กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: โครงการชั่งหัวมัน

  1. #1
    ศิลปิน นักแต่งเพลง สัญลักษณ์ของ thedon
    วันที่สมัคร
    Aug 2007
    กระทู้
    1,421
    บล็อก
    1

    บ้านมหาโพสต์ โครงการชั่งหัวมัน

    ใครที่ผ่านไปทาง ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อาจจะแปลกใจที่เห็นตาชั่งและมีหัวมันอยู่บนตาชั่งหน้าโครงการส่วนพระองค์ในชื่อ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ

    โครงการชั่งหัวมัน

    โครงการส่วนพระองค์นี้มีเนื้อที่ครอบคลุม 250 ไร่ เป็นเงินจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ซื้อจากชาวบ้าน มีชาวบ้านที่มาเข้าเฝ้า ติดเอาหัวมันมาด้วย และลืมทิ้งไว้ ต่อมาหัวมันก็งอกเป็นต้นขึ้นมา จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการชั่งหัวมัน ภายในโครงการจะมีพืชเศรฐกิจที่ปลูกหลายชนิด อาทิ สับปะรด มะนาว มะพร้าว รวมทั้งมันเทศ

    โครงการชั่งหัวมัน

    ชื่อโครงการชั่งหัวมันถือได้ว่าเป็นชื่อโครงการที่แปลก ชวนให้คิดตีความว่าชื่อนี้มีความหมายอะไร ถ้าตีความหมายตามสำนวนไทย ชั่งหัวมัน (ช่างหัวมัน) ก็หมายถึง “ไม่ต้องไปสนใจ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ใครจะทำอะไรก็ทำไป เราไม่ต้องไปใส่ใจ” พระองค์ท่านเป็นนักปราชญ์มีสายพระเนตรยาวไกลและความคิดที่ลึกซึ้ง ชั่งหัวมันจึงเป็นชื่อที่สื่ออะไรที่มีความหมายลึกซึ้งมากยิ่งกว่าแค่เอาหัวมันมาชั่ง

    โครงการชั่งหัวมัน

    อาจารย์ยักษ์ขอตีความตามแบบฉบับอาจารย์ยักษ์ว่า ท่านกำลังบอกให้เรากลับมา “หา” สิ่งที่สำคัญ จำเป็นพื้นฐานของชีวิต ใครอยากจะเจริญทันสมัย มีไฮไฟ มีอินเทอร์เน็ต มียานอวกาศไปถึงพระจันทร์ ดาวอังคาร มุ่งหาแต่ความเจริญทางวัตถุ หาทรัพย์สินเงินทองก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องไปสนใจ เรากลับมาหาสิ่งที่สำคัญ จำเป็นพื้นฐานของชีวิตให้ชีวิตเรามีพออยู่พอกินมีอาหาร ไม่ต้องเป็นเสืออย่างคนอื่น แต่มีความสุขก็พอแล้ว

    เช่นเดียวกับ "หัวมัน" เป็นพืชใต้ดินที่ไม่มีใครเห็น ดูๆ ไปแล้ว ก็มิได้มีค่าอะไร เป็นพืชที่ขึ้นง่าย ขึ้นในทุกสภาพภูมิอากาศ แม้ในที่ที่แล้งที่สุด หัวมันก็ยังขึ้นได้ หัวมันจึงเป็นสัญลักขณ์ของสิ่ง “มีค่า” ในยามวิกฤติที่สุด ไม่มีข้าว ไม่มีปลา ก็ยังมีหัวมันที่เราสามารถใช้ประทังชีวิตได้

    ถ้าใครคิดว่า “หัวมัน” นั้นไร้ค่า เป็นอาหารชั้นสอง ก็ลองมาฟังเรื่องจริงก็มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นเจ้าของเกียวโตแบงก์ ที่ร่ำรวยขึ้นมาจากหัวมัน ในคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม การสู้รบยาวนานในสงครามทำให้ผู้คนในประเทศญี่ปุ่นอดอยากอยากแค้น เศรษฐีญี่ปุ่นเจ้าของธนาคารเกียวโตผู้นี้ในยุคนั้นก็เป็นชาวไร่ชาวนาที่ปลูกมัน แต่ความอดอยากทำให้เจ้าของที่ดินหลายรายในยุคนั้นเอาที่ดินมาแลกกับหัวมันเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด

    หลังสงครามที่ทุกอย่างสงบ จากชาวไร่ชาวนาธรรมดาที่ปลูกหัวมัน เจ้าของธนาคารเกียวโตผู้นี้ก็เปลี่ยนสถานภาพกลายเป็นเจ้าของที่ดินมูลค่ามหาศาลและจากเจ้าของที่ดินก็กลายมาเป็นนายธนาคารที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

    ใครจะรู้ว่า หัวมัน ที่ไร้ค่าก็สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตคนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้!!
    แต่ หัวมัน ที่อาจารย์ยักษ์ให้ลูกศิษย์ลูกหาช่วยกันระดมปลูกในขณะนี้มิได้ปลูกเพื่อหวังร่ำหวังรวยเหมือนนายธนาคารญี่ปุ่นผู้นี้ แต่หัวมันนี้จะเป็นหัวมันบุญ ที่เอื้อให้ผู้คนอยู่รอดในยามวิกฤติ แร้นแค้น

    หากใครผ่านสงครามมา ผ่านภัยพิบัติธรรมชาติมาก็จะรู้ดีว่า ในภาวะแบบนั้นที่ผู้คนไม่สามารถทำมาหากินได้ปกติ ข้าวปลาอาหาร พืชผักผลไม้ต่างๆ จะกลายเป็นของหายาก หรืออาจจะหาไม่ได้เลย หัวมันที่เคยไร้ค่าอยู่ใต้ดินจะเป็นสิ่ง มีค่า สำหรับการมีชีวิตอยู่รอดทันที

    เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเรามาช่วยกันปลูก หัวมัน ตามโครงการชั่งหัวมันของพระองค์ท่านกันเถอะ

    ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่ง หัวมันของเราอาจจะช่วยชีวิตผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนก็ได้
    ถึงเวลานั้นหัวมันที่เราปลูกก็จะเป็น หัวมัน ที่ให้ผลบุญติดตัวผู้ปลูกไปชั่วชีวิตเลยทีเดียว!

    "อาจารย์ยักษ์ ณ มหา’ลัยคอกหมู"

    ที่มา : คมชัดลึก

  2. #2
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    ก็ดีนะครับ เป็นแนวคิดที่ดีมาก ๆ ฉะนั้น เมื่อเราทำดีที่สุดแล้ว ใครจะว่าอย่างไรก็ "ช่างหัวมัน" เถิด

  3. #3
    Banned

    วันที่สมัคร
    Jul 2008
    ที่อยู่
    Oil Field เพชรบูรณ์/กำแพงแสน
    กระทู้
    469
    สุดยอดครับ ขอบอก เป็นแนวคิดที่เหนือ แนวคิด จริงๆ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •