หนึ่งเหตุการณ์ตอนน้ำท่วม .จ.พัทลุง

[บ่าวเพิก]

อีกหนึ่งเหตุการตอนน้ำท่วมหนักที่หาดใหญ่ คือพายุเข้าที่จ.พัทลุงบางจุด ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่การสื่อข่าวมีการนำเสนอน้อย แม้แต่การให้ความช่วยเหลือแทบจะไม่มีเลย เพราะทุกคนทุกหน่วยงาน มุ่งหน้าลงสู่หาดใหญ่ทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านถึงกับบ่นน้อยเนื้อต่ำใจมากในครั้งนี้...มีรายหนึ่งที่ได้เข้าไปเจอมา เขาบอกว่า สวนยาง 30 กว่าไร่ เหลือไม่ถึง 5 ไร่ อีกหนึ่งราย 18 ไร่ ล้มหมดเลยเป็นความสูญเสียที่มากมายหนัก..และยังมีอีกมากมายที่ได้รับความเสียหายในลักษ์ณะนี้..

จากการให้สัมภาษณ์ของ รมว.วัฒนธรรม และส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์

นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม และส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พัทลุง ว่า ขณะนี้สวนยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดได้รับความเสียหาย ในเบื้องต้นกว่า 1 แสนไร่ ซึ่งตนได้ส่งข้อความถึงนายกรัฐมนตรีว่าความเสียหายในเบื้องต้นของยางพารามีทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งคิดเป็น 18 % จากพื้นที่สวนยางทั้งหมด 8 แสนไร่ และคาดว่าความเสียหายของยางพาราในส่วนพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 20-25 % ซึ่งยังไม่พ้นวิกฤติ ทั้งนี้นายกฯได้บอกว่าต้องคิดวิธีเยียวยาสวนยางพาราเพราะเป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็เห็นด้วยสมมติว่าไม้ยืนต้นธรรมดาอายุ 7 ปี กับยางพาราอายุ 7 ปี จะไปเยียวยาเท่ากับไม้ยืนต้นธรรมดาไม่ได้

นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์การชดเชยที่รัฐบาลให้กับชาวไร่ที่ปลูกพืชนั้น ตนเห็นว่ามีการคิดเกณฑ์ต่อไร่น้อยเกิน ซึ่งจะต้องปรับวิธีการชดเชยยางพาราเสียใหม่ เพราะตนได้พบกับนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ท่านก็เห็นด้วยกับตนว่าต้องคิดสูตรเยียวยายางพาราใหม่ และตนได้เชิญนักวิชาการขององค์การสงเคราะห์การทำสวนยางมาพูดคุย เขาก็เห็นว่าต้องมีวิธีเยียวยาใหม่เช่นกัน แต่รายละเอียดตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ ต้องรอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสรุปออกมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาว จ.พัทลุง อยากได้ถือว่าเป็นมาตการเร่งด่วนล่วงหน้า คือกระเบื้องมุงหลังคา และเลื่อย เพราะไม้ไปทับบ้านและกีดขวางการจราจรบนท้องถนนจำนวนมาก จะใช้กำลังคนก็คงไม่ไหว จึงเห็นว่าน่าจะใช้เลื่อยเป็นเครื่องทุนแรง นอกจากนี้เมื่อยางพาราโค่นล้มจำนวนมาก พ่อค้าที่ไปรับซื้อไม้ยางก็กดราคาลง เนื่องจากเมื่อยางพาราล้มน้ำในต้นยางก็จะระเหยไปทำให้เนื้อไม้แห้ง น้ำหนักลด จึงขายได้ราคาไม่ดี ทำให้ชาวสวนยางเสียเปรียบ ตนจึงได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯพัทลุง เพื่อประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯในเรื่องดังกล่าว

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า ความจริงแล้ว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น้ำท่วมไม่กี่วันก็จะลด ซึ่งถือเป็นอย่างนี้เกือบทุกปี แต่ที่พัทลุงนั้นไม่ใช่ นี่คือความผิดพลาดของสื่อที่ไปเสนอข่าวหาดใหญ่ เพราะความจริงแล้วจังหวัดอื่นๆ ก็ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน และใน จ.พัทลุง ก็มีกองพันทหารซ่อมบำรุงกับกองพลพัฒนาอยู่ด้วย แต่ก็ถูกระดมไปช่วย อ.หาดใหญ่ เสียหมด จึงไม่มีทหารมาช่วยในพื้นที่เลย ตนจึงได้ประสานไปยังผู้บังคับการกองพลพัฒนาว่าให้เดินทางกลับมาช่วยในพื้นที่ ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะถอนกำลังพลมาดูแล จ.พัทลุง

ถามว่า ทำไมไม่ประสานไปยังรัฐบาล หรือศูนย์อำนวยการแก้ไขน้ำท่วมของทำเนียบฯ ว่าก่อนที่จะเดินทางไปหาดใหญ่ก็ให้แวะช่วยเหลือ จ.พัทลุง ก่อน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าต้องมีการกระจายกำลังในการช่วยเหลือและของทั้งหมดที่ช่วยเหลือก็ไปลงหาดใหญ่เสียหมด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในส่วน จ.พัทลุง ตนได้ลงไปอยู่ในพื้นที่เพื่อประสานกับแต่ละหน่วยงาน โดยครึ่งวันเช้าจะอยู่ที่กทม. ส่วนช่วงบ่ายก็จะเดินทางไป จ.พัทลุง และกลางคืนก็ไปจัดรายการวิทยุเพื่อรับแจ้งทางโทรศัพท์จากชาวบ้านว่าได้รับความเสียหายตรงไหนบ้าง ตนทำเป็นประจำอย่างนี้ตั้งแต่ช่วงที่ จ.พัทลุง ประสบปัญหาดังกล่าว รวมทั้งเรื่องของระบบไฟฟ้า เพราะถ้าไฟฟ้าดับก็ส่งผลถึงระบบประปา และวิถีชีวิตของชาวบ้านด้วย

จาก ISN

พายุถล่ม1,400ครัวพัทลุง ยังไม่มีใครช่วย
ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะหมาก และตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง จำนวน 1,400 ครัวเรือน ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังโดนพายุดีเปรสชั่นถล่มเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งบ้านเรือนพังเสียหาย สวนยางพาราล้มระเนระนาด ระบบสาธารณูปโภคถูกตัดขาด ถนนหลายสายยังถูกทับด้วยต้นไม้ และจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการดูแลจากส่วนราชการ

โดยชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า ผ่านมา 6 วัน แล้วยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล และให้การช่วยเหลือ ในการซ่อมบ้านเรือน ที่ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องซ่อมบ้านกันเองตามอัตภาพ พร้อมทั้งเรียกร้องให้การไฟฟ้า เร่งเดินสายไฟแล้วปล่อยให้ชาวบ้าน ซึ่งจนถึงขณะหากไฟฟ้า ใช้การไม่ได้เครื่องสูบน้ำมาผลิตน้ำประปา ก็สูบน้ำไม่ได้เช่นกัน จึงต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก

ในขณะที่ชาวบ้านหมู่ 3 ม.10 ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน ได้รวมตัวกันปิดถนนเข้าหมู่บ้าน หลังได้รับการทอดทิ้งจากราชการ ที่ไม่เข้ามาเหลียวแล โดยเรียกร้อง ให้เร่งแก้ปัญหาไฟฟ้าและน้ำประปา ส่วนเรื่องอาหารชาวบ้านหากินกันเองได้

Read full story : http://www.innnews.co.th/local.php?nid=253263



นีคือความเป็นจริงอีกมุมหนึ่งทีเกิดขึ้นที่จ.พัทลุง

[ขอจองในใจ]

รุ้ง ก้อมีเพื่อนอยู่แถวนั้น เขาไม่ค่อยเชื่อว่าน้ำจะท่วมค่ะ เลยไม่ได้เตรียมตัวตั้งรับกัน
เป็นคำพูดที่ เพื่อน ๆ บอกให้รุ้งฟัง บ้านเพื่อนรุ้งก้อโดนน้ำท่วมเหมือนกันค่ะ