ดวงชะตาเมืองไทย 2553 : ตอนที่ 2 ปฐมบท





ดวงชะตาเมืองไทย 2553 : ตอนที่ 2 ปฐมบท ดวงชะตาเมืองไทยกับเจตนารมณ์เมื่อครั้งเเรกเริ่มก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์


โดย อาจารย์ณัฐ นรรัตน์


จากครั้งที่ผ่านมาเราวิเคราะห์ดวงเมืองในเเง่มุมของการวางดวงดาวพระอาทิตย์ 1 ซึ่งเป็นตัวเเทนของพระราชาซึ่งทราบให้เห็นถึงความมั่นคง ความยั่งยืนเเละความเป็นปึกเเผ่นที่ยากต่อการสั่นคลอนหรือเเยกจากจากประชาชน คราวนี้ผมจะวิเคราะห์ถึงดาวพระจันทร์อันเป็นตัวเเทนของชีวิตความเป็นอยู่ของคนในเเผ่นดิน ดาวพระอาทิตย์คือไฟ ดาวพระจันทร์ย่อมต้องเป็นน้ำ ดาวจันทร์ 2 สถิตย์อยู่ในราศีกรกฎซึ่งเป็นธาตุน้ำอยู่ในเรือนพันธุหมายถึงแผ่นดิน นั่นเเสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของเเผ่นดินจะเจริญรุ่งเรืองได้ หลักใหญ่อีกประการนั้น ย่อมต้องมีความสมบูรณ์ของน้ำในเเต่ละพื้นที่เป็นส่วนสำคัญ


เราเคยได้ชื่อว่าเป็นเมือง เวนิชเเห่งเอเชีย ความเจริญในอดีตเราเดินทาง ค้าขาย ทำกิจกรรมหลักกันก็อยู่บนท้องน้ำเป็นหลัก เรียกว่าดวงเมืองนั้นวางฮวงจุ้ยเเห่งความเจริญไว้ยังพื้นที่ที่มีน้ำอยู่ใกล้ๆบ้านเเละในที่ทำงานของตน มาวันนี้การสร้างบ้านเเปลงเมืองได้ใช้การถมดินสร้างถนนกลบคลองหลายสาย เเม่น้ำหลายเเห่งถูกรุกล้ำทำลาย ห้วยหนองคลองบึงอันเป็นฮวงจุ้ยสำคัญที่เป็นเสมือนเเหล่งพลังงานให้กับประเทศตามชะตาเมืองถูกเเปรเปลี่ยนให้เป็นตึกเเถว อาคาร บ้านเรือน ในเมื่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่ต่างๆในเเผ่นดินไม่สอดประสานกับดวงชะตาบ้านเมืองที่ได้วางไว้ย่อมทำให้เกิดการทำมาหากินในหลายพื้นที่ติดขัด ฝืดเคือง ฝนฟ้าวิปริตไม่ตกต้องตามฤดูกาลมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราอาจเห็นในหลายสถานที่ได้มีการเเก้ไขฮวงจุ้ยให้มีน้ำพุหน้าบ้านบ้าง สร้างน้ำตกสร้างน้ำล้นหน้าอาคารสำนักงานบ้างหรือมีอ่างบัว อ่างปลาหรือตู้ปลาในบ้านบ้าง นี่คือความเป็นจริงที่มีจุดประสงค์หลักในการสร้างเเหล่งพลังงานของดาวจันทร์ 2 ขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อให้มีกระเเสหลักของความสมบูรณ์ในสถานที่นั้นให้ดียิ่งขึ้น กระเเสเงินทอง โชคลาภเเละความสุขก็จะตามมานั่นเอง


ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่หลายๆรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้มองเห็นคุณค่าของการนำพื้นชะตาบ้านเมืองมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด กลับกันมัวเเต่ไปสร้างสิ่งปิดทับผืนน้ำ สายน้ำ ละเลยสิ่งมีค่าของประเทศลงไปเรื่อยๆ อีกมุมหนึ่งที่มีผู้ที่เห็นคุณค่าของสายน้ำว่ามีความสำคัญต่อคนในเเผ่นดินมากมายเพียงไรเเละได้พัฒนาเเหล่งพลังงานของเเผ่นดินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน บุคคลสำคัญผู้นั้นก็คือ พระเจ้าอยู่หัว ของเรานั่นเอง พระองค์ได้ทรงพระปรีชาญาณเล็งเห็นถึงคุณค่าของสายน้ำว่าเป็นหัวใจของแผ่นดินมาตั้งเเต่ต้น กินเวลานานเกินกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา


ต่อมาถึงดาวดวงต่อไปที่จะพูดถึงคือดาวพระพฤหัส 5เเละดาวพระเสาร์7 ดาวคู่นี้ในมุมโหราศาสตร์อีกชื่อหนึ่งเรียกว่าดาวคู่เกษตรกรรม เป็นคู่ดาวเเห่งความมั่นคง ในด้านการเกษตรที่บูรพกษัตราธิราชเจ้าชาวไทยของเราเล็งเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของเลือกสวนไร่นาว่าเป็นเส้นเลือดของเเผ่นดิน ดาวคู่นี้ถูกกำหนดให้วางอยู่ในราศีธนูภพ ศุภะของดวงเมือง ภพศุภะก็คือความสุข ความสำเร็จเป็นจุดของความสมหวัง นั่นเเสดงให้เห็นถึงเมืองไทยของเราถ้าจะเจริญรุ่งเรือง มีความยั่งยืนของคนในประเทศอย่างเเท้จริงได้นั้นต้องเน้นที่การพัฒนาภาคเกษตรกรรมเป็นหลักสำคัญที่สุด ที่ดิน ที่นาต้องได้รับการดูเเลเเก้ไขให้มากกว่านี้ กุญเเจไขความมั่นคงเเละรายได้ให้กับคนในประเทศต้องเริ่มที่การเกษตร ไม่ใช่ด้านเทคโนโลยีหรือดาวเทียม


ให้สังเกตุดีๆที่ผ่านมาเราเคยพยายามทำประเทศให้เป็นนิค เป็นเสือเเห่งเอเชีย เคยจะทำประเทศให้เป็นเมืองเเห่งเเฟชั่นของโลกให้เป็นศูนย์กลางเเห่งอุปกรณ์ไฮเทค เทคโนโลยีทั้งๆที่เรายังก็อปปี้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสาร กันอย่างโจ๋งครึ่มติดอันดับประเทศที่มีของก็อปปี้มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลกอยู่เลย คือเราคิดอะไรใหม่ๆยังไม่เป็นครับ กฎหมายก็ไม่เอื้อให้คิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเพราะกลัวถูกเลียนเเบบ ดังนั้นถ้าเราอยากจะสร้างให้ประเทศนี้ล้ำกว่าประเทศอื่นๆในด้านของไฮเทคคงต้องเเก้ที่จุดนี้ให้ได้เสียก่อนเพราะเรายังไม่มีรากครับเเต่กลับกัน ด้านการเกษตรดูอย่างข้าว ในดวงเมืองได้วางรากฐานเอาไว้ตั้งเเต่ต้นเเล้วว่าจุดเด่นที่สุด อาวุธที่เราจะใช้ในการต่อกรกับประเทศมหาอำนาจต่างๆนั้นก็คือระบบการเกษตร เราเป็นที่หนึ่งในการผลิตข้าวมาเเต่ไหนเเต่ไร พ่อเเม่ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษในอดีตของเราเคยผ่านการเกษตรมาเเล้วเเทบทุกบ้าน ดังนั้นถ้าจะพัฒนาให้ยั่งยืนเเละสร้างความเจริญให้กับคนในประเทศได้ดีที่สุดนั้นต้องเริ่มลดน้ำกันที่รากเสียก่อน เเล้ววงจรการขับเคลื่อนเงินทุนอื่นๆในทุกภาคเศรษฐกิจจะตามมาเอง ดวงชะตาเมืองในภาคเกษตรกรรมที่มีความเข้มเเข็งขนาดนี้บวกกับสภาพภูมิอากาศความเป็นอยู่ของพื้นที่ประเทศไทยเรานี้ รวมกับภูมิปัญญาความรอบรู้ในศาสตร์เเห่งการรู้จักกับพืชสวนไร่นาเเต่ละชนิดของคนไทยเข้าไปอีก เราสามารถที่จะเป็น “ครัวโลก” ได้อย่างเเน่นอนชัวร์..ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ


ซึ่งมาย้อนดูมันก็เเปลกอีกที่เราปลูกข้าวส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของร้อยกว่าประเทศที่มีในโลก เราได้เหรียญทองในการเเข่งขันเวทีนี้เเต่ชาวนาผู้ผลิตข้าวกลับจนเป็นหนี้เป็นสินเป็นอันดับต้นๆของโลกเช่นกัน ก็ไม่รู้รายได้รางวัลเหรียญทองผลิตข้าวไทยเรามันไปตกอยู่ที่กระเป๋าใครบ้างอันนี้น่าติดตาม อีกครั้งที่เรามองเห็นวาสนาของประเทศในดวงเมืองถึงเเหล่งเงินทองที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยได้พัฒนาไปอย่างยั่งยืนเเละมั่นคงโดยที่รัฐบาลหลายยุคมองไม่เห็นเเต่ก็มีบุคคลหนึ่งได้เล็งเห็นมาตั้งเเต่ต้นอีกครั้ง นั่นก็คือ พระเจ้าอยู่หัว ของพวกเราอีกเเล้วครับ ร้อยพันโครงการที่พระองค์ได้วางนโยบายทั้งเคี่ยวเข็ญ ค้นคิด ขับเคลื่อน ควบคุมเเละคอยดูเเลมาตั้งเเต่อดีตส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนาการเกษตรในทุกๆมิติ พัฒนาเเหล่งน้ำในทุกด้าน เป็นส่วนใหญ่ ในมุมของโหราศาสตร์ดวงชะตาบ้านเมืองเป็นการมองเห็นสิ่งสำคัญหลักของประเทศที่จะทำให้คนไทยอยู่ดีกินดีมีความสุขอย่างยั่งยืนเเบบทะลุปรุโปร่งมากที่สุด


ความสำคัญของดาวพฤหัส5ที่อยู่ในราศีธนูในดวงเมืองนั้นได้ตำเเหน่งเป็นเกษตราธิบดีเเปลว่ามีความมั่นคงเเข็งเเกร่ง ดาวดวงนี้มีความหมายตามหลักโหราศาสตร์ไทยว่าเป็นดาวเเห่งเทพ ดาวคุณธรรม เป็นตัวเเทนของสติปัญญาความรู้ความสามารถเเละการช่วยเหลือรักษา ดังนั้นด้วยความที่ได้ตำเเหน่งเด่นในชะตาเมือง อาชีพเเละการพัฒนาสายงานด้านดาวพฤหัสย่อมเป็นสิ่งที่ทำเเล้วจะมีชื่อเสียงมีความมั่งคั่งมั่นคงไปได้ไม่มีวันสุด อาชีพที่ว่านั้นคือ งานด้านการรักษาดูเเลร่างกายเเละจิตใจให้กับคนในประเทศรวมไปถึงในโลกครับ ดังจะเห็นได้ถึงการรักษาโรคภัยไข้เจ็บในด้านต่างๆ เเพทย์ไทยไม่เป็นรองใคร มีการคิดค้นการรักษาโรคทำให้ชาวต่างชาติยอมรับมามากต่อมาก โดยเฉพาะการเเพทย์เเผนไทย การนวดรักษาโรค คนไทยเป็นหนึ่งในชาติไม่กี่ประเทศในโลกที่ทุกคนยอมรับเเละยกย่องถึงการนำภูมิปัญญาความรู้มาใช้อย่างได้ผลเเละรู้ลึกรู้จริงในการรักษาด้วยวิธีนี้


ยังไม่รวมถึงโรงพยาบาลอีกหลายเเห่งที่มีชื่อเสียงในการรักษาโรค ทำศัลยกรรม รวมถึงมีวิธีดูเเลรักษาร่างกายด้วยวิธีต่างๆจนติดอันดับโลกอีกมากมาย สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ปรากฎให้เห็นในดวงเมืองมาตั้งเเต่อดีตกาล บรรพบุรุษของเราทราบเรื่องนี้มาตั้งกว่าสองร้อยปีเเล้ว ประเทศไทยเเละคนไทยเรามีศักยภาพที่จะพัฒนาประเทศในด้านการเเพทย์การรักษาได้ไม่เป็นสองรองใครอย่างเเน่นอน ซึ่งถ้าทำดีๆวางรากฐานอย่างเป็นระบบ จริงใจจริงจังในการพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไปสามารถจะเป็น “โรงพยาบาลโลก” ได้อย่างไม่ยากเย็นครับ ส่วนนี้เราก็ต้องมาลุ้นว่ารัฐบาลจะมองเห็นเพชรในมือที่ถืออยู่เม็ดนี้ไหม


ดาวดวงต่อมาที่เราจะมาดูกันในดวงเมืองคือดาวพระอังคาร 3หรือดาวอังคาร3 ความหมายตามตำราโหราศาสตร์ไทยของดาวดวงนี้คือความขยัน พละกำลัง การต่อสู้ความทรหดอดทนดังปรัชญาที่ว่า “กล้าเเข็งขยันให้ทายดาวอังคาร” ในมุมดวงชะตาเมืองเป็นดาวที่เป็นตัวเเทนของการใช้กำลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ทหาร” ดวงเมืองมีดาวดวงนี้นำหน้าลัคนา เรียกว่าเป็นดาวศูนยพาหะ คือการนำหน้าเป็นการเเสดงออกเมื่อใดที่มีเหตุเพศภัย มีเรื่องทุกข์ร้อนจวนตัวของประเทศ ดาวดวงนี้จะออกฤทธิ์ในมุมที่เป็นศูนยพาหะในทันทีเเทบทุกครั้ง ดังที่เราจะเห็นในอดีตหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อยามประเทศเกิดปัญหาที่ต้องตัดสินใจหรือทางเเยก ดาวทหาร จะต้องออกมาเเสดงเหตุเพื่อยุติปัญหาต่างๆในขณะนั้นเเทบทุกครั้งไป เเต่ด้วยความที่ดาวอังคารอยู่ในราศีพฤษภของดวงเมืองมีตำเเหน่งเป็นประ เเละราชาโชคพร้อมๆกัน คำว่าประคือหมดกำลัง ไม่สมบูรณ์ ปุๆ ปะๆ การขาดตอนจึงทำให้การบริหารงานหลังจากที่ได้อำนาจไปเเล้วหลายต่อหลายครั้ง ไม่ประสบความสำเร็จจนบางครั้งสร้างความเสียหายเกิดความเดือดร้อนอื่นๆตามมาในกรณีที่คิดจะบริหารบ้านเมืองด้วยตนเอง กลับกันในเมื่อดาวอังคาร3ได้ตำเเหน่งราชาโชคอีกตำเเหน่งการควบตำเเหน่งหน้าที่นี้ดูจะมั่นคงกว่า คือคำว่าราชาโชคคือโชคจากพระราชา เป็นการทำหน้าที่เพื่อพระราชา ดาวดวงใดได้ตำเเหน่งราชาโชคดาวดวงนั้นเสมือนได้วาสนา มีวาสนามีกำลังขึ้นมาเรียกว่าไม่ต้องซื้อต้องหาก็มาเอง


ดังนั้นจึงเป็นเครื่องประจักษ์ให้เห็นว่า ดาวทหารคราใดที่ต้องการลงมือทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองด้วยตนเองย่อมจะหมดพลัง หมดอำนาจ เสื่อมศักดิ์ ซึ่งเราก็เคยเห็นทหารหลายท่านที่ลงมาเล่นการเมือง เกียรติที่สั่งสมมาได้ถูกลดทอนลงเป็นอย่างมากหรือเเม้กระทั่งการปฏิวัติ รัฐประหารในอดีตเเรกเริ่มก็ดูดีเเต่พอต้องการอำนาจในการบริหารด้วยมือตนเองเมื่อไหร่จบไม่สวยเสียเป็นส่วนใหญ่ เเต่กลับกันเมื่อใดที่ดาวทหาร ขอทำหน้าที่ในตำเเหน่งที่เป็นราชาโชค คือเป็นทหารของพระราชา เป็นทหารที่ปกป้องพระราชา เป็นทหารที่พร้อมจะอยู่ข้างพระราชา เมื่อนั้นความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคงในชีวิตเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ได้สั่งสมมาก็จะยิ่งทวีคูณสูงส่งขึ้นไปอีกชั่วลูกชั่วหลานดังที่เราเห็นชาติตระกูลหลายตระกูลในอดีตที่เคยปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องพระราชา ย่อมเห็นความเจริญก้าวหน้า มีหน้าที่การงานที่ดี มีคนนับหน้าถือตาในบ้านเมือง กินใช้ไม่หมดมาชั่วหลานชั่วเหลนถึงในปัจจุบัน ตรงข้ามหลายตระกูลในอดีตหรือในปัจจุบันที่ได้เคยทำร้ายจ้องจะเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคคลบาท กลุ่มคนต่างๆเหล่านั้นก็มักจะมีจุดจบหรือพบกับความวิบัติต่างๆนานาเเทบทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งย่อมมีอิทธิพลมาจากการวางชะเมืองต่อผู้คิดคดกับพระมหากษัตริย์เเละอีกส่วนที่สำคัญของความวิบัตินั้นก็คือ การอกตัญญูต่อเเผ่นดินเกิด บ้านเกิดเมืองนอนของตน นั่นเอง ประเทศไทยของเราบรรพบุรุษของเราตั้งเเต่อดีตจวบมาจนปัจจุบันได้เอาเนื้อเเลกกับคมดาบ เอาเลือดอาบทั่วเเผ่นดิน เอาชีวิตพลีเเลกชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยจิตประสงค์เพื่อคงความเป็นเอกราชเเละเพื่อเป็นตัวอย่างของผู้ที่รู้สำนึกคุณเเผ่นดินเกิด เป็นตัวอย่างของการเเสดงความกตัญญูต่อเทพเทวาเดินดินซึ่งก็คือก็คือ บูรพกษัตราธิราชเจ้าทุกๆพระองค์ ของเรานั่นเอง.


จาก เอเอสทีวี ผู้จัดการ