แข้งซีเกมส์บินถึงบ้านดาร์บี้ลั่นไม่ลาออก

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

ทัพนักเตะทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ บินกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือใหญ่ ลั่นไม่ขอลาออก บอกศักยภาพพร้อมช่วยทีมชาติไทยได้ ส่วน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี รับยังช็อกไม่หาย ยืดอกรับผิดพร้อมพิจารณาตัวเอง ด้าน "ซิโก้" โบกมือลาแล้ว บินไปรับงานคุมทีมฮอง อันห์ ยาลาย ในวีลีกตามคาด ขณะที่ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกกีฬามีแพ้มีชนะ ขอเป็นกำลังใจให้ต่อ และให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทบทวนการทำงานของตัวเองด้วย

ภายหลังจากที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พ่ายแพ้ "เสือเหลือง" มาเลเซีย 1-2 จนส่งผลให้ร่วงตกรอบแรก ศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว ชนิดช็อกความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการตกรอบในรอบ 36 ปี จนส่งผลให้แฟนบอลด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา แข้งทีมชาติไทย เดินทางกลับบ้านด้วยความบอบช้ำ ด้วยสายการบินไทย ทีจี 571 เมื่อเวลา 13.50 น. นำโดย "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, "บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลไทยฯ

สตีฟ ไม่สนขอทำงานต่อ
ก่อนออกจากสนามบินวัดไต ของประเทศลาว มีทัพสื่อมวลชนของไทยติดตามไปทำข่าวกันอย่างคับคั่ง โดยประเด็นหลักยังสงสัยอยู่ว่า สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือใหญ่จะรับผิดชอบอะไรหรือไม่ ที่ทำให้ทีมฟอร์มออกเละเทะจนตกรอบแรก เรื่องนี้ สตีฟ ดาร์บี้ กล่าวถึงบทบาทของตัวเองว่า อย่างที่บอกตนพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการเรียกตัวผู้เล่น, การเตรียมทีมและอีกหลายๆ อย่าง อย่างไรก็ดีตนยังจะทำงานต่อไป เพราะเชื่อว่ายังมีศักยภาพที่จะทำงานช่วยทีมชาติไทยได้

"ซิโก้" โบกมือลาคุมยาลาย
ส่วน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผช.โค้ช ออกมากล่าวว่า ตนคงจะยุติบทบาทของการเป็นโค้ชทีมชาติไทยแค่นี้ก่อน ต้องขอบคุณที่สมาคมฟุตบอลฯ โดย ท่านวรวีร์ ที่ให้โอกาส ต่อจากนี้คงจะพักผ่อนสักระยะ ก่อนที่จะบินไปเซ็นสัญญาคุมทีมสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ที่เวียดนามเป็นระยะเวลา 1 ปี

ชี้ไปเพราะทดแทนคุณ
นอกจากนั้น ผช.โค้ชทีมชาติไทย กล่าวอีกว่า ตนได้เริ่มงานมาแล้วประมาณ 1 เดือน ในการคุมทีมโดยให้ทาง ดุสิต เฉลิมแสน ทำงานดูแลทีมไปก่อน อย่างไรก็ดีสาเหตุที่กลับไปคุมทีมฮอง อันห์ ยาลาย เพราะเหมือนกลับไปทดแทนบุญคุณต่อ มร.ด่วน เหงียน ดึก ที่มีพระคุณกับตน ที่เคยเล่นและทำงานมาด้วยกัน

รับเละคาดเดือนละเหยียบล้าน
ในส่วนของค่าจ้างที่ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่จะไปคุมทีมฮอง อันห์ ยาลาย นั้นผช.โค้ชทีมชาติไทยกล่าวว่า เรื่องของค่าจ้างยอมรับว่าได้เยอะกว่าตอนสมัยที่เป็นนักเตะแน่นอน คงจะบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่เยอะเหมือนกัน สำหรับเป้าหมายในการไปคุมทีมจะพยายามพาทีมกลับมาลุ้นแชมป์วีลีกให้ได้ หลังจากที่ซบเซามานาน

ผู้สื่อข่าวคาดว่า สำหรับเงินเดือนของ "ซิโก้" ในการคุมที่ฮอง อันห์ฯ นั้นน่าจะได้มากถึงเดือนละล้าน

แย้มอนาคตขอทำทีมเองดีกว่า
นอกจากนี้ ผช.โค้ชทีมชาติไทย กล่าวถึงอนาคตในการกลับมาคุมทีมชาติไทยว่า เรื่องนี้คงจะต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ ว่าจะให้โอกาสหรือไม่ ตนพร้อมสำหรับทีมชาติไทย แต่หากให้ดีอยากที่จะเป็นโค้ชใหญ่ดีกว่า จะได้ทำงานเต็มที่ ส่วนจะเป็นชุดไหน ก็ได้ไม่สำคัญขอให้ได้รับโอกาส พร้อมที่จะทำอย่างเต็มที่แน่นอน

"บังมาด" ให้ 2 แสนปลอบใจ
ขณะที่ "บังมาด" นายสามารถ มะลูลีม ผจก.ทีม กล่าวกับนักเตะว่าอยากให้ทุกคนลืมความเจ็บปวดครั้งนี้ให้เร็ว และตั้งต้นใหม่ในการเล่นให้กับสโมสร และอยากให้ดูแลตัวเองให้ดีๆ เพราะบางคนยังสามารถเล่นชุดใหญ่ได้ในอนาคต โดยทาง ส.ส.ชาดา ชัยเศรษฐ์ ได้มอบเงินปลอบใจจำนวน 2 แสนบาท ให้กับทีมก่อนเดินทางกลับด้วย

"คาร์" เซ็งพลาดแชมป์สมัย 3
ส่วนบรรยากาศของนักเตะที่ยังมีอาการเศร้าและซึมจากความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น โดย "คาร์" เกียรติประวุฒิ สายแวว กัปตันทีม กล่าวว่า ยอมรับว่าผิดหวังและไม่คิดว่าทีมจะตกรอบเร็วแบบนี้คงจะโทษใครไม่ได้แล้วต้องขอโทษแฟนบอลที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ สำหรับตนแล้วเซ็งที่ไม่ได้แชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกัน

"มุ้ย" รับวาสนาไม่ถึง
ด้าน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงที่ได้เล่นแค่ 45 นาที ในศึกซีเกมส์หนนี้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่นัดแรก กล่าวว่า สำหรับตนแล้วไม่สมบูรณ์จริงๆ ไม่อยากฝืนในเกมกับมาเลเซียให้คนที่พร้อมลงดีกว่า อย่างไรก็ดีต้องขอโทษแฟนบอลที่เราไม่สามารถเอาเหรียญทองไปฝากได้ สำหรับตนคงจะไม่มีวาสนากับซีเกมส์เท่านั้น

"เอ็ม" โอดซ้อมน้อยทำเจ๊ง
ขณะที่ "เอ็ม" อนาวิน จูจีน ออกมากล่าวว่า ความจริงแล้วไม่อยากที่จะโทษใครทั้งนั้น เราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน สำหรับตนแล้วคิดว่าเราเตรียมทีมกันน้อย ทำให้ทีมไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ยังเชื่อว่าแฟนบอลจะเข้าใจ และให้อภัยพวกเราอยู่

"บังยี" ออกตัวช็อกไม่หาย
ส่วน "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่เดินทางกลับพร้อมกับทัพนักเตะทีมชาติไทย ออกมากล่าวว่า ตนยอมรับว่ายังช็อกไม่หายและยังงงว่าทีมชาติไทยตกรอบได้อย่างไรไม่เชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับทีมชาติไทยได้ แต่อย่างไรก็คงจะต้องขอโทษแฟนบอลชาวไทยอย่างสุดซึ้ง ที่ไม่สามารถพาทีมไปถึงแชมป์ได้ตามเป้าหมาย

ขอรับผิดชอบทุกกรณี
นอกจากนั้น นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้กล่าวเสริมว่า ในการแข่งขันครั้งนี้มีหลายอย่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมทีมที่มีปัญหาจะขอดูรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร ตนบอกแล้วว่าไม่อยากที่จะโทษใครทั้งนั้นไม่ว่านักเตะ, โค้ช หรือ ทีมงาน ในฐานะผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯ ขอรับผิดชอบทุกกรณีที่เกิดขึ้น

พร้อมพิจารณาตัวเอง
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ว่าตอนนี้ฟุตบอลไทยล้มเหลวเยอะมีความคิดจะพิจารณาตัวเองลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ในเรื่องนี้ "บังยี" กล่าวว่า อย่างที่บอกตนพร้อมทบทวนพิจารณาทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นสำหรับความล้มเหลวครั้งนี้ ส่วนเรื่องของ สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งนี้ ขอดูรายละเอียดของเขาก่อนว่าจะอยู่หรือไป

เดินเครื่องเตรียม อช.คัพ 21 ธ.ค. นี้
นอกจากนี้ "บังยี" วรวีร์ กล่าวถึงการเตรียมทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเชียน คัพ ที่จะต้องพบกับ จอร์แดน ในวันที่ 6 ม.ค. นี้ว่า คงจะให้เดินเครื่องซ้อมกันในวันที่ 21 ธ.ค. นี้เลย เรามีเวลาน้อยมากสำหรับการเตรียมทีม ตอนแรกคิดว่ามีนักเตะซีเกมส์ที่เล่นได้อยู่หลายคน จึงจะรอก่อน และไม่น่าจะมีปัญหาแต่ตอนนี้ คงจะคิดใหม่และเริ่มต้นเดินเครื่องเลยดีกว่า

อังกฤษมาไม่มา 19 ธ.ค. รู้แน่
นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของโปรแกรมของทีมชาติอังกฤษ ที่จะเดินทางมาแข่งขันนัดพิเศษที่ไทยนั้น ตอนนี้ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะมีการประชุมในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ซึ่งน่าจะได้รับคำตอบ แต่ยืนยันว่าจะทางอังกฤษอยากที่จะมาไม่ปีนี้ก็ปีหน้า

"บิ๊กเปี๊ยก" รับโดนด่าเละ
ฝั่ง "บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า คงจะไม่มีอะไรที่จะแก้ตัวหรือแก้ไขได้ต้องขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่เราตกรอบแรกในส่วนของสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะผู้บริหาร พร้อมรับผิดชอบ เพราะการตกรอบครั้งนี้แฟนบอลค่อนประเทศด่ากันมามาก แต่พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับสมาคมฟุตบอลฯ

สตีฟ ไม่รอดโดนเชือดแน่
การที่ฟุตบอลทีมชาติไทยตกรอบ ทั้งที่ครองแชมป์ซีเกมส์มาแล้ว 8 สมัยติดต่อกัน ทำให้มีการกดดันให้ไล่กุนซือชาวอังกฤษอย่าง สตีฟ ดาร์บี้ ออกเพราะสร้างความอัปยศอดสูแก่วงการบอลไทยเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ "บิ๊กเปี๊ยก" ออกมายอมรับว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแน่นอน โดยจะมีการประชุมสภาฯ เร็วๆ นี้ ซึ่งแนวโน้มน่าจะมีการปลด สตีฟ ออกจากการเป็นโค้ช รวมถึงการเป็นมือขวาของ ไบรอัน ร็อบสัน ด้วย

ถึงไทยกลายเป็นผึ้งแตกรัง
จากนั้นเวลา 14.50 น. แข้งนักเตะทีมชาติไทย เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบรรยากาศ มีทัพสื่อมวลชนในเมืองไทยไปเฝ้ารอที่จะทำข่าวกันจำนวนมาก และต่างเฝ้าระวังว่าคณะนักเตะจะเดินออกทางประตูไหน เนื่องจากมีรายงานว่าเมื่อถึงไทยแล้ว นักเตะชุดนี้จะแยกย้ายกันกลับบ้านทันที ขณะที่ญาติพี่น้อง แฟนสาวของนักเตะหลายคนมาเฝ้ารอเช่นกัน

โดยเป็นไปตามคาดเมื่อกลุ่มผู้ใหญ่ ได้แยกออก นักเตะก็หนีทัพนักข่าว ออกจากสนามบินไปก่อน เหลือเพียง สตีฟ ดาร์บี้ กับ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำเดินออกจากด้านใน ทันที่เห็นกองทัพนักข่าว บรรดานักเตะต่างรีบเดินหนีแยกย้ายกันออกจากสนามบินทันที ท่ามกลางการวิ่งไล่ตามของนักข่าวที่ต้องการเก็บภาพบรรยากาศการเดินทางกลับ

"สตีฟ" ลั่นไม่ลาออก
อย่างไรก็ตาม สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือใหญ่ ไม่ได้คิดหลบหนีสื่อมวลชนยังคงเดินยิ้มแย้ม เข็นกระเป๋าออกมาพร้อม "ซิโก้" และยินดีที่จะตอบคำถามสื่อ ยังคงมีการจี้ว่า จะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ สตีฟ ยังคงกล่าวคำเดิมว่า ตัวเองรับผิดชอบกับสิ่งที่ผิดพลาดอยู่แล้ว และขอยอมรับผิดคนเดียว แต่ฟุตบอลทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ ยังไงเราต้องเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการเตรียมทีมชุดใหญ่ ที่จะสู้ศึกเอเชียน คัพ ที่มีนัดสำคัญกับจอร์แดน จะต้องเร่งเตรียมทีมให้เร็วเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด

รู้คนไทยผิดหวังกับผลงาน
นอกจากนี้ สื่อมวลชนสอบถามว่า รู้หรือไม่ว่าการตกรอบของทีมชาติไทย สร้างความผิดหวังแก่คนไทยทั้งประเทศ สตีฟ กล่าวว่า ตนรู้ว่าคนไทยผิดหวัง และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเสียใจไม่แพ้กัน และนักเตะทุกคนเสียใจ ทุกคนไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เราทำได้ดีขึ้นนำก่อน ไม่คิดว่าช่วงท้ายจะมาช็อตจนเสีย 2 ประตู ยืนยันนักเตะเต็มที่แล้ว และทุกคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

"ซิโก้" บอกเตรียมทีมน้อยไป
ด้าน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ยังโดนถามให้แสดงความคิดเห็นถึงการตกรอบของทีมชุดนี้ เผยว่า เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย ความจริงเครียดมาก่อนหน้านี้เพราะทำงานโค้ชมันหนักอยู่แล้ว มาเจอเหตุการณ์นี้อีกทำให้เครียดหนักขึ้น เพราะกระแสฟุตบอลไทยกำลังมาดี แต่ทีมชุดใหญ่ล่าสุดเราแพ้สิงคโปร์ ชุดเล็กมาแพ้มาเลเซียอีก คงต้องทบทวนและหาทางแก้ไขไม่ให้ตกต่ำมากไปกว่านี้

ส่วนการลาออก ความจริงเราเข้ามาไม่ได้มีสัญญาอะไร และมาในฐานะผู้ช่วยทำตามหน้าที่ของเรา ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องการจัดตัวหรือเปลี่ยนตัว เราจะช่วยเขามากกว่า เขาเป็นโค้ชเราต้องให้เกียรติ เมื่อผลออกมาอย่างไรก็รับผิดชอบร่วมกัน ส่วนตัวคงไปคุมทีมฮอง อันห์ ยาลาย ในเวียดนามแน่นอน

"ซิโก้" กล่าวทิ้งท้ายว่า ทีมชุดนี้เตรียมทีมไม่ดีนัก เรามีเวลาน้อย การเข้าแคมป์แค่ไม่กี่วันแถมซ้อมไม่เต็มที่อีก จะเห็นว่าความสัมพันธ์ในทีมไม่ดีนัก และมีจุดบอดที่เกมรุกด้วย

อาทิตย์บอกผิดหวังสุดๆ
ด้านนักเตะ ที่รีบกระจัดกระจายแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่บางคนไม่พ้นที่จะโดนนักข่าวตามสัมภาษณ์ โดย อาทิตย์ สุนทรพิธ บอกว่า "ก่อนไปตนตั้งความหวังไว้สูงมากว่าจะป้องกันแชมป์ได้ แต่เมื่อมันตกรอบเช่นนี้ รู้สึกผิดหวังอย่างแรง ขอโทษด้วยที่ทำไม่สำเร็จ"

ส่วน กวิน ธรรมสัจจานันท์ ประตูมือหนึ่งเผยว่า "2 ประตูที่เสียจนปัญญาจริงๆ ที่จะเซฟ เพราะโดนยิงระยะกระชั้นชิดทั้งสิ้น มันเป็นซีเกมส์หนแรก ที่เจ็บปวดมาก"

ด้าน อดุลย์ หละโสะ กล่าวสั้นๆ ว่า "ผิดหวังมาก เสียดายทีมไทยไม่ควรตกรอบเลย"

เผยนักเตะสูญเสียเงินคนละเกือบล้าน
จากการที่นักเตะทีมชาติไทยชายชุดซีเกมส์ ตกรอบแรกในการแข่งขันซีเกมส์ในครั้ง นี้ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียรายได้ ที่ควรจะได้ไปประมาณคนละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้หากว่านักเตะทีมชาติไทย สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนสามารถคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้มาครองได้ จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

เริ่มจากเงินอัดฉีดที่ทาง นายสามารถ มะลูลีม ผจก.ทีมได้ประสานงานกับเหล่าบรรดาสปอนเซอร์ทั้งหลายที่พร้อมจะให้ประมาณ 13 ล้านบาท ตามด้วยเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติของรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งการอัดฉีดแต่ละนัดที่สมาคมฟุตบอลฯ และทางผู้ใหญ่พร้อมที่จะควักให้อย่างเต็มที่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งนักเตะและทีมงานสามารถนำมาแบ่งกันคนละเหยียบล้านบาท แต่สุดท้ายเด็กไทยไม่สามารถคว้ามาได้ และต้องกลับบ้านมือเปล่า

"อภิสิทธิ์" ให้ทบทวนการทำงาน
จากกระแสฟุตบอลไทยที่ร่วงตกรอบฟุตบอลซีเกมส์ กลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ แม้แต่ในรัฐบาล มีการสอบถาม โดย นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่รู้กันดีว่ามีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และติดตามเชียร์มาตลอด


ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า ความพ่ายแพ้ ย่อมทำให้คนไทยทั้งประเทศผิดหวัง แต่เราต้องให้กำลังใจกันต่อไป นักกีฬาทำเต็มที่แล้ว กีฬาย่อมมีแพ้มีชนะกันได้ จากนี้ไปฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คงจะทบทวนถึงการทำงาน และคงจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ดีขึ้น ส่วนตัวคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร

โพลสวนดุสิตชี้บอลแพ้แต่ยังเชียร์ต่อ
ด้านสวนดุสิตโพล เจ้าของโพลชื่อดัง ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของแฟนบอลชาวไทยถึงความรู้สึกที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยตกรอบแรกในรอบ 36 ปี ที่ปราชัยต่อมาเลเซีย 1-2 โดยได้มีการสอบถามแฟนฟุตบอลทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1.044 คน ระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมแฟนบอลชาวไทย ยังจะเชียร์บอลไทยต่อไปสูงถึง 95.92 % ผลสำรวจมีข้อสรุปดังนี้

