มองอารยะธรรมในอินเดีย 1
อินเดีย..ต้นธารแห่งอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่หลั่งไหลไปสู่ดินแดนต่างๆ ทั่วเอเชีย ร่วมติดตามค้นหารากเหง้าแห่งความเป็นภรตวรรษ ศูนย์กลางการก่อเกิดศาสนา ภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรมหลายหลาก อันนำมาซึ่งวิถีที่แตกต่างของผู้คนนานาเชื้อชาติบนผืนแผ่นดินเดียว
จากการศึกษาได้พบว่า ในระยะก่อนจะถึงสมัยของพุทธศาสนานั้น แม้อาณาจักรและแคว้นต่างๆ ทั้งใหญ่น้อยในอินเดียตอนเหนือจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
แต่บุคคลรุ่นหลังก็ยังรู้ความเป็นมานั้นๆได้ตลอด
ไม่จากตำนานก็จากพระคัมภีร์ต่างๆ
หรือแม้แต่จากพุทธประวัติ
แต่...จากการศึกษา พบว่าดินแดนทางใต้ ที่ยื่นล้ำเป็นรูปสามเหลี่ยมใหญ่โตไปในคาบสมุทรอินเดียนั้น เต็มไปด้วยอาณาจักรน้อยใหญ่
กลับพบว่าไม่มีประวัติความเป็นมาและเป็นไปให้รู้กันแน่ชัด ว่าปวงชนที่ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ ณ ดินแดนที่เรียกว่าอินเดียตอนใต้ในปัจจุบัน ตั้งแต่ครั้งโบราณเป็นผู้ที่อพยพมาจากทางใดและนำเอาอารยธรรมมาสู่ดินแดนนี้จากที่ใด
นักโบราณคดีได้แต่สันนิษฐานว่า
พวกอารยันบางพวกที่อพยพมาพร้อมๆกันกับพวกที่เข้ารุกรานอินเดียตอนเหนือนั่นเอง ได้แยกทางและอพยพลงมาสู่ทางตอนใต้ จนในที่สุดก็ข้าม ภูเขาวินธัย (Vindhya) แล้วเดินทางข้าม แม่น้ำนาร์บาดา (Narbada) และเทือกเขาสัตปุระเข้ามาสู่ ที่ราบสูงเดคคาน (Deccan plateau) ที่อยู่บริเวณต้น แม่น้ำโคธาวารี (Codavari) และ แม่น้ำกฤษณา (Krishna) ปะปนกับพลเมืองดั้งเดิมของพื้นที่ โดยยึดเอาการบูชาเทพเจ้าที่พวกเขาเคารพเป็นหลัก
ต่อมานักเดินเรือชาวฟินิเซี่ยน และอาหรับที่กล้าเดินเรือมาค้าขายกับดินแดนชมพูทวีปตอนล่าง ก็ได้นำเอาวัฒนธรรมที่มีรูปแบบแปลกใหม่มาปะปนกับอารยธรรมดั้งเดิม เกิดเป็นอารยธรรมอย่างใหม่ดังที่ได้เห็นกันอยู่แม้ในปัจจุบัน
ซึ่งได้ซึมซับความผิดแผกแตกต่างไปจากชนในดินแดนตอนเหนือ
อินเดียตอนใต้นี้ในภายหลังแม้พระเจ้าอโศกมหาราชผู้เกรียงไกร ก็ไม่อาจยกทัพมากวาดล้างได้
และเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในครั้งกระโน้น กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในแถบลุ่มแม่น้ำคงคาในดินแดนตอนเหนือได้อาศัยการเอ่อท้นของน้ำในฤดูใบไม้ผลิเป็นประโยชน์ในการกสิกรรม
แต่ในที่ราบสูงเดคคานอันกว้างใหญ่ของอินเดียตอนใต้ กลุ่มชนกลับได้อาศัยลมมรสุมพัดพาเอาฝนเข้ามาสู่ที่ราบ ทำให้ดินอันแข็งดุจหินกลับกลายเป็นโคลนเหลวเหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้เกิดมีเทศกาลของตนเองขึ้นเพื่อต้อนรับฤดูกาลแห่งการเพาะปลูกของปี เป็นดังนี้มากว่า 2 พันปีแล้วค่ะ
แนวภูเขาวินธัย
แม่น้ำนาร์บาดาปัจจุบัน
ที่ราบสูงเดคคานปัจจุบัน
จาก หนังสือต่วยตูน
Bookmarks