"งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก

[thedon]

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 22 พ.ค.53

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 0 - อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 2

สนาม : ซานติอาโก เบร์นาเบว , มาดริด

การพบกันของสองสโมสรโดยมีเดิมพันเป็นทีมแรกในประเทศที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ไม่มีเหตุพลิกโผในเรื่องการจัดทัพ ขณะที่สองกุนซือทั้งหลุยส์ ฟาน กัลและโชเซ่ มูรินโญ่ซึ่งเคยร่วมงานกันมาก่อนที่บาร์เซโลน่าก็ต้องการคว้าถ้วยใบนี้เป็นคำรบสองของตัวเองกับสองโมสร

สำหรับบาเยิร์นจำต้องปราศจากฟร็องค์ ริเบรี่ที่ติดโทษแบน ทำให้ฮามิต อัลตินท๊อปได้เสียบแทนตามคาดโดยมีอิวิก้า โอลิชกับโธมัส มุลเลอร์รับบทคู่หัวหอก ขณะที่โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ขยับมาเล่นเป็นแบ็คซ้าย

ส่วนอินเตอร์ไม่มีติอาโก้ ม็อตต้าซึ่งถูกแบนเช่นกัน ฮาเวียร์ ซาเน็ตติซึ่งลงเล่นเป็นเกมที่ 700 ให้กับสโมสรจึงได้อุดรูรั่วแทนในแผงกลาง นอกนั้นในขุมกำลังอื่นๆไม่มีปัญหา และเป็นอีกเกมที่งูใหญ่ไม่มีผู้เล่นอิตาเลี่ยนในโผ 11 ตัวแรก

เริ่มเกมขึ้นมาทั้งสองฝ่ายก็เน้นเปิดเกมรุกเข้าใส่กันทันที และเป็นบาเยิร์นที่ได้เสียวก่อนในนาทีที่ 9 จากลีลาของอาร์เยน ร็อบเบนที่พลิ้วเข้าเขตโทษด้านขวาได้จึงป้ายบอลจากเส้นหลังมาเสาแรก แต่โอลิชโฉบเข้าชาร์จหกหลาออกไปอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นในนาทีที่ 13 อัลตินท๊อปก็พาบอลขึ้นไปหาช่องส่องจากหน้าเขตโทษได้ แต่โชคยังไม่เป็นใจบอลพุ่งไปกระทบวอลเตอร์ ซามูเอลแล้วหลุดออกนอกกรอบ

เกมของเสือใต้เริ่มดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแล้ว และล่วงมาอีกสามนาทีก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาโดยที่ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็นโถมโหม่งแล้วบอลลอยไปโดนแขนไมค่อนที่ยื่นออกมา แต่ผู้ตัดสินไม่สนใจคำประท้วงของกองหลังบาเยิร์นที่ฟ้องว่าน่าจะเป็นลูกโทษข้อหาทำแฮนด์บอล

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 17 แชมป์เมืองมะกะโรนีก็มีโอกาสขึ้นนำเช่นกันเมื่อโกรัน ปานเดฟถูกมาร์ค ฟาน บอมเมลทำฟาวล์จนได้ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา เวสลีย์ สไนเดอร์จึงวิ่งเข้าตะบันเต็มแรงแฉลบศีรษะของอัลตินท๊อปพุ่งเข้าหากรอบประตู ทว่าฮันส์ ยอร์ก บุทท์กระโจนไปปัดทิ้งให้เสือใต้ได้เยี่ยม

กระทั่งนาทีที่ 25 ใบเหลืองใบแรกของเกมก็ตกเป็นของมาร์ติน เดมิเคลิสในจังหวะเสียบใส่ดีเอโก้ มิลิโต้พร้อมทั้งทำให้งูใหญ่ได้ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาอีกครั้ง แต่คราวนี้สไนเดอร์ซัดไปเข้าอ้อมอกของบุทท์พอดี

