กำลังแสดงผล 1 ถึง 6 จากทั้งหมด 6

หัวข้อ: เป็นบ้านเล็ก...ใครว่าสบาย

  1. #1
    ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สัญลักษณ์ของ sert1964
    วันที่สมัคร
    Nov 2007
    กระทู้
    314

    เป็นบ้านเล็ก...ใครว่าสบาย

    เป็นบ้านเล็ก...ใครว่าสบาย (Lisa ฉ.27/2552)
    โดย อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช
    น.บ., น.บ.ท., น.ม.(กฎหมายมหาชน)
    คุณผู้อ่าน Lisa ครับ ขึ้นชื่อว่าเมียแล้วเนี่ย คุณผู้ชายทั้งหลายคงรู้สึกรัก เคารพและบูชาเสมือนเป็นผู้บังคับบัญชาทีเดียว เคยมีรุ่นน้องที่ทำงานกับผมคนหนึ่งบอกว่าเมื่อพูดถึงเมียจะคิดถึงภาพผู้หญิงอ้วนๆ นุ่งกระโจมอก ใส่หมวกคลุมผม ถือขันน้ำพร้อมจะเขวี้ยงมาทางคุณผู้ชาย (หลังจากที่เธอจับได้ว่าสามีหรือผัวเธอนั้นเม้มเงินเดือนไว้เอง) ส่วนเมียน้อยนั้นเอวบางร่างน้อย พูดจาไพเราะคะขาหวานหู พร้อมกับยื่นแก้วน้ำเย็นเจี๊ยบส่งมอบให้คุณผู้ชาย แหม พูดเสียเห็นภาพเลยครับ แต่ถ้าเราไปถามคนที่ส่งเสริมการมีผัวเดียวเมียเดียวอย่างคุณพี่ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช แล้วเธอคงไม่ได้เห็นด้วยกับรุ่นน้องที่ทำงานผมแน่นอนครับ (ฮา)

    เรื่องเมียหลวงเมียน้อยเป็นเรื่องของมุมมองครับ ถ้าไปถามคนในยุคโบราณก็อาจจะบอกว่าการมีภรรยามากคือการมีบริวาร แต่ถ้าในยุคนี้แล้วถ้าไม่รวยจริงๆ ก็เลี้ยงเมียไม่ได้แน่นอนครับ เพราะค่าครองชีพสูงเหลือเกิน ที่สำคัญคนที่มารับบทเป็นเมียน้อยในสังคมไทยต้องเผชิญกับความลำบากพอสมควรครับ เพราะกฎหมายไทยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวเดียวมากกว่าการกระจายความรักไปหลายๆ บ้านนะครับ ดังนั้นการเป็นคุณบ้านเล็กในสังคมไทยนั้นลำบากน่าดูชมเลยทีเดียว

    ระวังจะถูกฟ้อง…เรียกค่าเสียหาย
    นอกจากคุณเมียน้อยจะถูกค่อนขอดจากสังคมว่า “แอบแบ่งสามีชาวบ้าน” หรือไม่ก็ “หน้าตาก็ดี ไม่น่าจะมาแย่งสามีชาวบ้านเลย” หรือ “ไม่มีปัญญาจะหาสามีเองแล้วเหรอ” ฯลฯ สารพัดที่จะถูกค่อนขอด ยังๆ ไม่พอครับวันดีคืนร้ายถ้าภรรยาหลวง มีหลักฐานว่าคุณเป็นเมียน้อยของสามีเธอ คุณเมียหลวงสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่าเธอมีความสัมพันธ์กับสามีชาวบ้านในทำนองชู้สาวตามมาตรา 1523 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้เลยนะครับ

    ถามว่าหลักฐานต้องชัดเจนแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า เช่น มีพยานบุคคลที่เป็นเพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัวสามี หรือผู้บังคับบัญชาของสามี พยานเอกสารหรือวัตถุต่างๆ เช่น จดหมายรัก หรือSMS หรือวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง หรือการบันทึกเสียงสนทนาที่ชัดเจนครับ นอกจากนี้หลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์ ต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่นมีพยานเห็นหลายคนว่าทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกันสองต่อสองเป็นประจำ ออกงานด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันและแสดงออกว่ามีความสัมพันธ์กัน จนคนทั่วไปเข้าใจได้อย่างนั้น ถ้ามีหลักฐานพยานลักษณะนี้ภรรยาหรือสามีที่เสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้

