เมื่อโลกนี้ไม่ใช่ใบเดิม 2

[สาวเมืองกะสิน]

มื่อนี่อ่านเจอบทความของ นิติภูมิ นวรัตน์ เพิ่นเว่าคล้ายๆกันจ้า กับ หัวข้อกระทู้ที่สาวเมืองกะสินตั้งไว้ก่อนหน้านั่น คือ "เมื่อโลกนี้ไม่ใช่ใบเดิม" กะเลยขออนุญาตเอามาแลกเปลี่ยนให้พี่น้องบ้านมหาได้อ่านนำกันอีกหล่ะจ้า อ่านไว้กะบ่เสียหลายเน๊าะพี่น้อง รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง คือจังตำรารบเพิ่นว่าไว้นั่นหล่ะน้อจ้า โลกทุกมื่อนี่บ่ได้กว้างใหญ่ไพศาลคือจังแต่น้อยๆที่เฮาคิดแล้ว ทุกมื่อนี่มีพี่น้องไทยอิสานเฮาไปอยู่ทุกมุมโลกน้อจ้า แถมยังได้สื่อสารถึงกันได้ทันใจอีกต่างหาก กะเลยขอตั้งกระทู้ เป็น เมื่อโลกนี้ไม่ใช่ใบเดิม 2 แต่จริงๆแล้วหัวข้อเพิ่นเขียนเป็นอีกอย่างจ้า ขอยกมาทั้งหมดของบทความเลยเด้อจ้า มาๆมาอ่านกันให้เต็มอิ่มจ้า


หัวข้อ "ต้องเข้าใจจิตวิญญาณของยุโรป"

"วันก่อน ขณะนั่งรถจากสาธารณรัฐเช็ก ผ่านดินแดนสาธารณรัฐสโลวัก เพื่อเข้าไปในสาธารณรัฐฮังการี ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ตรวจข้อสอบของนักศึกษาผู้ยังเข้าใจสับสนระหว่าง Slovak Republic และ Republic of Slovenia เขียนเป็นไทยก็คือ ผู้ยังเข้าใจผิดระหว่างสาธารณรัฐสโลวัก และสาธารณรัฐสโลวีเนีย

สาธารณรัฐสโลวัก บางคนเรียกว่าสโลวะเกีย อันนี้เป็นประเทศเดียวกัน ตั้งอยู่ในยุโรปตอนกลาง และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล เคยร่วมแผ่นดินเดียวกันกับเชโกสโลวะเกีย แต่แยกออกมาเป็นประเทศอิสระเมื่อ พ.ศ.2536

ส่วนสาธารณรัฐสโลวีเนีย เป็นประเทศแถบเทือกเขาแอลป์ อยู่ทางใต้ของยุโรปกลาง ถ้าเอาคาบสมุทรบอลข่านตั้ง สาธารณรัฐสโลวีเนียก็อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทร สโลวีเนียก็เหมือนเขมรนั่นแหละครับ เดี๋ยวตกเป็นของญวน ของไทย บางห้วงเป็นอาณาจักรอิสระ หรือมีสถานะคล้ายอาณาจักรล้านนา ที่ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของพม่า เป็นของไทย บางยุคสมัยได้เป็นอาณาจักรอิสระ จนสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี จึงมีวาสนามาอยู่ร่วมกันกับแผ่นดินสยาม

สาธารณรัฐสโลวีเนียเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี กระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้กลายเป็น 1 ใน 6 สาธารณรัฐที่รวมกันเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย เมื่อ พ.ศ.2534 สโลวีเนียแยกตัวออกมาตั้งเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่

ท่านที่เคยชำนาญด้านยุโรปเมื่อ 20 ปีก่อน ขอเรียนว่า ขณะนี้ท่านน่าเริ่มจะเชยแล้ว เพราะทวีปนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก บางประเทศมารวมกันเป็นชาติรัฐใหม่ อย่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก ตอนนี้รวมกันเป็นประเทศใหม่ที่มีชื่อว่า สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หลายประเทศก็แตกแหลกละเอียด อย่างที่ผมเรียนไปแล้ว ยูโกสลาเวียแตกเป็น 6 ประเทศ เชโกสโลวะเกียแตกเป็น 2 ประเทศ ฯลฯ ตอนนี้มีประเทศน้อยใหญ่อยู่ในทวีปยุโรปทั้งหมด 44 ประเทศ พื้นที่ 22.8 ล้านตารางกิโลเมตร ก็ประมาณ 15.7% ของพื้นที่โลก รวมประชากรทั้งหมดมี 710 ล้านคน ประมาณ 11% ของผู้คนทั้งโลก ถามว่าใหญ่ไหม ก็ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ทวีปเอเชียใหญ่เป็นอันดับ 1 และทวีปแอฟริกาใหญ่เป็น อันดับ 2

ผู้อ่านท่านที่อยากเห็นภาพ 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราในอนาคต ผมขอแนะนำให้ท่านมานั่งรถในทวีปยุโรปดูครับ การเดินทางจากประเทศหนึ่งเข้าไปยังดินแดนของอีกประเทศหนึ่ง รถยนต์วิ่งผ่านเข้าไปได้เลย ไม่ต้องลงรถมาตรวจหนังสือเดินทาง หรือตรวจวีซ่าเหมือนเมื่อก่อน

ผมเชื่อว่าในอนาคต โลกทั้งใบจะคล้ายกันหมด ในแต่ละกลุ่มประเทศจะไร้พรมแดนเหมือนอย่างยุโรป 27 ชาติรัฐในขณะนี้นี่แหละ เดี๋ยวนี้เงินยูโรก็ขยายสมาชิกไปได้มากถึง 12 ประเทศแล้ว แถมสัญชาติสำคัญสัญชาติใหม่ของโลก ก็คือ สัญชาติพลเมืองยุโรป หรืออย่างที่เราเรียกว่า European Citizenship มีการออกหนังสือเดินทางของสหภาพยุโรปแล้วด้วย

ความรู้สึกจากการมายุโรปครั้งนี้ ผมว่าสถานะความเป็นชาติรัฐของประเทศในยุโรปลดความสำคัญลงไปมากแล้ว ผู้คนยึดถือชาติอียูเป็นสรณะ

นอกจากจะฝังความเป็นไทยของแท้ลงในใต้สมองของทรัพยากรมนุษย์ในครอบครัวแล้ว ผมก็เลือกแนะนำให้เยาวชนคนในครอบครัวของผมให้ได้รับความเป็นนานาชาตินิยมตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งพัฒนาการอันนี้สำคัญมากต่อการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต เพราะโลกแคบไปไวมาก มนุษย์คนใดไม่ซาบซึ้งถึงเรื่องของประเทศตัวเอง ไม่รู้รากตัวเอง ไปพร้อมกับความเป็นนานาอารยประเทศ ผมว่าผู้นั้นจะอยู่ในโลกนี้ในอนาคตยากมาก ถึงอยู่ไปก็จะกลายเป็นพลเมืองชั้น 2 ชั้น 3 ของโลก

ไม่ลังเลใจเลย เมื่อลูกชายของผมขอย้ายการเรียนจากจีน มาที่เนเธอร์แลนด์ สิ่งหนึ่งซึ่งผมแนะนำลูกเพิ่มเติมก็คือ มีเวลาว่างเมื่อใด ให้รีบจับรถไฟตระเวนเที่ยวเทียวไปตามประเทศต่างๆ ให้ครบจบหมดทั้ง 44 ประเทศในทวีปยุโรป แต่ขอให้ไปแบบลำบากยากจนหน่อย เพื่อให้ได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของแท้ในแต่ละแห่ง

ที่พ่ออยากให้ลูกเข้าใจก็คือ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ร่วมกันของผู้คนในทวีปยุโรปที่มีมามากกว่า 3 พันปี สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของคนยุโรปในอดีต ตั้งแต่คาบสมุทรสแกนดิเนเวียลงมาถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

อีกสิ่งหนึ่งซึ่งต้องสัมผัสให้ได้ก็คือ อุดมการณ์และค่านิยมที่สำคัญของคนยุโรป โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบ และขอบเขตของเสรีภาพ

และสิ่งที่สมองของลูกต้องแตะให้ถึงก็คือ แนวความคิดเกี่ยวกับรัฐของคนยุโรปที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่ยุคโรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักนิติธรรม ยุโรปยังเป็นต้นแบบของค่านิยมทางสังคมและเศรษฐกิจแบบทุนนิยม สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ฯลฯ อะไรอีกมาก ถ้าลูกเข้าใจยุโรป ก็จะเข้าใจพัฒนาการของโลก

ในอนาคตถึงค่อยตระเวนไปใน 53 ประเทศในทวีปแอฟริกา 47 ประเทศในทวีปเอเชีย ตามด้วยเขตโอเชียเนีย พ่อหมายถึงในทวีปออสเตรเลียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก สุดท้ายถึงค่อยไปโน่น ทวีปอเมริกา เหนือ-ใต้

แต่พื้นฐานสำคัญในวัย 22 ปีอย่างนี้ ต้องทวีปยุโรปก่อน.

นิติภูมิ นวรัตน์

[ไก่น้อย]

โลกกะใบเก่า มีตะเฮาที่เปลี่ยนไป แฮะๆ ขอบคุณสาระดีๆเด้อจ้า