กระนั้นอีกสามนาทีต่อมา คริสเตียน คิวูแบ็คซ้ายอินเตอร์ก็ประสบกับปัญหาในการหยุดยั้งร็อบเบน และได้ใบเหลืองเช่นกันโทษฐานสะกิดปีกดัตช์กลิ้งโคโร่

ในที่สุดนาทีที่ 35 ก็เป็นอินเตอร์ที่ได้เริงร่าก่อนเมื่อนายทวารชูลิโอ เซซาร์เตะบอลยาวเปิดเกมขึ้นมาแล้วมิลิโต้โขกต่อไปหาสไนเดอร์ก่อนที่มิดฟิลด์กังหันลมจะแปบอลทะลุช่องคืนให้หอกอาร์เจนไตน์ทะยานเข้าซัดระยะ 14 หลาผ่านบุทท์เข้าเสียบเพดานตาข่ายช่วยให้งูใหญ่เป็นฝ่ายนำหน้า 1-0

หลังเสียท่าบาเยิร์นก็พยายามเดินหน้า แต่เกมสะดุดลงไปผิดกับงูใหญ่ที่คึกคักกันสุดขีด และผ่านมาถึงนาทีที่ 43 เสือใต้ก็เกือบโดนถลกหนังเพิ่มอีกจากการประสานงานกันของคู่เดิมโดยมิลิโต้จ่ายบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายให้สไนเดอร์หลุดเข้าเข่นระยะ 15 หลา แต่บุทท์ผวาปัดได้หวุดหวิด

จวบจนช่วงทดเวลาเจ็บ ฟาน บอมเมลก็มีพื้นที่สับไกจากแถวสอง แต่ไม่ดีพอบอลกลิ้งออกนอกกรอบ จบครึ่งแรกดับเบิ้ลแชมป์อิตาลีจึงนำดับเบิ้ลแชมป์เยอรมันอยู่ 1-0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังยังไม่ทันครบครึ่งนาทีแรก เสือใต้ก็น่าจะพังประตูคืนได้ทันควันเมื่ออัลตินท๊อปลุยขึ้นกราบซ้ายพร้อมทั้งไหลเข้าเขตโทษให้มุลเลอร์หลุดไปยิงเหน่งๆ แต่ถูกเซซาร์ทิ้งตัวใช้เท้าสกัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

กระนั้นนาทีต่อมาอินเตอร์ก็โต้เร็วจนน่าจะทิ้งห่างไปอีกเม็ดจากมิลิโต้ที่ทะยานเข้าเขตโทษด้านซ้ายได้แล้วป้ายคืนให้โกรัน ปานเดฟสอดเข้าซัดระยะ 14 หลาถูกบุทท์ปัดโด่งให้พ้นคานได้สำเร็จ

เข้าสู่นาทีที่ 54 ทีมจากแดนไส้กรอกได้ลุ้นอีกจังหวะหลังแนวรับงูใหญ่ออกอาการหวงบอลมากไปแล้วทำเสียในแดนตัวเองจึงเปิดโอกาสให้อัลตินท๊อปได้ง้างระยะ 15 หลา แต่ซัดหักข้อมากไปบอลจึงหลุดออกเสาแรก

บาเยิร์นยังไม่ท้อ พยายามทำเกมรุกต่อ และกดดันทีมจากอิตาลีได้มากขึ้นทุกทีก่อนจะเปลี่ยนมิโรสลาฟ โคลเซ่ลงไปแทนอัลตินท๊อปในนาทีที่ 63

และจากจังหวะเดียวกันนี้ที่เสือใต้ได้ลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านขวาในจังหวะที่ร็อบเบนถูกปานเดฟกับคิวูเข้าแซนด์วิช มุลเลอร์ก็ได้กระทุ้งลูกโยนของร็อบเบนจาก 16 หลาแต่ถูกเอสเตบัน กัมบิอาสโซ่โขกสกัดได้ก่อนหลุดเข้าประตู

ล่วงมาอีกสองนาที ร็อบเบนก็เลื้อยขึ้นกราบขวาแล้วโยกหนีคิวูเข้าซัลโวลูกเก่งแถวหน้าเขตโทษเข้าหาเสาไกล แต่เซซาร์โชว์หนึบกระโจนไปปัดได้สำเร็จ

