เพราะความคุ้นเคยใกล้ชิดที่เกิดขึ้นจากความรักของคุณทำให้คุณเผยนิสัยอันดั้งเดิมแท้จริงออกมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว เมื่อช่วงเวลาอันสุดพิเศษตอนรักแรกพบนั้นมันค่อยจางหายไป จากคนพิเศษกลายเป็นคนคุ้นเคยที่คุณเริ่มนำชีวิตส่วนตัวมาใช้กับชีวิตคู่ บางคนถึงขนาด เรอ ตด เกาพุง เมาจนอ๊วก ให้คนรักดูเป็นเรื่องเฉยๆ โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันกัดกร่อนความโรแมนติคของชีวิตคู่ให้ลดน้อย ถอยลงเรื่อยๆ

มาดูกันว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตกลงปลงใจอยู่กับแฟนหนุ่มจนสนิทสนมคุ้นเคยแล้ว มักเผยนิสัยอย่างไรต่อเขาในตอนหลังบ้าง


พร่ำบ่นไม่ยอมหยุด

แม้เขาจะรับได้ในนิสัยช่างพูดของคุณ แต่หากมีปัญหาอะไรที่ขัดใจคุณแต่ละครั้งแล้วคุณก็แก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยการพร่ำบ่นซ้ำซาก เขามีทางเลือกสองทางคือ หนึ่ง.เดินเลี่ยงคุณไปเพื่อไม่ต้องการฟังประโยคแล้วประโยคเล่าที่เขาต้องทำเพื่อตามใจคุณ หรือ สอง.ทำเป็นยอมรับผิดและขอโทษทุกครั้งเพื่อเอาใจคุณให้หยุดบ่นหรือโมโห ดังนั้นคุณสาวๆคนไหนไม่อยากให้แฟนหนุ่มต้องเก็บกดทำใจ ก็เลิกพฤติกรรมจ้อไม่หยุดซะบ้างนะจ๊ะ วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้บ่นน้อยลง ลองตั้งใจปรับปรุงตัวเองโดยให้เวลาตัวเอง 1 อาทิตย์ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มรู้สึกตัวและหุบปากในขณะที่บ่นอยู่แล้วล่ะก็ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีในการปรับปรุงตัวครั้งนี้ แล้วในที่สุดคุณจะรู้ว่าชีวิตรักที่สงบเป็นอย่างไร



ตรงเกินไปก็ไม่ดีนะ

คำว่ามารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมีอยู่ในหัวคุณบ้างไหม ถึงแม้ว่าร้อยทั้งร้อยผู้ชายไม่ชอบให้แฟนสาวโกหก แต่หากให้พูดหรือทำอะไรด้วยความจริงใจทั้งหมดคงไม่ค่อยเข้าท่า แทนที่จะพูดประโยคที่ว่า "ที่รัก..เสื้อที่คุณซื้อให้ฉันมันทุเรศเกินไป ไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด" ลองหยอดคำหวานซักหน่อย เช่นประโยคที่ว่า "ฉันชอบเสื้อที่คุณซื้อให้จังแต่เอาไว้มีโอกาสที่เหมาะกับมันแล้วฉันค่อยใส่ก็แล้วกันนะ" หรือจะเป็นเรื่องใหญ่ๆ อย่างความรู้สึกของพ่อแม่คุณที่มีต่อแฟนหนุ่มสุดที่เลิฟของคุณนั้นไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ การโกหกเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ตาม หากเขาถามถึงความรู้สึกของพ่อแม่คุณก็แค่บอกไปว่า "พวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร" เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายก็มักทำแบบนี้กับสาวๆ อย่างเราเช่นเดียวกัน


เลิกปล่อยเนื้อปล่อยตัว

มีผู้รู้เรื่องชีวิตคู่ท่านหนึ่งแนะนำว่า "คุณผู้หญิงทั้งหลาย กรุณาอย่าใส่เสื้อยืดตัวโคร่งตั้งแต่มัธยม กับกางเกงขาสั้นตัวโตเป็นชุดนอนเป็นอันขาด เพราะมันสุดแสนจะทุเรศในสายตาผู้ชาย" เพราะเวลาที่ผู้หญิงดูเซ็กซี่ในสายตาผู้ชายคือเวลาอยู่ในชุดนอนอันแสนน่ารักหรือวาบหวิว ดังนั้นหากคุณสาวๆ คิดจะปรับโฉมหรือเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเองก็ตัดใจทิ้งกางเกงขาก๊วยตัวซีดๆ ไปซะ ลองนึกถึงช่วงแรกๆ ที่คุณกำลังตกหลุมรักเขาใหม่ๆ ดู แล้วคุณจะรู้ว่า เวลาเดินผ่านบู๊ทชุดชั้นในหรือชุดนอนนั้น คุณฝันอยากให้เขาเป็นคนแรกที่เห็นคุณใส่ชุดเหล่านี้ขนาดไหน หรือแม้แต่ตอนที่นัดเดทกับเขาช่วงแรกๆ เวลาก่อนออกจากบ้านนั้น คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรักสวยรักงามของคุณเริ่มจางหายไป แต่ภาพสาวแสนสวยในสายตาเขายังมีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นอย่าทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางลบของคุณไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน



เป็นคน Friendly มากไปนิด

ไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อนๆของเขา หรือครอบครัวที่ใกล้ชิด (โดยเฉพาะกับคุณผู้ชายคนอื่น) แค่แสดงอาการหัวเราะต่อกระซิกกับพวกผู้ชายเหล่านั้นให้เขาเห็นซักนิด คงเป็นเรื่องไม่เล็กแน่ๆ นอกจากนั้นการทำตัวสนิทสนมกับเพื่อนๆ ของเขามากเกินไป อาจเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผู้ชายด้วย บางทีเขาอาจต้องการอยู่กับเพื่อนๆ มีปาร์ตี้ชายล้วน แต่ถ้าคุณตามไปรังควาญเขาเสียทุกที่ ทำตัวเป็นผู้ชายแฝงเข้าไปเป็นเพื่อนชายเขาอีกคน งานนี้ชีวิตคู่มีหวังล่มแหง ๆ...


เพ้อฝันถึงความรักตลอดเวลา

สิ่งที่ทำให้ผู้ชายอึดอัด คือการกดดันให้เขาเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ เช่น เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดและไม่เคยเอ่ยปากบอกว่ารักคุณ คุณก็แสดงอาการเป็นจอมมารร้ายให้เขาต้องพูด หรือคอยตามติดเขาแจเพื่อต้องการคำว่ารักและเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขานอกใจคุณ ความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นในตัวแฟนหนุ่มมันพร้อมที่จะระเบิดขึ้นตลอดเวลา หากคุณกลัวโดนกับระเบิดก็ควรปล่อยวางให้เขาเป็นอิสระ ให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำบ้าง แล้วช่วงเวลาที่คุณให้เขาอยู่เพียงลำพัง คุณก็จะมีช่วงเวลาดูแลตัวคุณเองให้สวยครบสูตรอีกด้วย


หากคู่รักเพิกเฉยต่อสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ มันอาจกลายเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต ที่แก้ไขยากในภายหลัง ดังนั้นแฟนสาวที่มีเซ้นส์บอกว่าชีวิตคู่ของคุณกำลังจะมีปัญหาเพราะตัวคุณเอง ก็ควรปรับเปลี่ยนตัวเองเสียแต่เนิ่นๆ นะจ๊ะ...แล้วจะหาว่าไม่เตือน