อากาศยามเช้าตรู่ของหน้าฝนเย็นสบาย เมื่อคืนฝนตก

ตลอดคืนฉันนอนหลับสบายที่สุด จะว่าไปแล้วฉันก็หลับสบายทุกคืน นับตั้งแต่กลับมาใช้

ชีวิตที่บ้าน ฉันตื่นเช้าด้วยความกระปรี้กระเปร่าทุกเช้า เช้านี้ก็เช่นกัน ฉันรีบเปิดหน้าต่างสูด

อากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่บ้านแตกต่างจากทิวทัศน์นอกระเบียง

ห้องเช่าในเมืองใหญ่ที่ฉันเคยอยู่ลิบลับ ภูพนมดีที่เคยแห้งมองเห็นก้อนหินชัดเจนเมื่อ

หน้าแล้งที่ผ่านมา เวลานี้เปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่ม ก้อนเมฆลอยต่ำละยอดภู สีขาวของเมฆ

ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ มองคล้ายกับภาพในฝัน ท้องทุ่งระบายด้วยสีเขียวสดเช่นกัน พระ

ธุดงค์ 2 รูปที่จำพรรษาบนภูพนมดี ออกรับบิณฑบาต ท่านเดินมาตามถนนดินเล็ก ๆ จากภู

พนมดีเข้าสู่หมู่บ้าน สีจีวรของท่านช่วยเพิ่มบรรยากาศยามเช้าให้สดใสขึ้นอีกเท่าตัว อีก

ไม่กี่นาทีท่านก็จะเดินผ่านหน้าบ้านฉันไป แม่คงง่วนอยู่กับการเตรียมของใส่บาตรในครัว

บางวันฉันเป็นคนใส่ บางวันแม่ใส่ ถ้าพิเศษเช่นวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวัน

เกิดน้องชาย เราจะใส่บาตรด้วยกัน แม่บ่นว่า “เจ้าของวันเกิดคงไม่ตื่นมาใส่บาตรหรอก”

ฉันไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด นักศึกษามหาวิทยาลัยตื่นเช้าก่อน 10 โมงได้ถือ

ว่า “เทพ” แล้ว (เรียนจบไปทำงานแล้วจะรู้สึก พูดดีไปเถอะ) ...เสียงจากสาวภูธร...เสียงนกกระปูดร้อง ดัง

แว่วมาจากป่าริมห้วย เมื่อ 2 – 3 ปีก่อนจะได้ยินเสียงนกกาเหว่าด้วย แต่ปีนี้ไม่ได้ยินแล้ว

น้าชายก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กลางทุ่ง คงกำลังเก็บเบ็ดที่ตกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนกระมัง ลูกชายตัว

เล็ก ๆ สะพายข้องเดินตามหลัง คล้ายกับพ่อลูก กำลังออกจ่ายตลาดสด ตลาดที่นี่สดจริง

ๆ ผักบุ้ง ผักกระเฉด ยอดอวบขาวกลางสระปลอดสารพิษ เขาเก็บมาฝากที่บ้านฉันประจำ

ชีวิตน้อย ๆ ที่ดำเนินไปตามจังหวะเนิบช้าของเพลงลูกทุ่งฟังสบาย ไม่รีบเร่งเร่าร้อนเหมือน

ดนตรีร๊อค ของชีวิตในเมืองใหญ่ ความสุขที่หลายคนมองข้าม หากคนเราไม่มีความอยาก

ได้ทะเยอทะยาน ชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้คงจะเพียงพอแล้ว แต่มนุษย์ที่จิตใจยังไม่ถูกขัด

เกลากับกิเลสเป็นของคู่กัน ฉันก็เป็นหนึ่งในมนุษย์ที่อุดมด้วยกิเลส

(หรือไขมันดีนะ ...เสียงจากสาวภูธร...) แม้ทุกอย่างรอบตัวน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับชีวิตหญิงเดี่ยว แต่

เหตุใดฉันจึงรู้สึกว่ายังมีบางสิ่งที่ฉันค้นหา แต่ที่น่าฉงนอีกคือฉันไม่ทราบว่าฉันค้นหาสิ่ง

ใด ชีวิตนี้ยังต้องการอะไรอีก...