พอเห็นท่าไม่ดี งูใหญ่ก็แก้ลำส่งเดยัน สแตนโกวิชลงไปเติมพิษสงในเกมรุกแทนคิวูในนาทีที่ 68 แล้วย้ายซาเน็ตติลงไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย

และแล้วในนาทีที่ 70 ทีมพญาอสรพิษก็สบโอกาสโต้โดยมีซามูเอล เอโต้กระชากบอลลุยขึ้นไปแทงออกกราบซ้ายให้มิลิโต้โชว์ความร้ายกาจลากเข้าเขตโทษแล้วโยกหลอกฟาน บุยเต็นจนหลังหักก่อนจะซัดจาก 15 หลาเข้าเสียบเสาไกลอย่างเหนือชั้นเป็นประตูที่สองของตัวเองพาอินเตอร์ทิ้งห่าง 2-0

เสือใต้เปลี่ยนตัวสำรองอีกรายให้มาริโอ โกเมซลงไปแทนโอลิชในนาทีที่ 74 แต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่ออินเตอร์ตั้งรับกันอย่างรัดกุม แถมฟาน บอมเมลยังโดนจดชื่อด้วยข้อหาเสียบมิลิโต้

ถัดมาอินเตอร์ใช้งานซุลลี่ มุนตารี่แทนปานเดฟในนาทีที่ 78 กระทั่งครบ 90 นาทีงูใหญ่จึงกำชัยไป 2-0 ผงาดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค: ฮันส์ ยอร์ก บุทท์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, มาร์ติน เดมิเคลิส, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - มาร์ค ฟาน บอมเมล (กัปตันทีม), บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, ฮามิต อัลตินท็อป - โธมัส มุลเลอร์, อิวิก้า โอลิช
สำรอง: มิชาเอล เรนซิ่งก์ (ผู้รักษาประตู) - อันเดรียส์ กอร์ลิตซ์, ดีเอโก้ คอนเตนโต้, อนาโตลี่ ติมอสชุค, ดานิเยล ปรานยิซ, มิโรสลาฟ โคลเซ่, มาริโอ โกเมซ

อินเตอร์ มิลาน : ชูลิโอ เซซาร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล, คริสเตียน คิวู - ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ (กัปตันทีม), เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ - เวสลี่ย์ สไนเดอร์ - ซามูแอล เอโต้, ดีเอโก้ มิลิโต้, โกรัน ปานเดฟ
สำรอง: ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ (ผู้รักษาประตู) - อีวาน คอร์โดบา, เดยัน สแตนโควิช, ซัลลี่ย์ มุนตารี่, แม็คโดนัลด์ มาริก้า, มาร์โก มาเตรัซซี่, มาริโอ บาโลเตลลี่

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)


ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ พยายามเบียดแย่งบอลจาก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์


ดีเอโก้ มิลิโต้ ฮีโร่ เหมา 2 ประตูให้ อินเตอร์ อัด บาเยิร์น 2-0


ฟร้องค์ ริเบรี่ นั่งเซ็ง หลังจากทีเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น เนื่องจากติดโทษแบน


มาดกวนๆตามสไตล์ของ โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่มีให้เห็นเป็นประจำ


เหล่าขุนพล อินเตอร์ มิลาน ฉอลงถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2009/10 อย่างชื่นมื่น

ที่มาข้อมูล : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100523_018.html

[ภูเบตร์]

[IMG]40049852.gif[/IMG]เชียร์สุดใจ...ไม่ผิดหวังจริงๆ ei ei....

[ภูเบตร์]

เชียร์สุดใจ...ไม่ผิดหวังจริงๆ ei ei....

[ธีระปลัด]

สุดยอด อินเตอร์ น้ามู สุดยอด

[ริมฝั่งหนองหาร มอจอธอ]

สุดยอดทีมโปรด:l-:l-:l-::l-:l-:l-:l-:l-