พิเภก
กายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร มงกุฎน้ำเต้ากาบ ปากแสยะ ตาจระเข้
เป็นบุตรคนที่สามของ ท้าวลัสเตียน กับ นางรัชฎา เป็นน้องของ ทศกัณฐ์ มีชายาชื่อ นางตรีชฎา มีบุตรสาวชื่อ เบญกาย
พิเภกน้องแทตย์ท้าว .... ทศกัณฐ์
คือแว่นเวสสุญาณสรร .... สืบสร้าง
เพทางคศาสตร์ขยัน ..... ยลยวด ยิ่งเฮย
ทรงมงกุฎน้ำเต้าอ้าง .....อาตม์พื้นขจีพรรณ
ชาติเดิมของพิเภกคือ พระเวสสุญาณ เป็นเทพบุตรที่ พระอิศวร ส่งลงมาเกิดเพื่อเป็นไส้ศึกให้แก่ พระราม ในการรบกับทศกัณฐ์
เกิดร่วมอุทรทศเศียร ..... เรียนรู้โหราวิชาไสย
คอยท่านารายณ์ฤทธิไกร..... บอกกลให้ล้างอสุรา
แล้วประทานแว่นแก้วอันวิเศษ........ ไปเป็นนัยเนตร์ซ้ายขวา
จะได้ดูทั้งไตรโลกา .......... ให้เหมือนตาทิพย์เทวัญ
พิเภกจึงเป็นยักษ์ที่แปลกกว่าพี่น้อง คืออ่อนแอ ไม่มีฤทธิ์ แต่อยู่ในศีลธรรม มีสติปัญญาเฉียบแหลม และรู้วิชาโหราศาสตร์ ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำมาก
เมื่อตอน นางมณโฑ ให้กำเนิด นางสีดา พิเภกได้ทำนายว่านางสีดาจะเป็นผู้ทำลายล้างวงศ์ยักษ์ ทศกัณฐ์จึงให้นำนางสีดาใส่ผอบลอยน้ำไป ภายหลังเมื่อทศกัณฐ์ลักพาตัวนางสีดามาจากพระราม พิเภกก็ยังเตือนอีกว่านางจะเป็นต้นเหตุให้วงศ์ยักษ์ต้องล้มตาย ขอให้ทศกัณฐ์คืนนางไป จนเป็นเหตุให้ทศกัณฐ์โกรธว่าพิเภกเข้าข้างพระราม จึงขับไล่พิเภกออกจากรุงลงกา
เมื่อถูกไล่ตีออกมา พิเภกก็จนหนทาง จึงดูดวงตนเองแล้วรู้ว่ายังไม่ถึงฆาตแต่จะได้ที่พึ่งใหม่เป็นพระนารายณ์อวตาร พิเภกจึงรีบไปสวามิภักดิ์กับพระราม ช่วยพระรามทำสงครามกับเหล่ายักษ์ แต่ถึงกระนั้นพิเภกก็ยังรักญาติพงษ์ เพราะตั้งมั่นไว้ว่ากลอุบายหรือเหตุกาณ์ในอนาคตเรื่องใดๆ หากพระรามหรือ พระลักษมณ์ ไม่ถามขึ้นมาก่อน พิเภกก็จะไม่บอก แต่หากถามก็จำเป็นต้องบอกตามจริง เพราะได้ดื่มน้ำสาบานจะซื่อสัตย์ต่อพระรามไปแล้ว ดังคำกลอนตอนหนึ่งที่พิเภกได้บอกกับอินทรชิตว่า
ต่อศรพรหมาสตร์อันศักดา...... รู้แล้วให้ว่าแต่จริงไป
เหตุเท่านี้แหละอินทรชิต .......กูจึ่งป้องปิดไว้ไม่ได้
พระรามถามมาก็จนใจ ............ หาไม่กูว่าเมื่อไรมี
มาตรแม้นจะแกล้งบอกขาน ...... หมายเอาเมืองมารยักษี
ไหนองค์พระลักษณ์ภูมี ........... จะต้องหอกอสุรีกุมภกรรณ
พิเภกแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้รักความถูกต้องมากกว่ารักพวกพ้อง ดังเช่นเมื่อนางเบญกายแปลงเป็นนางสีดาตายลอยน้ำมา เพื่อหลอกให้พระรามเสียใจ พิเภกก็เป็นผู้จับพิรุธได้ว่าคือนางสีดาตัวปลอม เพราะลอยทวนน้ำมา จนนางเบญกายถูกหนุมานจับได้ ก่อนพระรามจะตัดสินโทษก็เกรงใจด้วยเห็นว่านางเป็นบุตรีของพิเภก จึงถามความเห็นของพิเภกก่อน ซึ่งพิเภกได้ทูลให้ประหารนางเบญกายตามฐานความผิด แต่พระรามก็ยังยกโทษให้ ความยึดมั่นในคุณธรรมของพิเภกดังนี้ทำให้พระรามหมดข้อสงสัย และเชื่อมั่นในคำปรึกษาของพิเภกตลอดมา
นอกจากนั้น พิเภกยังมีส่วนช่วยชีวิตพระราม พระลักษมณ์ และทหารเอกของพระรามได้อีกหลายครั้ง เช่น บอกหนทางให้หนุมานตามไปชิงตัวพระรามมาจากการกุมขังของ ไมยราพ ในเมืองบาดาล ช่วยบอกวิธีทำลายพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ของ กุมภกรรณ ช่วยทำยำรักษาพิษให้กับพระลักษมณ์หลังจากถูกแทงด้วยหอกโมกขศักดิ์และหอกกบิลพัท และช่วยบอกเรื่องพิธีหุงน้ำทิพย์ของนางมณโฑพร้อมทั้งทางแก้ไข
บัดนี้มณโฑเยาวมาลย์ ........ ทำการสัญชีพพิธี
ได้น้ำทิพย์แล้วส่งมาที่รบ ...... ประซึ่งซากศพยักษี
ที่ตายใหม่ตายเก่าเหล่านี้........ ก็เป็นผีปีศาจขึ้นมา
ที่สำคัญที่สุดคือ การที่พิเภกได้บอกเรื่องทศกัณฐ์ถอดดวงใจได้ ทำให้อยู่ยงคงกระพัน และบอกทางแก้ให้หนุมานไปขโมยกล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาทำลาย
เมื่อเสร็จศึกลงกาแล้ว พิเภกได้รับการสถาปนาให้เป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกาต่อจากทศกัณฐ์ ได้นามว่า ท้าวทศคีรีวงศ์ และได้นางมณโฑเป็นชายา แต่นางมณโฑมีลูกติดท้องกับทศกัณฐ์อยู่แล้ว ชื่อ ไพนาสุริวงศ์ ซึ่งพิเภกก็ไม่รู้คิดว่าเป็นบุตรของตน
ต่อมาไพนาสุริวงศ์เกิดรู้ความจริงว่าพิเภกไม่ใช่พ่อตนจึงคิดแก้แค้น โดยการไปขอกำลังจาก ท้าวจักรวรรดิ ผู้เป็นสหายของทศกัณฐ์มาช่วยยึดเมืองลงกาจับพิเภกขังไว้ และตั้งตนเป็นกษัตริย์นามว่า ท้าวทศพิน แต่ อสุรผัด บุตรหนุมานกับนางเบญกาย นำความไปบอกหนุมาน พระรามจึงให้ พระพรต กับ พระสัตรุด ยกทัพมาปราบท้าวทศพินได้สำเร็จ และให้ภิเพกครองกรุงลงกาต่อมา
Bookmarks