กำลังแสดงผล 1 ถึง 4 จากทั้งหมด 4

หัวข้อ: กระจับ........จอกแหน

  1. #1
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ กาฬสินธุ์ถิ่นไดโน
    วันที่สมัคร
    Feb 2010
    ที่อยู่
    Menburi
    กระทู้
    164

    กระจับ........จอกแหน

    กระจับ........จอกแหน


    ชื่อทั่วไป
    Water Chestnut, Horn Chestnut, Water Caltrops

    ชื่อ อพื้นเมือง
    กะจับ มะแงง ม่าแงง พายับ เขาควาย Ling Ko(จีน หมายถึง Spiritual Horn)

    การกระจาย ตามธรรมชาติ
    มีอยู่ 30 ชนิด กระจายพันธุ์ุตามธรรมชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยมีอยู่ 2 พันธุ์ุ คือพันธุ์ุเขาแหลมที่มีรสชาติดี และพันธุ์ุเขาฟูที่เกษตรกรนิยมปลูก เพราะขึ้นได้ง่ายและเติบโตดี
    กระจับ........จอกแหน
    ลักษณะ ทางชีววิทยา
    เป็นพืชน้ำที่ลอยได้ ชอบน้ำนิ่ง มีอายุหลายฤดูขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม รากจะหยั่งลึกลงดินใบเดี่ยว มี 2 แบบ คือใบลอยน้ำและใบใต้น้ำ ใบลอยน้ำมีก้านยาวอวบน้ำและส่วนตรงกลางจะพองออกเป็นกระเปาะทำให้ลอยน้ำได้ดี แผ่นใบของใบลอยน้ำมีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู หรือรูปพัด กว้าง 4-6 ซม. ยาว 7-9 ซม. ใบจะเรียงรอบลำต้นราวกับใบกระจายอยู่โดยรอบ ใบใต้น้ำจะเป็นใบฝอยและเป็นเส้นใยคล้ายรากดอกออกที่โคนใบในช่วงฤดูฝน เป็นดอกเดี่ยวสีขาว ขนาดของดอกประมาณ 0.5 มม. ดอกบานเหนือน้ำ กลีบเลี้ยงมีโคนเชื่อมกันแต่ปลายแยกมีกลีบดอก 4 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 4 อันรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี 2 ช่อง แต่ละช่องมี ovule 1 อันเมื่อติดผลแล้วก้านดอกจะยืดยาวโค้งกลับลงน้ำเพื่อให้รังไข่ได้เจริญเป็น ผล ผลเจริญอยู่ใต้น้ำ เขาโค้งสองข้างของผลพัฒนามาจากกลีบเลี้ยง 2 กลีบ
    กระจับ........จอกแหน
    การใช้ประโยชน์
    ใบมีรสเปรี้ยว ใช้กัดเสมหะ แก้ไข้ ขับเมือกในลำไส้ให้ออกมาทางระบบขับถ่าย ใบช่วยเป็นยาเสริมสมรรถภาพตาของเด็ก ส่วนก้านต้นใช้เป็นยาแก้โรคกระเพาะ ผลเป็นอาหารได้ โดยทานเนื้อในของผลที่มีสีขาว ผลกระจับมีปริมาณแป้งสูง มีปริมาณฟอสฟอรัสสูง มีวิตามินเอ และมีโปรตีน ในการบริโภคจึงต้องต้มให้สุกก่อนจึงจะรับประทานได้ เพราะอาจจะมีปัญหาของพยาธิใบไม้ ในบางภัตตาคารจะใช้กระจับแทนแห้ว แม้แป้งของกระจับก็ใช้แทนแป้งของถั่วเขียวได้
    บางแห่งจะทำน้ำกระจับ จำหน่าย นอกจากนี้ยังมีปริมาณแคลเซี่ยมสูง ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีสาร bicornin

    การปลูก กระจับ
    ทำกันมากในภาคกลาง โดยเฉพาะบึงบรเพ็ดและเพชรบุรีที่แคชเมียร์ของอินเดียก็มีการปลูกกันมาก ผลิตได้ปีละ 4,000-5,000 ตัน ช่วยชีวิตคน 30,000 คน ตลอดในช่วงเวลา 5 เดือนที่ออกผล นอกจากนี้ยังมีการปลูกในปากีสถาน ศรีลังกา อินโดนีเชีย จีนตอนใต้ ญี่ปุ่นตอนใต้ ในประเทศจีนจะมีเทศกาลทานกระจับในกลางฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อฉลองการล้มล้างอิทธิพลของมองโกลเหนือแผ่นดินจีน และทำติดต่อกันเรื่อยมาตั้งแต่ครั้งราชวงศ์หยวน

    กระจับถือเป็นยาเย็น เปลือกใช้แก้ท้องร่วง ริดสีดวงทวาร ฝีหนอง ผลทานเป็นอาหารชูกำลัง บำรุงทารกในครรภ์ แก้อ่อนเพลีย บำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์บำรุงกำลังคนไข้ เป็นอาทิ

    กระจับ........จอกแหน

    ข้อมูลจาก
    http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=109.0
    ภาพจาก
    http://www.suansavaกระจับ........จอกแหน.com/private_folder/2892551150539321xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx.jpg
    http://i123.photobucket.com/albums/o296/iam9A/MY%20PHOTO1/10.jpg

  2. #2
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    ที่อยู่
    สวิส....พะนะ
    กระทู้
    563
    เจ้ามะดู๋หาข้อมูลมาไห่ชาวบ้านมหาได้ฮู้ได้เห็นในสิ่งที่บ่อเคยฮู้มาก่อนแท้...จังแม่นดีหลายเนาะขอบคุณหลายๆเด้อบ่าวกาฬสินธุ์

  3. #3
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ maxwell007
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    ที่อยู่
    สามย่าน
    กระทู้
    474
    บล็อก
    14
    เป็นตากินยากแท้ครับ กระจับหน่ะ แต่กะแซบครับ

  4. #4
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ๛หนุ่มบ้านไกล๛
    วันที่สมัคร
    Apr 2009
    กระทู้
    764
    บล็อก
    8
    เคยเห็นแต่ขะเจ้าปลูกไว้ประดับ ในอ่างปลา บ่รู้ว่ามันกินได้แหม ขอบคุณค้าบบบบบบบบบบ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •