ปีทองของชาวนา
ปีนี้เป็นปีที่ชาวนาได้ยิ้มน่าใสขึ้นมาได้
หลังจากที่รัฐบาลประกันราคาข้าว ในราคา กิโลกรัมละ 15 บาท
แต่ ณ แต่วันนี้ รัฐคงไม่ได้ออกเงินค่าข้าวเท่าใดนัก เพราะอะไรหรือคะ
เพราะตอนนี้ข้าวหอมมะลิ ราคายิ่งกว่าทองคำเสียอีก
วันเสาร์ ข้าพเจ้านำข้าวไปขาย เพื่อมาให้เป็นค่ารถเกี่ยว (กะว่าให้ข้าวในนาเลี้ยงตัวมันเอง) ปรากฎว่า ข้าวกิโลละ 15 บาท พอดีค่ะ
แต่มาวันอาทิตย์ ข้าวที่โรงสีท่าตูม สุรินทร์ ราคาขยับขึ้น เป็น กิโลกรัมละ 16 บาทแล้ว
ตอนนี้ใครมีข้าวในมือ หมายความว่า คนนั้นมีเงินแบบเป็นเศรษฐีน้อยๆๆ
เพราะ ข้าว 10 ตัน ราคา ณ วันนี้ ราคา 160,000 บาทแล้วค่ะ
วันก่อน มีชาวบ้านนำข้าวไปขาย (วันเสาร์) จำนวน 5 ถุงปุ๋ย ได้เงิน 3,000 กว่าบาท
วันอาทิตย์ มีชาวบ้านนำข้าวไปขาย 13 ถุงปุ๋ย ได้เงิน 8,000 กว่าบาท
ก็คิดดูเอาเองนะคะ ว่า ไม่ใช่ยุคทองของชาวนาแล้วจะยุคอะไร
แต่ในมุมกลับกัน
พี่น้องที่ไม่ได้ทำนา ก็คงต้องเตรียมรับสภาพ ข้าวยากมากแพงไว้ให้ดี
เพราะข้าวเปลือกแพงขนาดนี้ ก็ต้องเตรียมซื้อข้าวสารในราคาที่แพงมากๆๆ
ขอเตือนว่า ถึงเวลาที่ชาวกรุงเทพ และผู้ที่ต้องซื้อข้าวสารรับประทาน
เตรียมตัวรับสภาพข้าวยากหมากแพงได้แล้วค่ะ
ยุคทองของชาวนา....แต่เป็นยุคแย่ของคนเดินดินกินข้าวแกงแล้วจ้า...
เรืองจริงที่กำลังจะได้รับในปีนี้ค่ะ....
Bookmarks