หยาดเหงื่อชาวนา....น้ำตากระดูกสันหลังของชาติ
ดวงอาทิตย์ใกล้สิพ้นขอบฟ้า ทิศบูรพาฟ้าใสส่อง
แสงทองทาทาบแต้มแซมส้มใกล้โผล่มา
เสียงไก่กาขันจ้อ หนาวเดนอ เหมยหมอกย้อยเปียกซุ่ม
พออยากตุ้มห่มผ้านอนขดคู้ผ้าห่มนวม
ตัดใจลุกสวมเสื้อผ้า แขวนข้างฝาเปียกซุ่มเหื่อ
ผ่องขึ้นเกลือด่างพร้อย เทิงฮอยขาดกะผ่องกัน
เป็นชาวนาจำต้องทนอดกลั้น เป็น "กระดูกสันหลัง" ฟังแล้วโก้คักแหน่
ปั้นคันแทขุดก่นไง้ สิเจ็บไข้กะแหม่นทน
ฟ้าวนำฝนและฟ้า ฤดูเดือนปีโตแปรหนึ่ง
ดึงให้ลุกขึ้นสู้ นอนขดคู้อยู่่บ่อเป็น
เข็นชีวิตที่ต่ำต้อย หย่างนำฮอยปู่-ย่า
บ่ิอเคยเห็นดอกพิชซ่า กินปลาร้าแจ่วบอง
กินให้พออยู่ท้อง พอประทังกายได้สู้ต่อ
น้ำตาคลอหน่วยเบ้า ยามอุกเอ้าอั่งใจ
ธกส.กู้ออกมาใช้ ลงทุนไปมิดจี่หลี่
เฮ็ดนาได้ใช้แต่หนี้ บ่อมีมื้อพ้นทุกข์จน
ผลิตผลที่ทำได้ บ่อคุ้มทุนที่ใช้จ่าย
ปีน้ำหลายเผิ่นผัดท่วม ควมสิเว้ากะบ่อมี
ตกบางปีคือตอกย้ำกำขี้ดินไหง่กุ่นๆ
บุญผลาพอส่ำนี้ มีไผบ้างให้เผิ่งพา
ก้มเอาหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินเส้นเอ็นจ่อง
เฮ็ดเท่าผองมื้อเฒ่า “คุณ” ของเจ้าได้ส่ำได๋
จับคัน(รถ)ไถขุดค้น บ่ออาจฝังความจนให้หนีพ้นออกห่าง
โถมอาบเหงื่อต่างน้ำ กินข้าวบ่ายน้ำตา
ข้าวที่ผองชาวนาเฮ็ดได้ ไผเป็นคนกำหนดค่า
เห็นแต่ผู้เผิ่นเป็นพ่อค้า กำหนดค้าค่าแทน
วิถีชีวิตกะอยู่แบบแร้นแค้น แสนเข็ญบ่อมีค่า
จั่งขอจำนรรจา ฝากเป็นข้อคิดไว้ คันไผได้อ่านเห็น
ก่อนสิเป็นเม็ดข้าวแต่ละคำให้ฮู้ว่า
มีน้ำตาหยาดเหงื่อย้อย ผสมข้าวคู่สู่คำ
ขอบคุณเจ้าของภาพ จากอินเตอร์เนต
Bookmarks