สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คนงานเหมืองชิลี 33 ชีวิตที่อยู่ใต้เหมืองหลังเหตุการณ์เหมืองถล่ม ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้ดิน ต่ำในระดับสูง 625 เมตร กำลังลุ้นระทึกที่จะคืนสู่พื้นดินและพบหน้าครอบครัว ในคืนวันอังคารที่ 12 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นนี้ จากปฎิบัติการใช้แท่งแคปซูลเหล็กนำพวกเขาขึ้นสู่พื้นดินทีละคน หลังจากที่พวกเขาต้องเผชิญชะตากรรมถูกฝังอยู่ใต้ดินเป็นเวลา 66 วัน ขณะที่ภรรยา ลูก และครอบครัว คนงานเหล่านี้ กำลังรอคอยคนงานเหล่านี้ในเต้นท์ เช่นเดียวกับชิลีทั้งปท.และทั่วโลกก็กำลังเตรียมฉลองกับเหตุการณ์ช่วยเหลือคนงานเหมืองเหล่านี้
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยประสบความสำเร็จในการทดสอบแท่งแคปซูล หรือ"ฟินิกส์"ในการนำมาลงใต้เหมือง ขณะที่คนงานเหมืองเหล่านี้ต่างสร้างสถิติโลกเป็นคนงานเหมืองที่รอดชีวิตหลังถูกฝังอยู่ใต้ดินจากอุบัติเหตุเหมืองถล่ม และได้ออกกำลังกายเพื่อให้พวกเขาไม่อ่อนแรงและพร้อมที่จะรับปฎิบัติการช่วยชีวิตจากแท่งแค๊ปซูล
โดยในปฎิบัติการช่วยเหลือที่จะมีขึ้น ประเมินว่าจะใช้เวลาราว 48 ชม.ในการนำคนงานเหมืองทั้งหมดขึ้นสู่พื้นดิน โดยการช่วยเหลือคนงานแต่ละคนคาดว่าจะใช้เวลาราวคนละ12-15 นาที ซึ่งพวกเขาจะต้องสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดกระทบสายตาซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพวกเขาหลังจากที่ต้องอยู่ใต้ดินโดยไม่เห็นตะวันมาตลอดเวลา ทั้งนี้ ทางด้านประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนร่า ยังมีแผนจะที่ร่วมชมปฎิบัติการช่วยเหลือคนงานเหมืองเหล่านี้ด้วย
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์มติชน
วิศวกรไทยมั่นใจปฎิบัติการสำเร็จแน่นอน
"วชิรพงศ์ นาสารีย์" วิศวกรไทยหนึ่งในทีมช่วยเหลือคนงานเหมืองที่ชิลีมั่นใจช่วยเหลือคนงานทั้ง 33 สำเร็จ ระบุใช้เวลาปฏิบัติการ 2 วันนายวชิรพงศ์ นาสารีย์ วิศวกร หนึ่งในสองคนไทยที่ร่วมในทีมช่วยเหลือ 33 คนงานเหมืองที่ชิลี ซึ่งติดอยู่ใต้ดินมาแล้ว 69 วัน ให้สัมภาษณ์ทีวีไทย ว่าทีมช่วยเหลือได้เจาะรูเพื่อหย่อนแคปซูลลงไปช่วยเหลือคนงาน โดยเจาะไว้ 2 รู เพื่อเป็นแผนสำรองหรือหากมีเหตุติดขัดสุดวิสัย เช่นผนังถล่มหรือสิ่งอื่นใด ตนเองเป็นช่างเทคนิค โดยบริษัทที่ทำงานอยู่นั้นเป็นบริษัทตรวจสอบงานเชื่อม เป็นสาขาเทคนิคเมดตาเสด ทั้งนี้การช่วยเหลือมีความหวังมากเพราะมีแผนสำรองไว้หลายแผน สำหรับงานเชื่อมนี้ เป็นหน้าที่เล็กๆของงานในทีมช่วยเหลือ คือดูการเสริมเหล็กในรอยเชื่อมต่อ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่การทำงานทั้งหมดทุกทีมไม่มีใครคิดว่าอยู่คนละทีม คนละบริษัท คิดเหมือนกันว่าต้องช่วยทั้ง 33 คน กลับบ้านให้เร็วที่สุด วันนี้มีการถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก เพราะเชื่อว่าวันนี้จะสำเร็จ
นายวชิรพงศ์ กล่าวต่อไปว่า การช่วยเหลือจะส่งคนลงไปดูแลสุขภาพคนงานเหมืองก่อน 2 คน ทำงาน 12 ชั่วโมงแล้วผลัดอีกทีมลงไป สำหรับความเร็วแคปซูลคือ 3 เมตรต่อวินาที จากก่อนนี้ใช้ 1 เมตรต่อวินาที จึงไม่แน่ใจว่าปรับเวลาหรือไม่ สำหรับความกังวลของทีมช่วยเหลือคือห่วงภายในนอุโมงค์ที่เจาะอาจไม่สมบูรณ์ มีความเสี่ยงถล่ม อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้
มีรายงานเพิ่มเติมว่าขณะนี้เวลาที่ประเทศชิลีคือ 20.30 น. กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มการช่วยเหลือ สำหรับแคปซูลที่ใช้ขนส่งคนงานนั้นประดิษฐ์ครั้งแรก ใช้ชื่อว่า "ฟินิกซ์" ซึ่งเป็นชื่อสัตว์ในเทพตำนาน เป็นเทพแห่งไฟ สัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน หมายถึงการนำพาชีวิตคนงานเหมืองขึ้นมามีชีวิตใหม่ ทั้งนี้ถ้าไม่ผิดพลาด ปฏิบัติการจะเสร็จภายใน 2 วัน คาดว่าคนแรกที่ขึ้นสู่ผิวโลกคือคุณพ่อวัย 31 ปี โดยการขนส่งใช้เวลา 15-20 นาทีต่อรอบ
ที่มาข้อมูล :หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Bookmarks