ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=HjNLGu9cY-E

ฟ้อนลำตังหวาย เป็นการฟ้อนที่มีที่มา 2 ลักษณะ คือ
1. ฟ้อนตังหวาย เป็นการฟ้อนเพื่อบวงสรวงบูชา โดยเฉพาะชนชาติที่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดาที่อาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาติ มีอำนาจหรืออิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลให้เกิดมีสิ่งหรือเหตุการณ์ต่างๆได้ จึงได้มีการการบวงสรวงบูชาหรือจัดให้มีการขอขมาขึ้น เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ตามที่ตนนับถือ นอกจากนั้นยังมีการตั้งถวายหรือฟ้อนรำเป็นการเซ่นสังเวย เรียกว่า “ตั้งถวาย ฟ้อนถวาย” แต่ต่อมาก็มีการลดคำลงจนเหลือเพียงแค่ว่า “ตั้งหวาย” หรือ “ตังหวาย”

2. ฟ้อนลำตังหวาย เป็นทำนองลำของหมอลำในแคว้นสะหวันนะเขต(สวรรค์เขต)สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เรียกว่า “ขับลำตั่งหวาย” หากพิจารณาเป็นคำแล้ว คำว่า “ตั่ง” หมายถึงเก้าอี้นั่งขนาดเล็กที่ทำจากหวาย สันนิษฐานว่าการขับลำตั่งหวาย เป็นทำนองหมอลำในหมู่บ้านที่มีอาชีพผลิตตั่งหวาย และเมื่อทำนองขับลำชนิดนี้ได้เผยแพร่เข้ามาสู่ภาคอีสาน จึงเพี้ยนเสียงเป็น “ลำตังหวาย” ซึ่งมีจังหวะทำนองที่ไพเราะและสนุกสนาน โดยเฉพาะเนื้อหากลอนลำมักจะมีเนื้อหาการยกย่องชายหญิง และมีการร้องโต้ตอบกัน

ฟ้อนลำตังหวาย เป็นชุดการแสดงเมื่อ นายประดิษฐ์ แก้วชิน ได้ไปพบการแสดงนี้ในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เห็นว่าการแสดงหมอลำตังหวายมีทำนองสนุกสนาน จึงได้ทดลองให้เด็กนักเรียนมาฝึกหัด แล้วนำออกไปแสดงในงานปีใหม่ ที่ทุ่งศรีเมืองกลางเมืองอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2514

ต่อมา อ. ศิริเพ็ญ หัวหน้าภาควิชานาฏศิลป์วิทยาลัยครูอุบลราชธานี (มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี) เห็นควรจะส่งเสริมให้เป็นชุดการแสดงประจำจังหวัด จึงได้นำเอาต้นแบบไปเพิ่มเติมให้สวยงามมากยิ่งขึ้น


เนื้อร้อง "ลำตังหวาย" ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

(เกริ่นนำ) โอ..... บุญเอ๋ย บุญอีนางที่เคยสร้าง ซางบ่เป็นหนทาง โอ๊ยหนทาง พอให้น้องได้เที่ยว ละซางมีบาปมาแล่นเข็น ละซางมีเวรมาแล่นต้อง ทำให้น้องห่างพี่ชาย ห่างพี่ชาย โอ๊ยละนา ....

(กล่าวคำกลอน)
ตังหวายนี้มีมาแต่โบราณ ชาวอีสานบำรุงไว้อย่าให้หาย
ของเขาดีมีไว้อย่าทำลาย ขอพี่น้องทั้งหลายจงได้ชม
เขมราฐอำเภอถิ่นบ้านเกิด ช่วยกันเถิดรักษาไว้อย่าได้สูญ
ท่าฟ้อนรำต่างๆช่วยเพิ่มพูน อย่าให้สูญเสียศิลปะเรา
…………………

(ขึ้นทำนองลำ)

(หญิง) บัดนี้ข้าขอยอนอแม่นมือน้อม ชุลีกรเด้อแม่นก้มกราบ ชูสลอนนอนบนอบนิ้ว ถวายไท้ดอกผู้อยู่เทิง อ้ายพี่คนงามนี่นา หนาคิงกลม (เยือกๆๆๆ)

(หญิง) ชายเอย จุดประสงค์นอแม่นหมายแม้น เพื่อเผยศิลป์นอพื้นบ้านเก่า ของไทยเฮานอตั้งแต่ก่อน โบราณผู้ให้เฟื่องให้ฟู อ้ายพี่ของน้องนี่นา คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(ชาย) คำนาง ปูเป็นทางนอเพื่อเลือกแต้ม ทางอีสานนอบ่ให้หลุดหล่น มรภ.อุบลฯ เฮาแม่นพวกพ้อง นำมาฮ้อง ออกโฆษณา หล่าพี่คนงามนี่เอย หนองหมาว้อ (เยือกๆๆๆ)

(หญิง) ชายเอย หาเอาตังกะละแม่นหวายเซิ้ง ลำแต่เทิงน้อบ้านเจียดก่อ สืบแต่กอเด้อซุมผู้เฒ่า ใบลานพู้นดอกพื้นกะหาย ดอกพื้นกะหาย ดอกพื้นกะหาย อ้ายพี่ของน้องนี่นา คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(ชาย) คำนาง คนจบๆเด้อแม่นจั่งน้อง งามๆเด้อแม่นจั่งน้อง ซางบ่ไปน้อแม่นกินข้าว หัวมองหนอแม่นนำไก่ คนขี้ฮ้ายคือว่าจั่งอ้าย กินข้าวแม่นบ่ายปลา หล่าพี่คนงามนี่เอย ครูบ้านนอก (เยือกๆๆๆ)

(หญิง) ชายเอย คิดถึงคราวนอแม่นเฮาเว้า อยู่เถียงนาน้อบ่มีฝา แม่สิฟาดนอแม่นไม้ค้อน แม่สิย้อนนอแม่นไม้แส้ ตีน้องนั่นแต่ผู้เดียว นั่นแต่ผู้เดียว นั่นแต่ผู้เดียว อ้ายพี่ของน้องนี่นา คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(ชาย) นางเอย ไปบ่เมือนอแม่นนำอ้าย เมือนำนอแม่นอ้ายบ่ ค่ารถอ้ายบ่ให้เสีย ค่าเฮืออ้ายบ่ให้จ้าง อ้ายสิตายนอแม่นเป็นซ้าง เอราวัณนอให้น้องขี่ ตายเป็นรถนอแม่นแท็กซี่ ให้น้องนี่ขี่ผู้เดียว ขี่ผู้เดียว ขี่ผู้เดียว หล่าพี่คนงามนี่เอย คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(หญิง) ชายเอย ย้านบ่จริงนอแม่นจั่งว่า สีชมพูนอแม่นจั่งว่า หย้านคือตอกกะลิแม่นมัดกล้า ดำนาแล้วดอกเหยียบใส่ตม เหยียบใส่ตม เหยียบใส่ตม อ้ายพี่ของน้องนี่นา คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(ชาย) บัดนี้ ขอสมพรนอแม่นไปให้ ทหารไทยนอแม่นกล้าแกร่ง ทั้งชายแดนและตำรวจน้ำ อ.ส.กล้าท่านจงเจริญ สรรเสริญภิญโญนอเจ้า ขอให้สุขนอแม่นทั่วหน้า ชาวประชาทุกคืนทุกวัน ทุกคืนทุกวัน ทุกคืนทุกวัน หล่าพี่คนงามนี่เอย คนงามเอย (เยือกๆๆๆ)

(ขึ้นทำนองเต้ยโขง)

เอ้าลาลาลาลาที เอ้าลาลาลาลาที ขอให้โชคดีเถิดนะแฟนจ๋า
เสียงจากลูกทุ่งบ้านนา เสียงจากลูกทุ่งบ้านนา โชคดีเถิดหนาลองฟังกันใหม่
ถ้าหากสนใจฉันขอขอบคุณ ถ้าหากสนใจฉันขอขอบคุณ
คันไกลคันไกลกันแล้ว คันไกลคันไกลกันแล้ว เฮือแจวมันไกลจากฝั่ง เฮือแจวมันไกลจากฝั่ง ดอกสะมังละมันไกลจากต้น จากต้นละจากต้น จากต้น บ่มีได้แม่นกลิ่นหอม นั่นละนาหนานวลนา ละนาคนไทยนี่นา หางตาเจ้าลักท่าลา พวกฉันขอลาไปแล้ว พวกฉันขอลาเจ้าไปแล้ว
.................................................