ไหนๆ ก็ไปถึงหนองคายกันแล้ว แน่นอนทริปต่อไปต้องข้ามไปลาวค่ะ
เพราะตั้งใจมานานแล้วว่าอยากไปเที่ยวลาว ประเทศในดวงใจของดิ้งเลยนะนั่น
ตามกองถ่ายไปกันเลยค่ะ ขอนั่งกะบะหลัง เป็นหน่วยควบคุมเสบียงล่ะกัน ฮา...
เที่ยวไปกับคณะเลียงอิลาน โดยไปข้ามฝั่งที่ อ.ท่าเสด็จ ไปกันง่ายๆ ค่ะ
โดยทำหนังสือผ่านไปลาว ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท แค่ยื่นบัตรประจำตัวประชาชน
ส่วนเด็กก็แค่ถ่ายรูปแปะกับใบเดินทางของผู้ปกครองเป็นผู้ติดตาม โดยผ่านบริษัททัวร์
หรือคุณจะไปติดต่อเดินเรื่องที่ท่าเสด็จเองเลยก็ได้ ค่าใช้จ่าย 80 บาท
ซึ่งทริปนี้ทั้งคณะเลียงอิลานมี 11 ชีวิตด้วยกันค่ะ ผู้ใหญ่ 7 เด็ก2 พระ 1 คนลาว 1
และโชคดีที่ได้น้องคนงานลาว"ท้าวพัน" (คนเสื้อสีน้ำเงิน) ที่ข้ามมาช่วยงานที่วัดเป็นผู้นำทางพาเที่ยว
แถมยังมีน้ำใจ ให้พ่อกับแม่เขามาต้อนรับที่ฝั่งลาว เพื่อจะพาดิ้งไปเที่ยวซื้อหาผ้าไหม
และเครื่องเงินด้วย ที่แหล่งตลาดขายส่งของลาว ซึ่งก็เหมือนตลาดโบ้เบ้
หรือสำเพ็งบ้านเราอ่ะนะ ลักษณะนั้น แต่ไม่ใหญ่เท่า พูดง่ายๆว่า ไปช่วยต่อราคาว่างั้น
เขาจะได้ไม่โก่งราคา พ่ะนะ น่ารักซะไม่มีนะท้าวพัน
แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บบรรยากาศในตลาดมาเลย เพราะมัวแต่วิ่งซื้อของ
คือต้องทำเวลาค่ะ เพราะต้องรีบกลับฝั่งไทยก่อน 4โมงแลง
ที่ช๊อปปิ้งก็จะมีอีกแหล่งหนึ่งคือที่รวมสินค้าของลาว มีชื่อว่าตลาดเช้า (ตลาดเซ่า) ใกล้ๆ กับโบ้เบ้นั่นแหล่ะ
ชื่อตลาดเช้าก็จริงแต่ตลาดจะปิด4 โมงเย็น อิอิ เหมือนห้างบ้านเรานั่นแหล่ะค่ะแต่ไม่ใหญ่เท่าไหร่
และของที่ขายในห้างนี้ แม่ของท้าวพันบอกว่าเขาก็เอามาจากโบ้เบ้นั่นแหล่ะ
แต่เท่าที่ดูจากคุณภาพและความสวยงามของเนื้อผ้าแล้วก็ดูดีมีเกรดขึ้นมาหน่อยราคาก็ว่าตามเนื้อผ้าค่ะ
แต่ถ้าเทียบกับที่เมืองไทยแล้ว ถือว่าถูกมาก
ทริปนี้ประทับใจคนลาวมากค่ะ แม่ค้าลาวก็น่ารัก ผู้สาวลาวก็งาม เขาพูดลาวสำเนียงไพเพราะน่าฟัง
ซึ่งเวลาเราพูดด้วย เขาจะลงท้ายด้วยคำว่า "โด๊ย..." ซึ่ง ย่อมาจากคำว่า "โดยข้าน้อย"
เป็นคำตอบรับ ว่า "ค่ะ" หรือ "ครับ" อืมม์...หลงเสน่ห์เมืองลาวเข้าแล้วสิ
Bookmarks