1.ความรู้สึกของแฟนบอลไทยกรณี ฟุตบอลไทยแพ้มาเลเซีย 1-2 ผลสำรวจปรากฏว่า อันดับ 1 รู้สึกช็อกกับผลการแข่งขันที่ออกมา / มาเลเซียได้ 2 ลูกในช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลา 68.43 %, อันดับ 2 ผิดหวัง เสียใจที่ฟุตบอลไทยไม่ได้เป็นแชมป์ติดต่อเป็นสมัยที่ 9 14.28 %, อันดับ 3 การแข่งขันกีฬาย่อมมีแพ้-ชนะ / ฟุตบอลลูกกลมๆ ไม่มีอะไรแน่นอน 9.85 %, อันดับ 4 เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของวงการฟุตบอลไทย 7.44 %

2.สาเหตุของการพ่ายแพ้ครั้งนี้ คือ อันดับ 1 ผู้เล่นทีมมาเลย์โหมบุกอย่างหนักจนทำให้นักฟุตบอลไทยไม่มีสมาธิ โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมสก่อนจะหมดเวลา 44.29 %, อันดับ 2 ทั้งผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลประมาทฝีมือนักฟุตบอลมาเลเซียมากเกินไป 22.65 %, อันดับ 3 การเตรียมตัวและการฝึกซ้อมน้อยเกินไป 15.67 % อันดับ 4 ทีมไทยมีความกดดันอย่างมากเนื่องจากเป็นแชมป์ติดต่อกันมาแล้ว 8 สมัย 10.30 %

3.ผลกระทบจากการแพ้ครั้งนี้ส่งผลด้านใดบ้าง อันดับ 1 ความรู้สึกผิดหวังทั้งของแฟนบอลชาวไทยและทีมนักฟุตบอลไทยทุกคน 47.31 %, อันดับ 2 ส่งผลต่อชื่อเสียงของประเทศชาติและวงการฟุตบอลไทย 19.46 %, อันดับ 3 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ลดลงและขาดการฝึกซ้อมอย่างหนัก 17.36 % และอันดับ 4 หนทางของบอลไทยๆ ไปสู่บอลโลกมีความยากลำบากมากขึ้น 15.87 %

4.บทเรียนครั้งนี้ทำให้บอลไทยต้องปรับปรุงแก้ไขในเรื่องใด อันดับ 1 การวางแผนที่รัดกุม/การศึกษาเกมการเล่นอย่างละเอียด 30.38 %, อันดับ 2 การฝึกซ้อม อย่างหนัก การเก็บตัวก่อนการแข่งขันที่เหมาะสม 29.70 %, อันดับ 3 การจัดตัวผู้เล่นทีเหมาะสม/ต้องแข็งแกร่งและมีประสบการณ์สูง 20.51 %

5.สิ่งที่อยากฝากบอกกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในวงการฟุตบอลไทย อันดับ 1 อยากให้นักฟุตบอลชาวไทยทุกคนสู้ต่อไป 43.19 % อันดับ 2 โค้ชและทีมงานที่ดูแลนักกีฬาไทยต้องจริงจัง เข้มงวดกว่านี้/มีการวางแผนที่ดี 27.08 % อันดับ 3 สิ่งที่ได้รับจากการแข่งขันนี้เป็นบทเรียนที่มีค่า ควรนำมาศึกษาพิจารณาให้ดี 15.00 %

6.แฟนบอยังจะเชียร์บอลไทยต่อหรือไม่? ซึ่งในข้อนี้แฟนบอลให้ความคิดเห็นที่น่าสนใจ อันดับ 1 เชียร์ต่อไป มากถึง 95.92 % โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะชื่นชอบและเป็นแฟนบอลไทยอยู่แล้ว, เป็นคนไทยต้องเชียร์กีฬาไทยต่อไป, กีฬาย่อมมีแพ้-ชนะ รู้จักอภัย, ทีมฟุตบอลไทยทุกคนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เชียร์ 4.08 % เหตุผล เพราะรู้สึกผิดหวังเสียใจกับการแข่งขันครั้งนี้อย่างมาก, ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดของตัวนักฟุตบอลและโค้ชที่คุมทีม ฯลฯ

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

บอลไทยกลับฮอดบ้านแล้ว บรรยากาศ อย่าง เงียบเหงา อีหลีเด้อ

ขอบคุณข้อมูล : สยามกีฬา