ความมีน้ำใจ คือ กำลังใจที่ทรงพลัง





อันตรายและความจริงในสังคมที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อนและ
เป็นอุทาหรณ์เตือนใจหาวิธีป้องกันภัยร้ายเหล่านั้นมิให้เกิดกับตนและครอบครัว
แต่อีกด้านหนึ่งทำให้มองเห็นน้ำใจคนที่ลดน้อยถอยลงจนเหือดแห้ง
ทั้งที่หลายเหตุการณ์ถ้าคนมีน้ำใจรวมพลังกันย่อมหยุดยั้งเหตุอันตราย
ได้แน่นอนและอย่างปลอดภัยด้วย แต่สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้น จึงมีผู้บาดเจ็บหรือตาย



ร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐซึ่งมีผู้ชายยืนเรียงแถวเพื่อรอซื้ออาหารกันแน่น ต่อมาหญิงผิวดำคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางอารมณ์เสียแล้วแหวกแถวไปข้างหน้าสุดเพื่อสั่งอาหารหรือที่เรียกว่า ลัดคิว เป็นที่ทราบกันดีว่าคนตะวันตกเน้นการเข้าแถวและเรียงไปตามลำดับ เมื่อมีคนแทรกคิวโดยมิใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือเหตุสุดวิสัย เขาหรือเธอจึงกลายเป็นเป้าสายตาตำหนิทันที ชายคนหนึ่งกำลังคุยมือถือกับแฟนสาวที่รอเขาอยู่นอกร้าน ตอนหนึ่งของการสนทนาทางมือถือก็บอกว่า เขาต้องออกไปช้าขึ้นอีกเพราะมีคนเดินลัดคิว หญิงผิวดำซึ่งไม่พอใจพนักงานในร้านที่บอกให้ไปยืนต่อคิวเมื่อได้ยินเสียงสนทนาของชายคนนั้นจึงเดินเข้าไปผลักอกและกระชากเสียงถามว่า แกพูดอะไร ? ชายคนนั้นนับว่ามีสติดี จึงหันไปอีกด้านหนึ่งแล้วคุยมือถือต่อไปโดยไม่สนใจหญิงคนนั้นที่ทั้งผลักอกและหลังแล้วยังตีหลังของเขาด้วย


ในร้านนั้นหญิงผิวดำตะโกนด่าและผลักตีชายผิวขาวที่พยายามเดินเลี่ยงไปทางอื่นโดยไม่หยุดคุยมือถือ เจ้าของร้านตะโกนบอกให้เธอออกไปนอกร้าน แต่เธอไม่สนใจและยังคงตอแยกับหนุ่มมือถือ สิ่งที่น่าสะเทือนใจจากภาพนั้นคือ ผู้ชายทุกคนในร้านที่ยืนเข้าแถวรอซื้อสินค้าล้วนตัวใหญ่ แข็งแรง ไม่มีสักคนที่จะเข้าไปช่วยห้ามปรามหญิงผิวดำ บางคนมองเป็นระยะแล้วยิ้ม บ้างไม่ยอมหันไปมองเขาทั้งที่เสียงเอะอะดังลั่นร้านที่ไม่ได้กว้างขวางนัก ครู่ต่อมา


เหตุการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อหญิงผิวดำโมโหชายที่คุยมือถือและไม่สนใจเธอ จึงตะโกนเรียกแฟนหนุ่มผิวดำที่รอนอกร้านให้เข้ามาข้างในแล้วบอกว่าชายมือถือพูดว่าเธอไม่เข้าแถวซื้อของ แฟนคนนั้นหันไปต่อยหนุ่มมือถือทันที มือถือตกพื้นแล้วยังเตะต่อยเขาอีกพักใหญ่ ลูกค้าผู้ชายในร้านไม่มีสักคนที่เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อหนุ่มคนนั้นเลย หญิงและชายผิวดำเห็นเหยื่อล้มคว่ำแล้วจึงเดินออกไปนอกร้านราวกับไม่เคยมีเรื่องเกิดขึ้น แต่เจ้าของร้านเรียกตำรวจมาแล้วจึงจับพวกเขาได้ที่ลานจอดรถทันที ภาพต่อมาในกล้องคือ ลูกค้าชายบางคนส่งแก้วน้ำให้เหยื่อซึ่งบอกปัดด้วยความโมโหเพราะคาดไม่ถึงว่าผู้ชายในร้านไม่ได้ช่วยเหลือเขาเลย บางคนยังยิ้มเยาะ บ้างยืนส่ายหน้าเท่านั้น หญิงและชายผิวดำถูกศาลตัดสินจำคุกประมาณ3-5ปี ส่วนเหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณครึ่งเดือน