    ส่วนค่าเสียหายนั้นก็ขึ้นอยู่กับฐานานุรูปของคุณภรรยาหลวงหรือสามีแหละครับว่า เขาหรือเธอมีฐานะทางสังคม เศรษฐกิจเช่นไร เช่น เป็นบุคคลสำคัญแค่ไหน มีตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างไร และการที่สามีของเธอนั้นมีภรรยาน้อย ทำให้เธอสูญเสียหรือได้รับความเสียหายเช่นไรบ้าง ซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้นศาลจะเป็นผู้พิจารณาครับ

    สัญญาจ่ายค่าเลี้ยงดูเมียน้อย...ถือเป็นโมฆะ

    นอกจากจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่คุณเมียน้อยไปแย่งสามีชาวบ้านแล้ว บางครั้งการคิดถึงตัวเธอเองในภายภาคหน้า เช่นอาจจะกลัวว่าคุณสามีอาจจะไปมีเมียน้อยคนใหม่ๆๆๆ อีก คุณเมียน้อยเธอก็เลยจับมือสามีทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า “ค่าจ้างเป็นเมียน้อยเดือนละสี่หมื่นบาท” อย่างน้อยจะได้มีหลักประกันว่า เขาจะอุปการะเลี้ยงดูเราต่อไป

    หลังจากนั้นเป็นไงนะเหรอครับ ปรากฏว่า ผู้ชายไปมีคนใหม่จริงๆ และไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทั้งที่ได้เขียนเช็คให้เราล่วงหน้าตั้ง 20 ฉบับ ซึ่งเด้งหมด ทั้งทวงถาม ทั้งเรียกร้องขอให้รับผิดชอบอย่างไร ฝ่ายชายก็ไม่ยอม เพราะฉะนั้นก็เลยเอาคดีนี้ไปฟ้องศาลให้บังคับคุณสามีให้ยอมจ่ายเงินตามเช็คแต่ละเดือนมาเสียโดยดี

    ข้อตกลงในการเป็นเมียน้อย …โมฆะ

    เมื่อเอาเรื่องไปฟ้องศาล ปรากฏว่าเรื่องนี้กฎหมายไม่คุ้มครองครับ เพราะตามกฎหมายไทยแล้วเขาบัญญัติให้คู่สมรสมีเพียงคนเดียวครับ คือมีผัวเดียวเมียเดียวถ้าใครมาเป็นเมียน้อยหรือจดทะเบียนสมรสซ้อนกฎหมายเขาถือว่าเป็นโมฆะ ไม่มีผลในทางกฎหมาย ศาลเขาจึงให้ความเห็นว่า สัญญารับจ้างเป็นเมียน้อยเป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะ เมื่อสัญญาตกเป็นโมฆะ เช็คที่ออกให้เพื่อชำระหนี้ค่าจ้างเป็นเมียน้อยจึงกลายเป็นโมฆะเพราะเป็นการชำระหนี้ที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีไปด้วย

    เห็นไหมครับว่ากฎหมายก็ไม่เข้าข้างภรรยาน้อย ดังนั้นถ้าจะตกลงเป็นภรรยาน้อยของใครและจะขอค่าอุปการเลี้ยงดูกันอย่างไรนั้น ต้องตกลงกันแล้วรับเงินทองหรือข้าวของกันสด ๆ เห็นๆ จะๆ ทันทีเลยนะครับ เช่น ขอบ้านหลังหนึ่ง คอนโดมีเนียม 1 หลัง รถ 1 คัน เงินสด 3 ล้านบาท อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง สัญญาไม่ต้องทำครับเพราะว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์เนื่องจากเป็นโมฆะ เรียกกันว่าต้องรับกันสด ๆ งดรับเช็คและสินเชื่อทุกประเภทเลยนะครับ
    ถ้าสามีไม่รับรองบุตร...ลูกไม่มีสิทธิได้มรดก

    เนื่องจากว่าโดยส่วนใหญ่แล้วคุณสามีก็มักจะจดทะเบียนสมรสกับคุณภรรยาหลวงไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งแม้คุณเมียน้อยจะถูกหลอกให้ไปจดทะเบียนสมรสซ้อน ใบทะเบียนสมรสที่ซ้อนขึ้นมาก็เป็นโมฆะ ครับ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อคุณเมียน้อยมีลูกกับสามี แถมสามีไม่จดทะเบียนรับรองบุตรอย่างถูกกฎหมาย แบบนี้ลูกนอกสมรสของคุณภรรยาน้อยก็ไม่มีสิทธิในการรับมรดก เงินบำเหน็ญบำนาญต่างๆ จากบิดา ยกเว้นคุณสามีรับรองบุตรโดยพฤตินัยที่ชัดเจน เช่น จัดงานเลี้ยงรับรองบุตรต่อคนภายนอก หรือศาลมีคำพิพากษาว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของสามีเช่นกัน (กรณีนี้ก็คือ คุณภรรยาน้อยไปร้องต่อศาลให้สามีรับรองบุตรของเธอครับ)

    ไม่มีสิทธิไปยุ่งเกี่ยวกับ...สินสมรสของสามี
    ใน ก.ม.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 1476 ระบุว่า สามีและภรรยา (ในที่นี้คือคุณสามีและคุณภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายครับ) ต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งในกรณีดังต่อไปนี้ (1) – (8) เช่น การขายฝาก, ให้เช่าซื้อ, จำนอง, ให้กู้ยืมเงิน, ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี เป็นต้น เพราะสิทธิต่อสินสมรสของภรรยาและสามีที่แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นมีเท่าเทียมกันคือคนละครึ่งครับ

    ในกรณีที่คุณสามีนึกเอ็นดูและสงสารภรรยาน้อยกลัวจะตกทุกข์ได้ยากในภายภาคหน้า ก็เลยเซ็นยกบ้านให้เมียน้อยแต่เพียงฝ่ายเดียว (แอบทำ) หรือโดยปราศจากความยินยอมของคู่สมรส (ซึ่งแน่นอนครับว่าไม่มีเมียหลวงคนไหนจะใจกว้างเป็นแม่น้ำขนาดนั้น) คุณภรรยาหลวงก็อาจสามารถฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ภายใน 1 ปี หลังจากทราบเรื่องราว หรือภายใน 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ทำนิติกรรมครับ เว้นแต่ว่าคุณภรรยาหลวงจะได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้นว่าเต็มใจให้จ๊ะ ซึ่งในความเป็นจริงผมว่าเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นครับ

    ระวังความผิด...รับของโจร
    สองสามปีก่อนมีข่าวที่สามีขโมยแหวนเพชรของเมียหลวงไปให้เมียน้อยเฉยเลยครับ (กระจายรายได้อีกแล้ว) ส่วนคุณเมียน้อยรู้ทั้งรู้ว่าเป็นสมบัติของเมียหลวง เธอก็ยังรับไว้หน้าตาเฉย แบบนี้คุณเมียน้อยมีความผิดเต็มๆ ฐานรับของโจร ตาม ก.ม.อาญามาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับครับ ส่วนคุณสามีตัวร้ายที่คอยแต่จ้องดูว่าภรรยาเผลอเมื่อไหร่ก็ขโมยแหวนเพชรของภรรยาไปให้เมียน้อยเช่นนี้ ในทางกฎหมายสามีท่านนี้มีความผิดฐานลักทรัพย์ แต่เนื่องจากการที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามีก็เลยไม่ต้องรับโทษครับ เพราะถือว่าสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันย่อมเป็นบุคคลคนเดียวกันครับ…เห็นไหมครับว่ากินน้ำใต้ศอกแค่ไหน

    เรื่องเมียน้อยเมียหลวงเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนครับ เพราะเกี่ยวข้องกับความสุขสงบของสังคม หลายๆ ท่านอาจจะตั้งคำถามว่าดูแล้วกฎหมายไทยช่างไม่ยุติธรรมกับเมียน้อยหรือเปล่า เพราะทุกสิ่งทุกอย่างทางกฎหมายในโลกของเมียน้อย โดยเฉพาะเรื่องสิทธิต่างๆ นั้นดูตีบตันไปหมด แน่นอนครับว่าสิทธิที่จะถูกรับรองในทางกฎหมายนั้น ต้องไม่ไปขัดกับของผู้อื่น ดังนั้นเมื่อสิทธิของคุณภรรยาน้อยไปขัดต่อสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายของภรรยาหลวงบวกกับแนวความคิดในการบัญญัติกฎหมายครอบครัวที่เน้นความสุข สงบ สันติภายในครอบครัวแบบผัวเดียวเมียเดียว...การเป็นบ้านเล็กหรือภรรยาน้อยจึงลำบากมากกว่าสุขสบายครับ

    ไม่ได้เอาใจใครเป็นพิเศษนะครับ เป็นบ้านเล็ก...ใครว่าสบาย
    ขอบคคุณท่าน อ.ประมาณฯเจ้าของกระทู้ครับ

  2. #2
    พ่อครัวแม่ครัวบ้านมหา สัญลักษณ์ของ สาวบ้านแต้
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    กระทู้
    1,024
    บล็อก
    28
    เฮ้อ....
    สงสารทั้งเมียหลวง เมียน้อย เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิง ที่ชาตินี้มาพบกับผู้ชายที่มักมาก ไม่รู้จักพอ
    (เฉพาะกรณีที่ผู้ชายเจ้าชู้ หลอกว่าไม่มีเมีย แล้วไปพัวพันหญิงอื่นนะคะ)

  3. #3
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ ข้าวต้มมัด
    วันที่สมัคร
    Aug 2010
    กระทู้
    986
    ไม่ขอรับตำแหน่งทั้งสองอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเมียน้อยหรือเมียหลวง
    ขอเป็นเมียคนเดียวของคนที่สามีเรารัก ที่สามารถ ควบคุม ประคับประคอง
    ชีวิตคู่ให้ตลอดลอดฝั่งและถึงจุดหมายปลายทาง เขาฝากหวังไว้กับเรา
    เราก็ฝากหวังไว้กับเขา ให้มันตายซากัน เพิ่นจึงเอิ้นที่สุดของการแต่งงานจ้า

  4. #4
    Banned

    วันที่สมัคร
    Oct 2010
    กระทู้
    757
    บล็อก
    4
    ถ้าสามารถพึ่งพาตัวเองได้ อยู่คนเดียวสบายใจ สบายกายมากกว่า

  5. #5
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ คนบ้านใกล้
    วันที่สมัคร
    Nov 2010
    กระทู้
    6
    อ้างถึง......

    ถามว่าหลักฐานต้องชัดเจนแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า เช่น มีพยานบุคคลที่เป็นเพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัวสามี หรือผู้บังคับบัญชาของสามี พยานเอกสารหรือวัตถุต่างๆ เช่น จดหมายรัก หรือSMS หรือวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง หรือการบันทึกเสียงสนทนาที่ชัดเจนครับ นอกจากนี้หลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์ ต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่นมีพยานเห็นหลายคนว่าทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกันสองต่อสองเป็นประจำ ออกงานด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันและแสดงออกว่ามีความสัมพันธ์กัน จนคนทั่วไปเข้าใจได้อย่างนั้น ถ้ามีหลักฐานพยานลักษณะนี้ภรรยาหรือสามีที่เสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้

    ขอบคุณสำหรับข้อกฎหมายน่ารู้ข้อนี้ค่ะ เมื่อสามปีที่แล้วคนบ้านใกล้กะเคยพ้อเหตุการ์แบบนี้คือกัน แต่บ่ได้ฟ้องร้อง หรือเอาผิดผู้ได๋ดอกค่ะ คึดซะว่าเบิดวาสนาต่อกันท่อนี้กะเลยปล่อยเพิ่นไปให้อยู่กับคนที่เพิ่นคึดว่า เพิ่นสิมีความสุขหลายก่ออยู่กับเฮา

  6. #6
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Dec 2009
    กระทู้
    196
    อืม พึ่งรู้นะคะเนี่ย ขอบคุณค่ะ เป็นกฏหมายที่น้อยคนจะรู้ หวังจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนจะอยู่ในตำแหน่งไหน ดูอนาคตก่อน 5555

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •