โรคเกาต์
เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ที่มีอาการปวดข้อเรื้อรัง พบได้ไม่น้อย พบในผู้ชายมากกว่า ผู้หญิงประมาณ 9 - 10 เท่า ส่วนมากจะพบในผู้ชายอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงพบได้น้อย ถ้าพบมักจะเป็นหลังวัยหมดประจำเดือน เป็นโรคที่มีทาง รักษาให้หายได้ แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
อาการ
มีอาการปวดข้อรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นฉับพลันทันที
ข้อจะบวมและเจ็บมากจนเดินไม่ไหว
ผิวหนังในบริเวณนั้นจะตึง ร้อนและแดง
จากนั้นผิวหนังในบริเวณที่ปวดจะลอกและคัน
มักมีอาการปวดตอนกลางคืน
และมักจะเป็นหลังดื่มเหล้าหรือเบียร์ (ทำให้ไตขับกรดยูริกได้น้อยลง)
ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา ในระยะแรก ๆ
อาจกำเริบทุก 1 - 2 ปี โดยเป็นที่ข้อเดิม
แต่ต่อมาจะเป็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ทุก 4 - 6 เดือน
แล้วเป็นทุก 2 - 3 เดือน จนกระทั่งทุกเดือน
หรือเดือนละหลายครั้งและระยะการปวดจะนานวันขึ้นเรื่อย ๆ
เช่น กลายเป็น 7 - 14 วัน จนกระทั่งหลายสัปดาห์
หรือปวดตลอดเวลา
ส่วนข้อที่ปวดก็จะเพิ่มจากข้อเดียวเป็น 2-3 ข้อ
(เช่น ข้อมือ ข้อศอก ข้อเข่า ข้อเท้า นิ้วมือนิ้วเท้า)
จนกระทั่งเป็นเกือบทุกข้อ ในระยะหลัง
เมื่อข้ออักเสบหลายข้อ
ผู้ป่วยมักสังเกตว่ามีปุ่มก้อนขึ้นที่บริเวณที่เคยอักเสบบ่อย ๆ
เช่นข้อนิ้วเท้า ข้อนิ้วมือ ข้อศอก ข้อเข่า
รวมทั้งที่หูเรียกว่า ตุ่มโทฟัส (tophus/tophi)
ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของสารยูริก ปุ่มก้อนนี้จะโตขึ้นเรื่อย ๆ
จนบางครั้งแตกออกมีสารขาว ๆ
คล้ายช็อล์ก หรือยาสีฟันไหลออกมา
กลายเป็นแผลเรื้อรัง หายช้า
ในที่สุดข้อต่าง ๆ จะค่อย ๆ พิการและใช้งานไม่ได้
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ทำให้มีกรดยูริกคั่งอยู่ในร่างกายมากผิดปกติ ซึ่งจะตกผลึกสะสมอยู่ตาม ข้อ ผิวหนัง ไตและอวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน และอาจมีสาเหตุจากร่างกายมีการสลายตัวของเซลล์มากเกินไป เช่น โรคทาลัสซีเมีย, มะเร็งในเม็ดเลือดขาว , การใช้ยารักษามะเร็งหรือฉายรังสี เป็นต้น หรือ อาจเกิดจากไตขับกรดยูริกได้น้อยลงเช่น ภาวะไตวาย ตะกั่วเป็นพิษ , ผลจากการใช้ยาไทอาไซด์ เป็นต้น
คำแนะนำ
1. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ช่วยป้องกันการสะสมผลึกกรดยูริกซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในไต
2. ควรกินผัก ผลไม้มากขึ้น เช่น ส้ม กล้วย องุ่น ซึ่งจะช่วยให้ปัสสาวะมีภาวะเป็นด่าง และกรดยูริกถูกขับออกมากขึ้น
3. ควรทานผักใบเขียวที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อทดแทนธาตุเหล็กที่ขาดเนื่องจากการงดทานเนื้อสัตว์
4. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
5. งดอาหารที่มีสารพิวรินสูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ น้ำซุปเนื้อสัตว์ กุ้ง หอย ปู ปลาซาร์ดีน กะปิ ซึ่งจะทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น
6. ควรจำกัดอาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้ ควรงดเครื่องดื่มพวกโกโก ช็อคโกแลต ควรทานนมพร่องมันเนย
7. ยาบางชนิดอาจมีผลต่อการรักษาโรคนี้ เช่น แอสไพริน หรือยาขับปัสสาวะ ไทอาไซด์ อาจทำให้ร่างกายขับกรดยูริกได้น้อยลง ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อยากินเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะใช้ยา
Bookmarks