เหตุไฉนลูกค้าชายที่ร่างกายใหญ่โตและแข็งแรงจึงไม่ยอมช่วยเหลือเขา เขาถามหาน้ำใจของคนที่สามารถหยุดยั้งความบ้าของชายหญิงคู่นั้นได้ง่ายมากเพียงแค่รวมตัวกันปกป้องเหยื่อและผลักดันชายหญิงผิวดำออกจากร้าน เหตุร้ายย่อมยุติได้ง่าย แล้วยังรู้ด้วยว่าเหยื่อมิใช่ผู้ก่อเรื่องและพยายามเลี่ยงเหตุร้ายเต็มที่แล้ว




อีกเรื่องหนึ่งในรถตำรวจหญิงซึ่งรอดตายหวุดหวิดด้วยพลังน้ำใจของชาวบ้านธรรมดาสองคน เรื่องมีอยู่ว่าตำรวจหญิงขับรถตรวจตราไปที่ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแล้วเรียกเจ้าของรถคันหนึ่งที่สงสัยว่าจะเป็นรถที่ขโมยมา เจ้าของรถยอมลงมาพูดคุยกับตำรวจ เมื่อถูกเรียกให้แสดงบัตรก็ขัดขืนจึงต่อสู้เพื่อแย่งปืนจากตำรวจหญิง เธอไม่ยอมและยื้อยุดปืนกับคนร้ายสักพักหนึ่ง ปืนไปอยู่ในมือของคนร้ายแล้ว แต่เธอยังไม่ยอมปล่อยมือของเขาเพื่อขัดขวางมิให้ลั่นไกปืนได้ ชั่วเวลานั้นชายแก่ที่เป็นนักเทศน์วิ่งเข้ามาบีบข้อมือของคนร้ายไว้แน่นและพยายามแย่งปืน ตำรวจหญิงช่วยแย่งอีกแรง ในที่สุดปืนหลุดตกพื้น ชายแก่รีบหยิบปืนขึ้นเล็งใส่คนร้าย ตำรวจหญิงยังพยายามล้มคนร้ายลงกับพื้น จึงเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว ระหว่างการปล้ำกันนั้นหญิงร่างอ้วน สูงใหญ่ เดินเข้ามาแล้วจับมือสองข้างและนั่งทับคนร้ายไว้ ทำให้ตำรวจหญิงปลอดภัยเต็มที่ก่อนที่ตำรวจอีกกลุ่มจะมาสมทบ


ต่อมามีการมอบโล่ยกย่องประชาชนคนกล้าที่ช่วยชีวิตตำรวจหญิงไว้อย่างกล้าหาญแก่หญิงชายทั้งสองคน เมื่อมีการสัมภาษณ์พวกเขาจึงทราบวิธีคิดต่อสภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าว่า เหตุผลใดจึงเข้าไปช่วยตำรวจหญิงทั้งที่เป็นคนแก่ไม่เคยจับปืน อีกคนเป็นแม่บ้านที่เพิ่งทะเลาะกับสามีก่อนมาซื้อของ คำตอบเดียวกันคือ เขาและเธอเห็นตำรวจหญิงอยู่ในเวลาเดือดร้อนหนักและกำลังเสียเปรียบ จึงคิดว่ายืนเฉยไม่ได้และอยากเข้าไปดูว่ามีสิ่งใดช่วยเธอได้ ชายแก่เห็นการแย่งปืน จึงคิดว่าต้องแย่งปืนให้ได้ มิฉะนั้น คนร้ายยิงตำรวจแน่ เขาจึงเข้าไปยึดข้อมือของคนร้ายแล้วสะบัดหรือบีบเค้นให้ทิ้งปืน เมื่อได้ปืนก็ถือไว้เล็งใส่คนร้ายพร้อมเตือนให้ปล่อยตำรวจหญิง ถ้าจำเป็นเขาก็จะยิงคนร้ายเพื่อช่วยชีวิตของตำรวจ ส่วนแม่บ้านร่างอ้วน สูงใหญ่ คิดเพียงว่า ตำรวจหญิงกำลังอยู่ในอันตรายและเชื่อว่าน่าจะช่วยเหลือได้เมื่อเห็นตำรวจหญิงปล้ำล้มคนร้ายอยู่ที่พื้น เธอจึงผลักคนร้ายล้มลงนอนหงายแล้วยึดแขนสองข้างกับนั่งทับร่างของเขาไว้เต็มน้ำหนัก พอดีตำรวจอีกกลุ่มเข้ามาสมทบและจับคนร้ายได้ พวกเขาร่วมแรงและรวมน้ำใจกันช่วยชีวิตของตำรวจหญิงไว้อย่างหวุดหวิดและทั้งสองมิได้นัดหมายกันมาหรือรู้จักกันมาก่อน มันเป็นเรื่องของการรวมน้ำใจคนเป็นพลังเพื่อช่วยชีวิตของผู้อื่นโดยมิได้คำนึงถึงอันตรายต่อตนและมิได้ทำเกินกำลังของตน พวกเขาช่วยเหลือตามศักยภาพของตนเท่านั้น





อีกเหตุการณ์หนึ่งธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งในสหรัฐ โจรปิดหน้าถือปืนขู่พนักงานสาวให้ส่งเงินให้เขาหรือที่เรียกว่า ปล้นธนาคาร ขณะที่พนักงานจัดเงินใส่กระเป๋าของโจร ลูกค้าชายคนหนึ่งยืนห่างจากโจรไม่มากนักสังเกตเห็นว่า ปืนในมือโจรน่าจะเป็นปืนปลอม จึงตัดสินใจวิ่งเข้ากระโจนคร่อมโจรแล้วต่อยหมัดใส่ใบหน้าและร่างโจรต่อเนื่อง เสียงกรีดร้องดังลั่นและไม่มีสักคนที่เข้าไปช่วยจับโจร แม้แต่หน่วยรักษาความปลอดภัยของธนาคาร โชคดีที่ตำรวจมาจับโจรทันเวลาและพบว่าเป็นปืนปลอม ทำให้ลูกค้าคนนั้นไม่ต้องพบอันตรายจากการตอบโต้ของโจร ถ้าไม่มีลูกค้าใจกล้าคนนี้ธนาคารต้องเสียเงินให้โจร แม้จะมีประกันภัยไว้ก็ตาม แต่ภาพในกล้องแสดงให้เห็นว่า การต่อสู้ในเวลา 10 กว่านาทีโดยไม่มีลูกค้าคนใดหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้าไปช่วยพลเมืองดีคนนี้เลย มันชี้ให้เห็นความแล้งน้ำใจและความเห็นแก่ตัวของคนชัดเจน ถ้าทุกคนร่วมใจกันเข้าไปจับโจรที่กำลังต่อสู้กับพลเมืองดีอยู่ เวลาอันตรายกว่า 10 นาทีนั้นย่อมไม่เกิดขึ้นและมันต้องจบลงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นเมื่อโจรอยู่ในความควบคุมของพลเมืองดีทุกคนและหน่วยรักษาความปลอดภัยของธนาคาร แต่ในภาพคือ เวลา 10 นาทีอันตรายเป็นของพลเมืองดีกับโจรเท่านั้น ลูกค้าและหน่วยรักษาความปลอดภัยยืนมองเฉยหรือเชียร์ว่าฝ่ายใดจะชนะ





อีกเรื่องหนึ่งตำรวจจราจรซึ่งสะเทือนใจคนอย่างมาก คือ ชายแก่กำลังเดินข้ามถนน แต่ถูกรถเก๋งคันหนึ่งเฉี่ยวชนล้มลงแล้วขับหนีไป ชายแก่นอนร้องครวญครางอยู่กลางถนนและขอความช่วยเหลือจากคนเดินที่แวะมาดูทีละคน แต่ไม่มีสักคนที่จะช่วยพยุงเขาออกจากถนน รถบางคันจอดแล้วเดินไปดูเขาที่ถนน แต่ไม่มีสักคนพาไปโรงพยาบาล เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงจึงมีผู้หญิงแจ้งทางมือถือไปยังศูนย์ช่วยเหลือ ไม่กี่นาทีจึงมีรถพยาบาลพาเขาไปรักษา ชายแก่มีเลือดออกในสมองและช่วยเหลือช้าเกินไปทำให้ต้องพิการนอนบนเตียงไปจนตายในไม่กี่เดือนต่อมา




ถ้าคนมีน้ำใจรวมตัว รวมพลัง และใช้ศักยภาพส่วนตัวหยุดยั้งอันตรายเบื้องหน้าหรือฉุกเฉิน ย่อมเปลี่ยนภาวะอันตรายสูงสุดให้ลดระดับลงไปสู่จุดปลอดภัยเร็วขึ้น แม้แต่การใช้มือถือแจ้งศูนย์ราชการเพื่อช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุร้ายก็ถือเป็นความช่วยเหลืออย่างมีน้ำใจตามศักยภาพของตนแล้ว ยิ่งแจ้งเร็ว ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตของผู้อื่นได้ เมื่อความเจริญทางวัตถุเพิ่มขึ้น มนุษย์ไม่ควรลดทอนจิตใจประเสริฐของตนลงเพราะความเห็นแก่ตน น้ำใจของมนุษย์สร้างความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานทำให้เรียกตนเองอย่างภาคภูมิใจได้ว่า มนุษย์ผู้ประเสริฐ การแสดงความมีน้ำใจอาจช่วยชีวิตของคนอื่นได้และเป็นการทำบุญแก่ตนเองอย่างง่ายๆ การลุกขึ้นสละที่นั่งให้คนแก่ หญิงมีครรภ์ เด็กเล็ก การไม่ใช้สิทธิสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น การช่วยนำคนที่ได้รับอุบัติเหตุส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดอาจช่วยชีวิตของเขาให้อยู่กับครอบครัวนานขึ้นได้ การช่วยเหลือผู้หญิงหรือเด็กที่ได้รับความรุนแรงในครอบครัวให้ปลอดภัยด้วยการแจ้งความหรือขัดขวางการทำทารุณกรรม ล้วนเป็นสิ่งที่คนมีน้ำใจแสดงออกต่อกันและช่วยเหลือสังคมได้อีกทางหนึ่ง