กำลังแสดงผล 1 ถึง 8 จากทั้งหมด 8

หัวข้อ: การฝึกทักษะการคิด

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    การฝึกทักษะการคิด

    การฝึกทักษะการคิดนอกกรอบ




    ทักษะการคิดนั้น เราคิดว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคน และยิ่งสำคัญมากขึ้น ผู้เรียนได้เรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น



    การฝึกทักษะการคิด



    ปัจจุบันนี้สถานศึกษา ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาทักษะการคิดของผู้เรียน โดยเฉพาะครูที่สามารถออกแบบวิธีสอนให้เด็กมีการฝึกทักษะการคิด เพื่อให้เด็กพัฒนาไปสู่การคิดสิ่งใหม่ได้

    และผู้เรียนสามารถทำความฝันให้เป็นความจริงได้จากการฝึกทักษะความคิด จนสามารถจินตนาการสิ่งต่างๆได้ จนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

    เรื่องของการพัฒนาทักษะในการคิดนั้น จริงๆ แล้วควรจะพัฒนากันตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลเลย ไม่ใช่มาทำกันตอนโต เพราะยิ่งโตมุมมองต่างๆ ตลอดกรอบความคิดก็จะมากขึ้น ก็จะยิ่งคิดและจินตนาการเกิดขึ้นได้ยากมากยิ่งขึ้น




    การฝึกทักษะการคิด



    ที่สำคัญก็คือปัจจุบันนี้หลักสูตรการเรียนการสอนของบ้าน ไม่มีวิชาที่ว่าด้วยทักษะการคิด แต่เรากลับต้องคิด คิด และคิด ในการเรียนทุกวิชา โดยที่ไม่รู้เลยว่า วิธีการคิดของเรานั้น ถูกต้อง หรือเหมาะสมหรือไม่


    นักวิชาการเรื่องของทักษะการคิดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลกเลยก็คือ Edward De Bono ซึ่งได้วางแนวทางและวิธีการคิดให้กับชาวโลก และเป็นผู้ให้กำเนิดคำว่า Lateral Thinking หรือการคิดนอกกรอบ ก็พยายามสอนให้คนเรารู้จักวิธีคิดที่เหมาะสม และคิดได้มากขึ้น หลากหลายขึ้น


    ปกติเป้าหมาของการคิด ก็คือ การทำให้สุดท้ายแล้วไม่ต้องคิด


    แปลกดีใช่ไหมค่ะ สมองคนเรานั้นจะคิดครั้งแรก จากนั้นก็จะแปรความคิดนั้นเป็นการรับรู้ และเป็นกรอบความคิด


    ซึ่งเมื่อพบกับเหตุการณ์แบบเดิมอีก สมองก็จะไปดึงเอากรอบนั้นมาใช้ได้เลย โดยไม่ต้องคิดใหม่



    ตัวอย่างก็คือ เวลาเราขับรถมาทำงาน เราเคยถามตัวเองว่า เราคิดใหม่หรือเปล่า เราไม่เปลี่ยนเส้นทางใหม่ เราจะไม่ได้คิดใหม่เลย มันเป็น Pattern ของมันปกติ เราจะรู้เลยว่า ข้างหน้าจะมีหลุมนะ จะมีถนนขรุขระ และมีจุดกลับรถที่เราต้องหลบ เราจะขับอย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย นี่ก็คือกรอบความคิดที่เป็นตัวอย่างหนึ่ง และ คนเราจะมีกรอบความคิดแบบนี้เยอะแยะมากมายในสมองของเรา

    เมื่อไรที่เราประสบกับเหตุการณ์ที่เคยประสบมาก่อน หรือมีปัญหาที่เคยแก้ไขได้มาก่อนแล้ว สมองเราก็จะดึงเอากรอบความคิดเดิมๆ ออกมาใช้ ซึ่งนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้เราไม่คิดอะไรใหม่ๆ และมักจะอ้างว่า นี่คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะมีวิธีการอื่นมากกว่านี้ก็ได้



    ลองพิจารณาสมการสองอันนี้นะค่ะว่า สองสมการนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่ค่ะ

    5 + 5 = 10

    10 = 5 + 5



    ท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้คงจะเห็นได้ว่า ถ้าเราดูเผินๆ ก็คือเหมือนกัน นี่คือกรอบความคิดเดิมๆ


    แต่จริงๆ แล้วบรรทัดล่างที่เป็น 10 = 5 + 5
    นั้นแสดงให้เราเห็นถึงทางเลือกที่มากขึ้น จากกรอบความคิดเดิมๆ


    เพราะว่า 10 ไม่ใช่แค่ 5+5 อาจจะเป็น 4+6 หรือ 2+8 หรือ 2×5 ฯลฯ


    นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Lateral Thinking ก็คือคิดหาทางอื่นๆ ที่สามารถสร้างผลได้เช่นกัน


    ตัวอย่างของ Lateral thinking ที่เห็นชัดมากๆ และเราเชื่อว่าหลายท่านอาจจะเคยอ่าน หรือเคยพบมาก่อนก็ได้ก็คือ


    ตัวอยางที่ 1



    มีเรื่องของมีคนบ่นวาทำไม ลิฟท์ช้ามาก จะขึ้นไปชั้นที่ 24 ใช้เวลานานมาก อยากให้เจ้าของสถานที่ปรับปรุง


    ถ้าเราเป็นเจ้าของอาคารสถานที่ เรามีวิธีคิดก็คือเราก็จะพยายามหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา หรือไม่ก็ทำการเปลี่ยนลิฟท์ใหม่เสียเลย

    แต่ถ้าท่านเป็นเจ้าของอาคาร และอยากคิดนอกกรอบที่นอกเหนือจากความคิดนี้ ท่านจะทำอย่างไรคะ



    คำตอบก็คือ (ลองฝึกทักษะในการคิดนะคะ)

    ..........................................................................
    ..........................................................................


    จะเห็นว่าความคิดนอกกรอบเกิดขึ้นได้มากมายใช่ไหมคะ




    ตัวอย่างที่ 2




    เป็นเรื่องขององค์การนาซ่า ที่นักบินอวกาศไม่สามารถใช้ปากกาหมึกแห้งเขียนได้ในอวกาศ ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องของการบันทึกข้อความระหว่างที่อยู่บนอวกาศ


    ถ้าเป็นความคิดในกรอบเดิมก็คือ เราจะพยายามคิดค้นหาส่วนผสมของหมึกที่สามารถใช้ในอวกาศได้ ทดลองเท่าไรก็ไม่ได้


    ถ้าเป็นท่าน ท่านคิดว่าจะแก้ปัญหาในการจดบันทึกนี้ได้อย่างไรคะ


    คำตอบก็คือ (ลองฝึกทักษะในการคิดนะคะ)

    ...................................................................................
    ...................................................................................




    ตัวอย่างที่ 3 เป็นเรื่องราวให้ลองฝึกคิดดูนะค่ะ



    มีนักโทษประหารคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการตัดสินประหารชีวิต ซึ่งผู้พิพากษาก็ให้เลือกวิธีการตายของตัวเอง โดยมีอยู่ 3 ห้องให้เลือก ก็คือ

    ห้องที่หนึ่ง เป็นห้องชุมนุมของนักฆ่ามืออาชีพจำนวน 5 คน
    ห้องที่สอง เป็นห้องของนักวางยาพิษซึ่งจะทำให้ตายโดยไม่รู้ตัวได้
    ห้องที่สาม เป็นห้องของฝูงเสือโคร่งใหญ่ที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาเป็นเวลา 1 ปี
    แล้ว นักโทษคนนี้ควรจะเลือกห้องใด ที่จะทำให้ตนเองมีโอกาสรอดได้มากที่สุด


    ท่านลองตอบด้วยตัวเองดูนะคะ

    ............................................................................................
    ............................................................................................
    ............................................................................................
    ............................................................................................



    สิ่งที่ท่านได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ก็คือ
    ตัวอย่างของการคิดแบบ Lateral Thinking ก็คือพยายามไม่คิดตามกรอบความคิดเดิมๆ ที่เรามีอยู่ แต่ให้คิดออกจากกรอบให้ได้ ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนพอสมควรเลยค่ะ




    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  2. #2
    ครีเอทีพ โปรดิวเซอร์ สัญลักษณ์ของ บ่าวข้าวจี่
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    กระทู้
    1,008
    บล็อก
    7
    ป้าด....ขนาดคิดในกรอบ.......ยังคิดหยังต่อหยังยากอยู่......สิพยายามครับ...ฮ่า ขอบคุณบทความที่เพิ่มรอยหยักในสมอง...

  3. #3
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ เซียงเหมี่ยงเมืองสุรินทร์
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    ที่อยู่
    สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, และ สปป.ลาว
    กระทู้
    829
    ข้อหนึ่งคิดบ่ออกครับ...
    ข้อสองปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะว่าปากกาจะเขียนได้ต้องอาศัยแรงดึงดูดในการกดหมึกลงมา แต่ว่าอวกาศบ่มีแรงดึงดูดหมึกบ่สามารถลงได้ เพราะฉะนั้นใช้ดินสอแทนเอาครับ...
    และข้อที่สาม ถ้าเป็นเซียงเหมี่ยงฯ สิเลือกห้องเสือ เพราะว่าเสือโคร่งถ้าอดอาหารถึงหนึ่งปีมันคงหิวตาย หรือ บ่ซั่นกะกัดกินกันเองตายหมดไปแล้วล่ะ...

  4. #4
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ชัย หมอแคน
    วันที่สมัคร
    Jan 2010
    ที่อยู่
    มณฑลอานสี
    กระทู้
    407
    บล็อก
    3
    ข้อ 1 ก้อย้ายชั้น 24 ลงมาชั้นล่าง ครับ
    ข้อ 2 ใช้ปากกา ดิจิตอล แทน
    ข้อ 3 คิดคล้ายท่านเซียงฯ แต่คิดนอกออกไปอีก ขอเลือกห้องนักฆ๋ามืออาชีพ 5 คน เพราะพวกมันคงฆ่ากันตายไปแล้วเพราะว่ามีแต่คนฆ่าเก่งๆ ก่อนที่เราจะเข้าไป อิอิ
    รอยสัก โอ๊ะรอยหยัก สมองตู้ๆ มีแค่นี้ ณ ตอนนี้ คับ

    Bump: ข้อ 1 ก้อย้ายชั้น 24 ลงมาชั้นล่าง ครับ
    ข้อ 2 ใช้ปากกา ดิจิตอล แทน
    ข้อ 3 คิดคล้ายท่านเซียงฯ แต่คิดนอกออกไปอีก ขอเลือกห้องนักฆ๋ามืออาชีพ 5 คน เพราะพวกมันคงฆ่ากันตายไปแล้วเพราะว่ามีแต่คนฆ่าเก่งๆ ก่อนที่เราจะเข้าไป อิอิ
    รอยสัก โอ๊ะรอยหยัก สมองตู้ๆ มีแค่นี้ ณ ตอนนี้ คับ

  5. #5
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ pcalibration
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    เมืองฉะเชิงเทรา(แปดริ้ว)
    กระทู้
    1,883
    บล็อก
    1
    รู้สึกว่าจะเริ่มเครียดกันแล้วนะครับครูเล็กเพราะใช้ความคิดนอกกรอบ
    ขอคลายเครียดจักหน่อยแหน่ครับ
    ข้อที่ 3 ขออยู่กับเสือครับ"เพราะยุงมันร้ายกว่าเสือ"

  6. #6
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ลูกทุ่งคือสายเลือด
    วันที่สมัคร
    May 2008
    ที่อยู่
    บ้านฝาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น-เชียงใหม่
    กระทู้
    175
    ขอบคุณหลายคับผม เอื้อยๆๆ อิอิ

  7. #7
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    เรื่องฮิตน่าอ่าน ทักษะการคิด 2

    แต่ละคนน้อจ้า สุดยอดความคิดกันเลย

    ก็คิดหลากหลายทั้งนั้นเลยนะคะ

    ถ้าเข้าไปอยู่ห้องนักฆ่า ก็คงได้นะคะเพราะเขาก็คงฆ่ากันตายหมดแล้ว


    เอ หรือจะเข้าไปอยู่ในห้องนักวางยาพิษ ดีเน๊าะ เพราะยาพิษมีอยู่ข้างนอก
    ข้างในไม่ทราบจะหาที่ไหนเน๊อะ


    หรือ เข้าห้องเสือดีน้อ เพราะถ้าอดอาหารมาปีหนึ่ง เสือก็คงตายแล้วละเน๊อะ


    นี่ก็คือตัวอย่างการคิดนอกกรอบที่หลากหลายนะคะ

    -------------------------------------




    คำถามใหม่จ้า



    1.ชายคนหนึ่งอาศัยอยู่บนชั้น 14 ของคอนโดมิเนียมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทุกๆ เช้าก็จะโดยสารลิฟท์ลงมาที่ชั้นหนึ่งเพื่อจะออกไปทำงาน ในช่วงขากลับจากงานตอนเย็น ถ้าเขาขึ้นลิฟท์คนเดียว เขาจะต้องลงลิฟท์ที่ชั้น 10 แล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปอีก 4 ชั้นทุกครั้งไป แต่ถ้าวันไหนมีคนขึ้นลิฟท์มาพร้อมกับเขา หรือเป็นวันที่ฝนตก เขาก็จะสามารถขึ้นไปถึงชั้น 14 ได้เลยโดยที่ไม่ต้องเดินขึ้นบันได ถามว่าเพราะอะไร



    ช่วยแสดงความคิดเห็นเพิ่มรอยหยัก ให้สมองหน่อยนะคะ
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

  8. #8
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ wundee2513
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    ที่อยู่
    ตามภารกิจ
    กระทู้
    1,108
    บล็อก
    11
    ... ชายคนนี้เขาไม่ธรรมดานะครับ ...
    ๑. ตอนเช้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ขาลงลิฟท์เพราะลิฟท์จะใช้พลังงานน้อย(แรงโน้มถ่วง)
    ๒. นอนเย็นไม่รีบร้อน เน้นความประหยัดทางเดียวกันไปด้วยกัน ได้ออกกำลังกายไปในตัว
    ๓. กรณีฝนตก บันไดหนีไฟคงไม่มีหลังคากันฝน(กลัวเปียกฝนครับ)
    เสรีภาพ เสมอภาค ยุติธรรม

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •