ชะตากรรม เด็กขอทาน
หากเรา จะพูดกันถึงความหมายของการมีชีวิตว่าเกิดมาเพื่ออะไรนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ ซับซ้อนอยู่ไม่น้อย ภายใต้ข้อแตกต่างทางด้านเงื่อนไขและที่มาที่ไป แต่หากจะทวงถามต่อว่าท่ามกลางการดำเนินไปแห่งวิถีนั้น แต่ละคนปรารถนาจะพานพบกับอะไร เชื่อว่าคำตอบคงคล้ายกันนั่นคือ ความสุขและอิสรภาพ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตน้อยๆ อีกนับร้อยพันภายใต้ดินแดนที่ผู้คนต่างลุ่มหลงไปกับรูปรสของความศิวิไล โอกาสที่จะได้สัมผัสถึงความงามของสองสิ่งที่ว่านี้ดูจะเลือนลางริบหรี่เต็มทน สิ่งมีชีวิตน้อยๆที่ว่านี้ก็คือบรรกาเด็กขอทานนั่นเอง
ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าจากการสำรวจของทีมเจ้าหน้าที่โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา ณ เวลานี้พบขอทานได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะเด็ก เราจะพบเห็น งานประติมากรรมดิ้นได้เหล่านี้ ตั้งอยู่ตาม สะพานลอย ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงแหล่งที่มีผู้คนพลุกพล่าน เสื้อเก่าๆ กางเกง ผุขาด พร้อม กระป๋องใบเล็กๆ นับว่า สร้างความความสงสาร แก่ผู้ที่พบเห็นอยู่ไม่น้อย อีกทั้ง อานุภาพแห่งความจนหรือเหตุผลของชะตากรรม ได้ทำลายข้อสงสัยเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเด็กน้อยเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง กระนั้นสำหรับเหล่ามิจฉาชีพแล้ว ข้ออ้างของความจนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่พวกเขาใช้แสวงหารายได้จากเหล่าผู้บริสุทธิ์
และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับกันคือ ปรากฏการณ์นี้ ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป แม้ว่าบ้านนี้เมืองนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนา(วัตถุ)ไปไกลแค่ไหน ขณะเดียวกัน เมื่อสังคมเปลี่ยน รูปแบบการหาเงินก็ต้องเปลี่ยนตามเช่นกัน และการใช้เด็กทารกเป็นเครื่องมือก็ถือเป็นวิวัฒนาการใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่ากำลังสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในเวลานี้
จากการลงพื้นที่สำรวจเด็กขอทานตามที่ได้รับแจ้งเข้ามาผ่าน เวปไซด์ www.stop-childbegging.org เฉพาะ ย่านประตูน้ำ รังสิต และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบ การนำเด็กทารกตัวแดงๆมาใช้เป็นเครื่องมือในการหาเงินจำนวน 6 ราย โดยยึดบริเวณบันไดสะพานลอย เป็นหลัก เริ่มตั้งแต่ เวลา หกโมงเย็น ไปจนถึง สี่ทุ่ม ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์พบเริ่มตั้งแต่ เก้าโมงเช้า โดยเด็กจำนวน 6 รายมีอายุประมาณ 4-5 เดือนแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง เชื่อว่าอารมณ์สงสารคงจะเป็นความรู้สึกแรกของใครหลายๆคนเมื่อพบเห็น ภาพเด็กน้อยนอนคุดคู้อยู่ในอ้อมอกผู้เป็นแม่เพื่อรอเศษเงินจากผู้ผ่านทาง ประเด็นนี้ต้องยอมรับว่า ภาพที่ปรากฏมันมีพลังพอที่จะสะกดหัวจิตหัวใจของผู้คนให้คิดอย่างนั้น ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่าเห็นใจเด็กและหญิงเหล่านั้นไม่น้อย
แต่จากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลร่วมสัปดาห์ ทำให้เราได้สังเกตเห็นความผิดปรกติบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อวันที่สองของการสำรวจ คือบริเวณสะพานลอยประตูน้ำเซ็นเตอร์ เราได้พบกับหญิงคนเดิมแต่เด็กที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และ เป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่า บริเวณสะพานลอย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันและเวลาเดียวกัน กลับพบ หญิงอีกคน กับเด็กที่เราพบกับหญิงรายแรกที่บริเวณสะพานลอยย่านประตูน้ำเซ็นเตอร์ และที่ยิ่งน่าสนใจไปกว่านั้น คือในจำนวนห้ารายที่เราพบนั้นมีวิธีการและรูปแบบเหมือนกันและใช้เด็กคนเดียวกัน ภายในระยะเวลาร่วมหนึ่งสัปดาห์ ใน3 พื้นที่ ( ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัย รังสิต )
จากข้อมูลที่เราได้มานั้น พอที่จะประเมินสถานการณ์ได้ว่า การขอทานในครั้งนี้น่าจะมีการ ร่วมมือกันทำเป็นกลุ่ม และทำกันมาเป็นเวลานาน จนเกิดความชำนาญและคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี นอกจาก ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ และรังสิตแล้ว ยังมีอีกหลายๆพื้นที่ ที่ถูกแจ้ง เบาะแสเกี่ยวกับการนำพาเด็กเข้ามาใช้แรงงานในรูปแบบขอทานเข้ามาจากผู้คนทั่วไปและอาสาสมัคร เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเตรียมสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยหากในอนาคตเด็กที่เราพบตามสะพานลอยจะมีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในห้องเรียนหรือสนามเด็กเล่น ซึ่งความหวังที่อยากฉุดรั้งสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์เหล่านี้ให้หลุดพ้นจากวงจรอันโหดร้ายถือเป็นอีกเหตุผลสำคัญไม่น้อยไปกว่าความพยายามที่จะสืบเสาะหาหลักฐานเพื่อยืนยันว่าเด็กเหล่านี้ถูกนำพามาจากเหล่าขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่เราได้นั้นจะถูกนำเสนอต่อกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อให้ช่วยเหลือเด็กต่อไป
เอกวัฒน์ สิมศรี
[FLASH]http://www.youtube.com/v/R1Du_xEfq2U&hl=en_US&fs=1[/FLASH]
ที่มาข้อมูล : www.stop-childbegging.org
Bookmarks