หลาย ๆ คนอาจเห็นภาพลักษณ์ผมเป็นคนอารมณ์ดี พูดตลกขบขัน แต่จริง ๆ แล้วผมเป็นคนใจร้อนมาก ๆ หลายต่อหลายครั้งที่ผมทำผิดพลาดในความใจร้อนของผม พอใจเย็นลงก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไป
ตอนเป็นหนุ่ม ผมใจร้อนมากกว่านี้ เรียกว่าใครพูดผิดหูตามไปเอาเรื่องถึงบ้าน ตอนนี้แต่งงานมีครอบครัว ก็อาจลดลงมาบ้างบางส่วน (อิอิ) แต่ก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว เมื่อมีสิ่งใดมากระทบก็รู้สึกปี๊ด ขึ้นมาทันที ก็พยายามอ่านหนังสือธรรมะ หรือหนังสือเกี่ยวกับกับการสร้างแรงบันดาลใจ เกี่ยวกับการควบคุมสภาวะของจิตใจ ผมว่าช่วยได้มากทีเดียว
"นิสัยของคนใจร้อนมักหงุดหงิดเวลาเจอคนที่ใจเย็น หรือเชื่องช้ากว่าตน แต่ลองได้เจอคนที่ใจร้อนและเร็วกว่าตน ก็จะรู้ว่าสึกว่ามันแย่กว่ามาก ๆ เวลาเราคาดคั้นเร่งรัดใคร เราไม่รู้หรอกว่าเราสร้างความทุกข์แก่เขาแค่ไหน ต่อเมื่อถูกคนอื่นคาดคั้นเอากับเราบ้าง จึงจะรู้ซึ้งแก่ใจว่าคนใจร้อนนั้นน่ารำคาญเพียงใด
ทุกวันนี้ใครต่อใครดูเร่งรีบกันไปหมด เพราะเราพากันเชิดชูบูชาความเร็ว จะทำอะไรต้องให้เสร็จไว ๆ ถ้าจะเปิดปุ๊บก็ต้องติดปั๊บ ถ้าจะกินกาแฟก็ต้องเป็นอินแสตนต์คอฟฟี่ หรือทรีอินวัน ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเป็นมาม่าไวไวถึงจะถูกใจ แม้กระทั่งเวลาทำสมาธิ ก็อยากบรรลุในวันนี้วันพรุ่ง
เราต่างถูกสอนว่าเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง ดังนั้นจึงพยายามใช้เวลาอย่างประหยัดที่สุด ทุกอย่างต้องให้เสร็จในเวลาน้อยที่สุด จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น แต่น่าแปลกที่ว่ายิ่งรีบเท่าไร ยิ่งประหยัดเวลามากเท่าไร เวลาว่างกลับเหลือน้อยลง วันแล้ววันเล่า ชีวิตก็ยังยุ่งเหยิงตั้งแต่เช้ามืดจรดดึกดื่น
เป็นเพราะคอยไม่เป็น เราจึงเย็นไม่ได้เสียที นั่นยังไม่เท่าไร หากว่าคนอื่น ๆ ใจเย็นกว่าเรา แต่ถ้าคนรอบตัวล้วนใจร้อนพอ ๆ กัน โลกนี้ก็คือนรกดี ๆ นี่เอง
ลองช้าลงสักนิด เย็นลงสักหน่อย เราจะมีความสุขกว่านี้มาก อย่างน้อยตัวเราก็จะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น"
ผมว่าจริงดั่งที่ท่านว่ามาทั้งหมดครับ น้อง ๆ หลายคนบอกให้ผมใจเย็น ๆ "อ้ายพลเป็นคนใจร้อน ๆ" ก็พยายามใจเย็นครับ แต่...บางที "การทรมานคือการรอคอย" ผมไม่ค่อยชอบการรอคอยครับ
...................................................................................................................ขอบพระคุณข้อมูลบางส่วนจาก..คนน่ารักดอทคอม
Bookmarks