เจาะใจ “นาธาน” ถึงชีวิตท่ามกลางมรสุม เจ้าตัวย้ำตนเองบริสุทธิ์ บอก ใครทำอะไรย่อมได้อย่างนั้น รับ สุดเศร้ากับสิ่งที่เจอ ถึงกับพ้อ ถ้าเป็นคนธรรมดาคงฆ่าตัวตายแล้ว พร้อมเผยถูก “ชิ” ล้างสมองให้เกลียดนักข่าว “ASTVผู้จัดการออนไลน์” บอกเป็นเหมือนปีศาจ เจ้าตัวเปิดฉากเล่าวินาทีเจอ “กระสือ” ตอนที่หนีไปกบดาน ที่บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา สุดเซอร์ไพร์ส แม่บุญธรรมยกมรดกให้ หวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เชียงคาน

นาธาน เผยนาทีเจอกระสือ เตรียมตั้งรกรากที่เชียงคาน

หลังจากที่ “นาธาน โอร์มาน” ถูกอดีตแม่บ้าน “สมาน สุขเสริม” แจ้งความว่าโดนฉ้อโกงเงินเป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท จนกระทั่งตำรวจออกหมายจับ ผนวกกับก่อนหน้านี้ "นางฉลอง จันทร์นาค" ยายของ "น้องอ้อม เสาวนีย์ ฤทธิโชติ" หรือ “น้องอ้อม ดักแด้” ก็ออกมาแฉว่า น้องอ้อมและตนก็โดนนาธานโกงเงินไปกว่า 1 แสนบาท ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม สื่อทุกสำนักจับจ้องเพื่อพิสูจน์ความจริง จนเป็นเหตุให้อดีตนักร้องหนุ่มต้องหนีเข้ากลีบเมฆ ไปอยู่ที่บ้านของ “โต๊ะละห์” บ้านเลขที่ 103/4 ม. 5 ซ.วากัฟ คลอง 19 ต.โยธการ อ.บางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา นานหลายเดือน จนในที่สุดมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ หลังหลบไปอยู่ที่บ้านญาติของแม่บุญธรรม “ครูแหม่ม นางพิศมัย ศรีกระบุตร” ที่อำเภอเชียงคาน จังหลัดเลย

ล่าสุดแม้ว่าเจ้าตัวจะสามารถประกันตัวออกไปได้ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ทีมข่าว “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้มีโอกาสพูดคุยและสัมภาษณ์ “นาธาน โอร์มาน” อย่างเปิดใจ เพราะนับตั้งแต่นาธานเคยออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง “ASTVผู้จัดการออนไลน์” เป็นที่แรก กรณีโกอินเตอร์ไปเล่นหนังฮอลลีวูด THE PRINCE OF RED SHOE ของบริษัท BIGBLUE ในเครือค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟอกซ์ โดยมี วูลฟ์ กัง และ มูฮำหมัดซูอัต ผู้กำกับชื่อดังรับหน้าที่กำกับการแสดง ประกบกับดาราดัง อย่าง บรูซ วิลลิส และ คริสติน่า ริชชี่ ฟันค่าตัวเป็น 100 ล้านจนกลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วประเทศ เมื่อหลายเดือนก่อน

กระทั่งมีการขุดคุ้ยเรื่องดังกล่าว รวมไปถึงการเปิดโปงเรื่องหนี้สิน แม้กระทั่งเรื่องที่เขาไม่ใช่ลูกครึ่งเนปาล ทางทีมข่าวก็พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์เจ้าตัวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่คนถูกล่า(ข่าว) กับคนตามล่า(ข่าว)ได้มานั่งเปิดใจกันอย่างหมดเปลือก

ซึ่งนาธานได้เผยกับเราทั้งน้ำตาว่า เรื่องที่ตนเจอเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่มาก ยิ่งตอนนี้โดนสังคมประณามไปแล้วว่าเป็นจอมลวงโลก ทำให้รู้สึกปลงและคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะออกมาชี้แจง เพราะทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตีแผ่ออกไปแล้ว จึงได้แต่อดทนรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะเชื่อว่าจะช้าจะเร็วยังไงความจริงก็ต้องเปิดเผยออกมา ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาคนรอบข้างต่างวางแผนการให้ว่าให้ทำแบบโน้นแบบนี้ จนไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้กระทั่งเรื่องให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว “ASTVผู้จัดการออนไลน์” “ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” อดีตผู้จัดการส่วนตัวยังล้างสมองว่าเป็นเหมือนปีศาจ เป็นสื่อตัวแสบให้ระวังให้ดีอย่าไปให้สัมภาษณ์เด็ดขาด จนตนขยาดกลัว ถึงกับบอกว่าขนาด “ไทยรัฐ” ยังไม่กลัว แต่กลัว “ASTVผู้จัดการออนไลน์”

นอกจากจะระบายความในใจออกมาอย่างพรั่งพรูแล้ว เจ้าตัวยังได้เล่าถึงเรื่องสุดพิลึกพิลั่น เมื่อตอนที่หนีหัวซุกหัวซุนไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของ “โต๊ะละห์” ซ.วากัฟ อ.บางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ได้ไปเจอ “กระสือ” ตัวเป็นๆ โดยนาธานได้เล่าให้ฟังเป็นฉากๆ ว่าตอนแรกได้ยินข่าวจากชาวบ้านละแวกนั้นยังไม่เชื่อ กระทั่งวันหนึ่งเจอเข้ากับตัวเอง ตอนขับรถกลับเข้าบ้านของ “โต๊ะละห์” ในตอนกลางคืน มองกระจกหลังเห็นแสงไฟแว๊บๆ ลอยตามรถมา แต่ด้วยความที่รู้สึกหลอนทีมข่าว “ASTVผู้จัดการออนไลน์” อยู่แล้วทำให้เจ้าตัวคิดเตลิดว่าเป็นการตามล่าของทีมงานหรือเปล่า ซึ่งหลังจากที่เล่าจบก็ทำเอานาธานถึงกับบ่นติดตลกว่า “หนีนักข่าวหนีตำรวจแทบตาย แต่มาเจอกระสือ” …จะเป็นเรื่องแหลอีกดอกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าจริง เรื่องนี้คงเป็นเรื่องฮาแห่งปี!!!

ซึ่งนอกจากการพูดคุยกันแล้ว “นาธาน” ยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมภาษณ์แบบ EXCLUSIVE ถึงเรื่องราวชีวิต ความคิด และความเป็นอยู่ในปัจจุบันและอนาคต แบบคำต่อคำ…

“ก็รู้สึกแย่มากครับ มันเศร้ามาก เอาเป็นว่ามันเกินที่ธานจะแก้ ที่จะมานั่งปลอบใจแล้ว ธานก็โอเค ก็ยังมีกำลังใจดีๆ มีแม่มีหลายๆ คนที่อยู่ข้างเราในช่วงที่ไม่มีใคร บางอย่างมันอาจเกิดจากความเข้าใจผิด เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ หลายๆ อย่างเกิดจากความเคียดแค้นทั้งหลายแหล่ ก็ไม่เป็นไรธานทำใจได้เยอะครับ”

“ที่ผ่านมาได้เพราะธานใช้ศาสนามาเยียวยา เอาศาสนามาละหมาด ขอที่มันแย่ๆ ก็ให้ผ่านไป แต่อันไหนที่แก้ไขได้ก็แก้ไขไป แต่ว่าอันไหนที่มันไม่จริงก็ออกมาต่อสู้กันครับ”

ย้ำแม้สังคมจะพิพากษาว่าเป็นจอมโจรไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยืนกรานจะใช้เวลาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง พร้อมโวถ้าเป็นคนธรรมดาคงฆ่าตัวตายไปแล้ว ก่อนท้าใครทำอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น

“ก็ธานจะพยายามพิสูจน์อยู่ พิสูจน์โดยการออกมาพูด แต่มัน… ก็ออกมาพูดตั้ง 5 ครั้งแล้ว บางทีความเชื่อของคนที่ดูข่าวเค้าก็แบบ… ก็ธานก็ไม่รู้ ไม่อยากตัดสินว่าใครอยู่ฝ่ายเราหรือฝ่ายไหน แต่ไม่เป็นไรหรอก ธานปล่อยให้มันผ่านไปดีกว่าแล้วก็ไม่อยากแก้ไขอะไรทั้งสิ้นแล้ว เพราะว่าธานย้อนอดีตกลับไปไม่ได้ วันนี้ก็คือก้าวหน้าต่อไป”

“ธานก็เป็นนาธานคนเดิม เป็นคนปกติทุกอย่าง อันไหนที่ธานผิดธานก็ยอมรับผิด อันไหนธานไม่ผิดธานก็จะสู้ให้จนถึงที่สุด แต่ว่าก็ขอร้องแหละ คืออย่ามาประณามธานให้มากขนาดนั้นว่าเป็นจอมลวงโลก หรือว่าเป็นเป็นจอมโจรในประเทศไทย ตอนนี้ก็เป็นกองโจรสำหรับทุกคนแล้วแหละ แต่ก็ไม่เป็นไรก็ยังอยู่ได้อยู่”

“ก็คือธานมั่นใจว่าธานยังบริสุทธิ์ใจอยู่ ทุกอย่างมันอาจจะผิดพลาดที่การกระทำ ผิดพลาดที่ความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน การสื่อสารกันคนละแบบหรือว่าเข้าใจคนละอย่างกัน ฉะนั้นทุกคนไม่มีใครเพอร์เฟ็คร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเกิดมาแล้วเพอร์เฟ็คร้อยเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าไม่เป็นไรในเมื่อมาเป็นแบบนี้แล้วเราก็ต้องปล่อยตามธรรมชาติแล้วกัน เอาคนที่เรารักรอบตัวเราดีกว่า ที่เขาเข้าใจเรา ส่วนคนอื่นก็ไม่เป็นไร เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆ และธานก็ดีใจนะที่ทุกคนยังให้ความสนใจอยู่ แต่ว่าจะให้ความสนใจแบบแย่ๆ แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะว่าก็เชื่อว่าบางอย่างมันก็แก้ไขได้ทุกอย่าง ก็เวลาเท่านั้นแหละที่จะพิสูจน์ได้และธานก็ยังมีศาสนาอยู่ และธานก็ยังมีครอบครัวและทุกๆ คน”

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์