้อผ้าที่เลอะลิปสติก
เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผง
ซักฟอกขาว โรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อนแล้ว
นำมาซักตามปกติ / นำมาแช้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย


เสื้อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้

ขจัดคราบโดยนำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย