ผมได้เดินทางไปชัยภูมิในช่วงเข้าพรรษา ได้เห็นอีสานบ้านเฮาฝนตกชุ่มฉ่ำ ๆ ชาวไร่ชาวนาได้ทำไร่ทำนากันถ้วนหน้าสงสัยพายุจะเข้า ชาวไร่ชาวนาหน้าชื่นตาบาน
กลิ่นไอของกลิ่นโคลน แม้ว่าวันนี้สาบควายจะหายไป แต่เมื่อมองเห็นทุ่งนาทำให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมา สายฝนยังไม่โหดร้ายจนเกินไป ปีนี้กลับมาเยือนผืนแผ่นดินอีสานอีกครั้ง แม้ว่าจะช้าไปสักนิด แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาเลย
สองสามปีที่ผ่านมาผมสังเกตว่าบ้านเฮาฝนตกต้องตามฤดูกาลดีมาก ๆ สายฝนซึ่งเปรียบเสมือน สายน้ำทิพย์ที่ประโลมผืนไร่ผืนนา ประโลมจิตใจของชาวไร่ชาวนาให้เบิกบานแช่มชื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผู้คนได้กินกุ้งหอยปูปลา บางคนเข้าป่าเก็บผัก เก็บเห็ด เก็บหน่อไม้มากินกัน เหลือก็เอาไปขาย
มองไปทางไหนท้องไร่ท้องนาผืนป่าชุ่มชื้นเขียวขจีไปหมด ผมว่าหากเราช่วยกันรักษาป่าให้คงอยู่ไม่ให้ถูกทำลายมากไปกว่านี้ และช่วยกันปลูกทดแทนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กับทั้งบริหารจัดการเรื่องน้ำให้ถูกวิธี อีสานบ้านของเฮาในอนาคตจะเขียวขจีอย่างแน่นอน
บางพื้นที่ปลูกยางพารากันเต็มไปหมด บรรยากาศเหมือนภาคใต้ไม่มีผิด ผมสังเกตดูใต้ถุนบ้านมีรถไถนา มีรถปิคอัพกันเกือบทุกบ้าน สะดวกและทันสมัยมากขึ้น ในหมู่บ้านมีร้านค้าขายของกินของใช้ บางวันมีตลาดนัด บรรยากาศคึกคักเหมือนชุมชนเมือง
เด็กวัยรุ่นภายในหมู่บ้านก็แต่งตัวทันสมัยเหมือนเด็กในเมือง หลายจังหวัดมีโรงงานอุตสาหกรรม มีรถรับ-ส่งพนักงาน บรรยากาศเหมือนโรงงานแถว ๆ นวนคร หรือบางปะอินไม่มีผิด ใส่ชุดฟอร์มโรงงานเหมือนกัน เปลี่ยนกะกันตลอด 24 ชม.
ทำให้วันนี้อีสานที่เคยหลับ ตอนกลางคืนถนนหน้าบ้านผม มีรถแล่นผ่านตลอดทั้งคืน และผมสังเกตว่าผู้คนในหมู่บ้านมีมากขึ้น บางคนกลับไปทำงานที่บ้านแม้ค่าแรงจะน้อยแต่กลับจากทำงานได้เห็นหน้าพ่อหน้าแม่ ได้กินข้าวกับลูก ๆ และภรรยา มีความสุขและอบอุ่นดี
บั้นปลายของชีวิต หากบุญพาวาสนาส่ง ผมจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่อีสานบ้านเฮาอย่างแน่นอน
Bookmarks