เหตุผลต่างๆๆ ที่มนุษย์เดินสองขา
เราเคยเชื่อว่า การที่มนุษย์เดินสองขาก็เพราะ มนุษย์มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มือในการป้องกันตัว... อุ้มลูก... จับอาวุธล่าสัตว์... และหยิบอุปกรณ์ต่างๆ
ลองมาศึกษา เหตุผลเหล่านี้ก่อนนะคะ ก่อนที่จะเชื่อ....
และ จะเชื่อเหตุผลใดก็ตามสะดวกนะคะ...
.เพราะแต่ละเหตุผลน่าเชื่อถือทั้งนั้นเลยค่ะ
เหตุผลที่ 1
นักมานุษยวิทยาที่ชื่อว่า R. Dart ได้พบโครงกระดูกของมนุษย์ดึกดำบรรพ์สายพันธ์ Australopithecus afarensis อายุ 3.75 ล้านปี ในประเทศ Tansania ของแอฟริกา หลักฐานที่ส่อแสดงให้เห็นว่ามนุษย์เดินสองขาเป็นก่อนที่รู้จักทำเครื่องมือใช้ถึง 1.25 ล้านปี...
และเมื่อไม่นานมานี้ P. Wheeler แห่งมหาวิทยาลัย Liverpool ในประเทศอังกฤษได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสาร Journal of Human สาระวิจัยนี้มีว่า...
สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเดินสองขานั้น... ก็เพราะการเดินในลักษณะนี้ นอกจากจะทำให้มนุษย์ดึกดำบรรพ์สามารถหนีสภาพอาการร้อนในแอฟริกาได้
แล้ว... มันยังทำให้ร่างกายของมนุษย์ไม่มีขนรุงรัง... และมีสมองใหญ่ๆ จนทำให้มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐและเป็นเจ้าโลกในที่สุด...
Wheeler ทดลองว่าการเดินสองขาทำให้ร่างกายได้รับแสงอาทิตย์ได้น้อยกว่าเดิน 4 ขา ถึง 60%
นอกจากนี้อากาศเย็นที่ลอยอยู่เหนือพื้นดินระดับสูง 1 - 2 เมตร ยังช่วยให้ร่างกายมี อุณหภูมิไม่สูงนัก...
การมีปริมาณความร้อนสะสมในร่างกายที่ไม่มาก ทำให้มนุษย์สามารถเดินหาอาหารในที่ไกลๆ เป็นเวลานานๆ ได้ ดังนั้นการเดินสองขาจึงเป็นกระบวนการที่มนุษย์ดึกดำบรรพ์ใช้ในการอยู่รอดบนทุ่งหญ้าในแอฟฟริกา เมื่อสี่ล้านปีมาแล้ว
หากจะมีคนสงสัยว่า... ก็ในเมื่อการเดินสิงขาทำอะไรๆ ดีไปหมด เหตุไฉน ลิง ในแอฟริกาจึงไม่หัดเดินเสียบ้าง สำหรับเรื่องนี้ Wheeler ชี้แจงว่า มนุษย์กับลิงนั้น มีถนนการวิวัฒนาการคนละสายกัน
ธรรมชาติได้สร้างให้มนุษย์มีโครงกระดูกที่เหมาะสมสำหรับการเดินสองขาคนจึงเดินได้... แต่สรรค์ไม่ปราณีลิงนัก... ลิงจึงเดินสองขาไม่ค่อยจะได้... (ข้อมูลจาก สสวท)
*****************************
เหตุผลที่ 2
ทฤษฎีทางมนุษยวิทยา นั้นเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ตามหลักฐานและการเดาของนักวิทยาสาสตร์แต่ละท่าน การยืนของคนนั้นเถียงกันมาหลายสิบปีแล้วค่ะ ข้อมูลไม่นิ่งสักที แต่ล่าสุดประมาณกลางปี 2006 นิตยสาร national geographic ได้นำเสนอทฤษฎีล่าสุดและเป็นที่ยอมรับที่สุด เกี่ยวกับการเดินได้ 2 ขาของคน ขอสรุปดังนี้
1.คนอาจเริ่มยืนในยุคของ homo electus ที่พัฒนามาจาก homo habilis และ electus ก็แปลว่า ผู้ยืนสองขา
2.ยืนเพราะว่า เกิดในยุคที่สัตว์กินเนื้อมีมากมาย จึงพยายามยืดคอมองผ่านทุ่งหญ้าอยู่เสมอ gene จะบันทึกความเคยชินนี้ไว้ ถ้ามองไม่พ้นทุ่งหญ้า เสือ สิงโต จะคาบไปกินแน่นอน ก่อนจะรู้ตัวด้วยซ้ำ
3.เมื่อผ่านไปหลายหมื่นปี ก็พัฒนาตนเองสู่รุ่นลูก หลาน จนสามารถ ยืนตัวตรง และวิ่งได้อย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งมือ เพื่อค้ำยันตัวอีกต่อไป ส่วนมือก็พัมนาไป เพื่อการจับ ยึด ถือ และซับซ้อนมากขึ้น ประณีตขึ้น
4.ยืน 2 ขาได้แล้ว มือพัฒนาแล้ว มองเห็นนักล่าได้ไกลขึ้น ก็ระวังตัวได้ดีขึ้น เสือจะคาบไปกินก็ไม่ง่ายแล้ว เห็นอยู่ลิบๆ ก็ปีนขึ้นต้นไม้ทันที ปลอดภัยถ้วนหน้า
5.มือเมื่อใช้งานได้ดี ก็อยู่ไม่สุข จับโน่น ทำนี่ เช่น จับก้อนหินทุ่ม ไอ้เสื่อร้ายจนไม่กล้าเข้าใกล้ ขณะเดียวกันสมองก็ซับซ้อนขึ้นตามความประณีตของมือ เกิดรอยหยัก เกิดการเรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้น
6.จากหิน มาเป็นหอก เพื่อความปลอดภัยจากเสือร้าย จำต้องอยู่รวมกลุ่มกัน อาวุธครบมือ คนครบคณะ สุดท้ายจึงพิฆาต ศัตรูคู่แค้นได้สำเร็จ ด้วยความแค้นสุมอกที่ถูกข่มเหง จับกินมานาน จึงกินเนื้อศัตรูนั่นแหละเป็นอาหาร จึงได้รู้รสชาติของเนื้อสัตว์ใหญ่
7.เมื่อชนะ ความเกรงกลัวก็หายไป จึงจับกลุ่มล่าสัตว์ทุกประเภทที่ขวางหน้าเพื่อนำมาเป็นอาหาร โปรตีนนี้ส่งเสริมให้สมองพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน วางแผนเป็น สื่อสารด้วยเสียงหรือประโยคได้
8.นักล่าในตำนานจึงกำเนิดขึ้น โดยไร้ผู้ต่อต้าน ยืนสองขา ยืดอกอย่างหยิ่งทรนง ท่ามกลางท้องทุ่งใต้ดวงตะวัน เป็นที่ยำเกรงต่อสรรพสัตว์ที่เดินมากกว่าสองขาทั่วพื้นพิภพ ที่พวกเขาเดินทางไปถึง
9.เมื่อครองพื้นพิภพได้แล้ว พัฒนาการขั้นต่อไป จึงแตกไปเป็น homo nealdertal ซึ่งคล้ายกับเราในปัจจุบันอย่างมาก และอพยพไปทั่วโลก(เรายังไม่กำเนิดขึ้น)
10.จู่ๆเมื่อ ประมาณ หมื่นกว่าปีที่ผ่านมา nealdertal กลับอันตรธานหายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย กลับกลายเป็นคนสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดกำเนิดขึ้นมาแทนที่ นั่นคือ homo sapiens คาดว่าเป็นผู้กำจัดสายพันธุ์เดิมจนหมดโลก หรือผสมข้ามเผ่าพันธุ์กันจนเกิดเป็นเราๆท่านๆ ทุกวันนี้
11.สิ่งเดิมที่เราไม่เคยเปลี่ยนนับจากเดินได้ 2 ขา ก็คือสัญชาตญาณแห่งการล่า(การใช้ความรุนแรง) การบริโภคทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยไม่สนใจเพื่อนร่วมโลกของตนที่เดิน 2 ขาไม่ได้ อย่างหน้าไม่อาย
12.homo sapiens คงอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะ
-สะสมอาวุธทำลายล้างแรงสูงไว้เพียบ คาดว่าถ้าใช้พร้อมกันคงระเบิดโลกเป็นจุณได้ไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง
- ขุด เจาะ สกัด ตัด ถาง เผา ทรัพยากรของโลกอย่างไม่รู้จักพอ
- แย่งชิงทรัพยากรอย่างบ้าคลั่ง บริโภคอย่างไม่ละอาย
- สำส่อน เกิดโรคระบาดที่ยังรักษาไม่ได้ไปทั่วโลก
- เชื้อโรคร้ายแรงเริ่มฟื้นตัว รอการอาละวาด เพราะสภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปในทางโสมม
อ้างข้อความนี้
Bookmarks