ผมสวย...ด้วยสมุนไพรในครัว

1.ผมแห้งเสียจัดทรงยาก ..
สาวผมแห้งมักจะมีปัญหาหวีจัดทรงยาก ไม่มีสปริงและดูไม่มีน้ำหนักขาดชีวิตชีวา ไม่สลวยสวยงาม ทำให้หนังศีรษะแห้งและเกิดสะเก็ดรังแคง่าย ควรหมั่นบำรุงด้วยการผสมสมุนไพรเพื่อนวดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะง่ายๆ ด้วยตัวเองโคยเลือกสารสกัดจากดอกกล้วยไม้ กระเพรา โสม ขิง ช่วยให้ผมแห้งเสียกลับมามีน้ำหนัก สปริงตัวสวยอีกครั้ง

สูตรน้ำมันมะพร้าว + ไข่ไก่
ใช้น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะตั้งไฟอ่อนผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง ( เฉพาะไข่แดง ) ตีให้เข้ากันจนเนื้อเนียนละเอียด รอจนเย็นลูบให้ทั่วศีรษะ นวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่วทั้งด้านหน้าจรดท้ายทอย ใช้ฝ่ามือขยำๆ ขยี้ๆ ให้ทั่วจนซึมเข้าสู่เส้นผม ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมผมให้มิด อย่าพันรัดแน่นเกินไป หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สระออกด้วยแชมพูอ่อนๆอีกครั้ง ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมจะนุ่มนวลมน้ำหนักและจัดทรงง่าย

สูตรน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอุ่นๆ 2-3 ช้อนโต๊ะ นำมานวดหนังศีรษะหวีและชโลมเส้นผมให้ทั่ว นวดเป็นวงกลมเล็กๆใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะทิ้งไว้ 15 นาที สระด้วยแชมพูอ่อนๆแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้หมด จะช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมามีสภาพดีได้

สูตรไข่ไก่ + นมเปรี้ยว
ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง ทั้งไข่ขาวและไข่แดงผสมกับนมเปรี้ยวครึ่งแก้วตีให้เข้ากัน ชโลมให้ทั่วหนังศีรษะบนผมที่ชุ่มเปียกด้วยน้ำอุ่นแล้ว นวดเป็นวงกลมเล็กๆ ใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้หมดสระด้วยแชมพูอ่อนๆเพียงครั้งเดียว

สูตรไข่ไก่ + น้ำอุ่น
ใช้เฉพาะไข่แดง 1 ฟอง ผสมกับน้ำอุ่นครึ่งแก้วตีให้เข้ากัน ราดศีรษะด้วยน้ำอุ่นให้ชุ่มแล้วชโลมครีมไข่แดงที่เตรียมไว้ให้ทั่ว คลึงหนังศีรษะนวดเป็นวงกลม ทิ้งไว้ 8-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นไม่ต้องสระซ้ำด้วยแชมพูสระผม


2. ผมมีรังแค (เหมือนหิมะมาตกในเมืองไทยงั้นแหล่ะ)
รังแคเป็นปัญหาระดับต้นๆของสาวผมสวยเลยก็ว่าได้ เมื่อไหร่ที่รังแคมาเยือนมักจะมีอาการคันตามมา แถมชอบออกมาแสดงตัวให้เห็นกันแบบจะจะอีก ไม่อยากให้รังแคมาเยือนต้องหมั่นบำรุงหนังศีรษะ

เมืองไทยคงไม่มีวันมีหิมะตกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นใครมีรังแค ไหนจะเสียบุคลิก ไหนจะคันแย่ แนะนำผลมะคำดีควายทุบพอแหลก ต้มในน้ำให้เดือด นำน้ำที่ได้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะทำให้หนังศีรษะสะอาด ป้องกันการเกิดรังแค แถมแก้โรคชันตุได้อีกด้วย

ส่วนใครที่มีอาการคัน ให้นำว่านหางจระเข้ปลอกเปลือก เอาแต่ส่วนที่เป็นวุ้นมาบดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เวลาสระผมให้ขยี้วุ้นว่านหางจระเข้ทาให้ทั่วผมทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ล้างออกให้สะอาด ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดอาการคันได้ชะงัด

สูตรน้ำมะนาว หรือ น้ำมะกรูด
คั้นน้ำมะนาว หรือ น้ำมะกรูดที่เผาไฟเรียบร้อยแล้วนำมานวดหนังศีรษะหลังสระผมด้วยแชมพูเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะช่วยขจัดรังแคอย่างได้ผล


3. ผมร่วง (ว้าย..จะหมดหัวอยู่ละ)
สาวๆที่เส้นผมอ่อนแอหลุดร่วงและขาดง่าย มักจะกังวลเป็นพิเศษ เพราะถ้าร่วงมากอนาคตของเส้นผมก็คงไม่เหลือเลยแม้แต่เส้นเดียว ลองสูตรบำรุงรักษาเส้นผมแบบธรรมชาติด้วยตัวคุณเองดูสิ

สูตรขิง + แครอท + แอปเปิ้ล
ใช้ขิงสดปอกเปลือกหั่นแว่นบางๆ 1 ถ้วย ผสมกับแครอทปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย และแอปเปิ้ลแกะเมล็ดหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ลูก และน้ำ 1 ถ้วย ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน กรองแล้วแช่เย็นทำให้ผมนุ่มสลวย

สูตรว่านหางจระเข้
ใช้ใบว่านหางจระเข้ชนิดแก่จัดมาล้างให้สะอาดใส่เครื่องปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อครีมเจล ราดบนศีรษะที่เปียกชุ่ม ใช้นิ้วมือขยี้เบาๆ คลุมทับด้วยผ้าขนหนูให้มิดชิด หมักทิ้งไว้ 20-30 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูชนิดอ่อนให้สะอาด


4. ผมหยิก (แทบเอาไปขัดหม้อได้เลยอ่ะ)
สาวผมหยิกมักจะมีอาการแห้งและฟู ยิ่งถ้าผมหยิกและหนาด้วยก็จะทำให้ศีรษะดูโตมากยิ่งขึ้น อยากให้ผมหยิกเป็นลอนสลวยสวยเก๋ไม่แห้งฟู หมั่นบำรุงด้วยสูตรต่อไปนี้

สูตรน้ำ + มะนาว
น้ำมะนาวผสมน้ำให้เจือจางนำมาชโลมผมหลังจากล้างน้ำครั้งสุดท้าย ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กรดในน้ำมะนาวจะช่วยให้ไฟเบอร์ในผมยึดเกาะกันได้แน่น ผมจะเรียบขึ้น หวีง่ายขึ้น และสะท้อนแสงไฟได้ดี ทำให้ผมดูเงางาม


5. ผมมัน (แบบว่าจับแล้วลื่นไปเลยทีเดียว)
สาวผมมันมักจะมีปัญหาตามมามากมาย เช่น เป็นสะเก็ดรังแค หนังศีรษะคันง่าย การรักษาความสะอาดของเส้นผมจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด รวมไปถึงการทำทรีตเมนท์ด้วยสูตรธรรมชาติดังที่จะแนะนำต่อไปนี้ รับรองว่าจะช่วยไม่ให้เกิดอาการที่ว่านี้ได้

เลือกสารสกัดจากธรรมชาติ พวก แตงกวา กระเพรา เบอร์กามอท และจูนิเปอร์ ช่วยลดความมันเยิ้มของหนังศีรษะ เส้นผมหลีบแบนได้ หรือใช้สูตรด้านล่าง

สูตรไข่ขาว + น้ำอุ่น
ใช้ไข่ขาว 1 ฟองกับน้ำอุ่น � แก้วตีให้เข้ากัน ราดบนผมให้ทั่ว นวดหนังศีรษะแรงสักนิดทิ้งไว้ 8-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นโดยไม่ต้องสระผมซ้ำ ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผมจะค่อยๆปรับสภาพ และหายมัน

สูตรส้มเขียวหวาน + ไข่ไก่
ปอกไข่ใส่ถ้วยเลือกเอาเฉพาะไข่ขาว 2 ฟอง ผสมกับน้ำส้มเขียวหวาน 2 ช้อนโต๊ะตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาขยี้บนศีรษะที่ราดด้วยน้ำอุ่นจนชุ่มห่อคลุมด้วยผ้าขนหนูให้มิดชิดหมักทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น สระให้สะอาดอีกครั้งด้วยแชมพูอ่อน ช่วยบำรุงหนังศีรษะให้ลดความมันและหายคันได้

สูตรชาดอกมะนาว + โยเกิร์ต
โยเกิร์ตครึ่งถ้วยผสมกับชาดอกมะนาวครึ่งถ้วย นำมาชโลมผมที่ชื้นหมาดๆ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

6. ผมแตกปลาย (ยิ่งกว่างูอีกเพราะมีหลายแฉก)
ปัญหาหนึ่งที่สาวรักสวยรักงามทุกคน ไม่อยากจะเจอเข้ากับตัวเอง โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบทำสีผม ตัดซอยด้วยใบมีดโกน การใช้ครีมนวดที่ขาดประสิทธิภาพ การม้วนผม การใช้ความร้อน การใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมอย่างขาดความระมัดระวัง การแปรงผมขณะก้มศีรษะมากเกินไป และการขาดการเอาใจใส่ในการเล็มปลายผมอยู่เสมอ อยากให้ผมกลับคืนสู่สภาพปกติต้องหมั่นบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ทรีตเมนท์ต่างๆ แต่ถ้าไม่อยากสิ้นเปลือง หันหาวิธีธรรมชาติก็ไม่ผิด

หรือเกิดจากใช้แชมพูที่มีกรดหรือด่างมากเกินไป เลือกสารสกัดจากตะไคร้ น้ำมันมะกอก ลูกมะกรูด ลดอาการแตกปลายได้

สูตรไข่ไก่ + น้ำมันงา + น้ำผึ้ง
ช้ไข่ไก่เฉพาะไข่แดง 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาให้เข้ากัน ใช้น้ำอุ่นราดให้ทั่วศีรษะ จากนั้นค่อยๆชโลมครีมนี้ให้ทั่วศีรษะ ห่อคลุมด้วยผ้าขนหนูหมักทิ้งไว้ 20-30 นาที สระออกด้วยแชมพูอ่อนอีกครั้ง


7. ผมทำสี
ผมทำสีเป็นผมที่อ่อนแอที่สุด นอกจากนั้นยังมีอาการแห้งกรอบ เส้นผมจะมีรูพรุนอยู่ทั่วไป สาวๆที่ชอบทำสีผมจึงควรหมั่นบำรุงรักษาสภาพเส้นผมมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการใช้แชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ

สูตรน้ำมะนาว
นำมะนาว 2 ผลมาคั้นน้ำ ใส่บริเวณโคนผม ทิ้งไว้ 10 นาที เป่าผมให้แห้งสีผมจะเห็นชัดขึ้น

8. มีเหาในผม
สูตรเดิมที่เคยรู้ใบน้อยหน่ายังใช้ได้อยู่ เด็ดมาสัก 8 ใบ โขลกให้ละเอียดผสมน้ำ ทาผมให้ทั่ว เอาผ้าคลุมทิ้งไว้สักครึ่งชม.ค่อยล้างออก สระผมตามอีกครั้ง แต่ระวัง! น้ำน้อยหน่าเข้าตา ขอเตือนว่าแสบมาก ใครไม่มีใบน้อยหน่าแนะนำให้ใช้”ใบสะเดาแก่ ๆ” แทนได้ วิธีการเหมือนกันเป๊ะ


9. ผมธรรมดา
นับว่าเป็นคนโชคดีสุด ๆ แต่ต้องไม่ลืมบำรุงสม่ำเสมอ ไม่งั้นสภาพผมอาจแย่ได้ เลือกที่มีสารสกัดดอกฮอลลี่ฮ็อก กระเพรา อัญชัน มะกรูด ช่วยให้ผมดกดำ เงางามยิ่งขึ้น


ขอคุณข้อมูลจาก : www.formumandme.com , women.thaiza.com