หลายครั้งที่ผมเห็นผู้หญิงสวย ๆ แล้วเกิดนึกชอบ เมื่อได้พูดคุยด้วยก็ยิ่งมีความรู้สึกรักในใจลึก ๆ และรำพึงรำพันอยู่ในใจว่า "เอ๊ะ..ทำไมเราไม่เจอเขาก่อนแต่งงานนะ" คงเป็นเพราะก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตเรา ผมว่าหลายคนคงจะมีอาการเหมือนอย่างผม
ผมชอบมองคนสวยและน่ารัก และถ้ามีโอกาสจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่ใบหน้าของเธอ ไม่ว่าจะเป็นคิ้ว ดวงตา จมูก ริมฝีปาก ฟันที่ขาวสะอาด รวมไปถึงปลายคาง และอื่น ๆ หลายคนอาจคิดว่า สายตาอ่านกิน หรือเป็นพวกจิตวิปลาศ แต่ผมว่ามันเป็นธรรมชาติของเพศตรงข้าม และคิดว่าไม่ต่างกัน :l-
เมื่อผมได้ทราบข่าวว่าเธอรักชอบพอกับคนนั้นกับคนนี้ ก็รู้สึกเสียดาย เกิดความหึงหวงภายในจิตใจ และคนที่เขาไปชอบพอนั้นก็ดูไม่แตกต่างอะไรจากผมมากนัก คำถามที่เกิดขึ้น "เขาคิดอย่างไร หรือเขาคนนั้นมีดีอะไร"
ความรู้สึกเสียดายจะอยู่นานระยะหนึ่ง เมื่อผมไปพบไปเจอคนใหม่ ความรู้สึกนั้นก็ค่อย ๆ เลือนลาง และมายึดติดความรู้สึกภายในใจกับคนใหม่อีก ข้อดีของความคิดแบบนี้หมอโรงพยาบาลไหนไม่รู้เขาบอกว่าจะทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวย :l-
ข้อจำกัดของความคิดคนเราผมว่าไม่มีข้อจำกัด ความคิดที่ฟุ้งซ่าน หากไม่ยึดติดมันมากมายนัก มันก็จะรู้สึกสบาย พระท่านว่าที่เราเป็นทุกข์เพราะว่าเราไปยึดติดกับมัน คิดว่าของสิ่งนั้นเป็นของ ๆ เรา ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย
เมื่อหันกลับมามองตัวเอง มองคนรอบข้าง จึงได้มองเห็นทางสว่าง และคำที่พระท่านสอนนั้นเป็นความจริง เราไปยึดติด เราไปหลงกับมันมากเกินไป เราจึงเสียดาย หึงหวง และเป็นทุกข์ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้...ก็นั่นนะสิ
ต่อไปเห็นทีจะต้องสวดมนต์ให้มากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าระยะหลังมานี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างไงชอบกล ฮ่า ๆ
Bookmarks