หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 16

หัวข้อ: ..รอยรัก รอยอดีต ตอน อวสาน...

  1. #1
    มิสบ้านมหา 2010
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ เขมราฐ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    กลางท่งเมืองเขมฯ
    กระทู้
    1,946

    ..รอยรัก รอยอดีต ตอน อวสาน...

    ตอนอวสาน เด้อค่ะ ตามคำเรียกร้องค่ะ

    ตั้งแต่วันที่ทิดมาไปกินข้าวแลงบ้านแพทย์ฮงกลับมา เขาครุ่นคิดที่จะหาวิธี

    ถามความในใจสาวเปี่ยง หล่อนได้ผูกสมัครรักใคร่ใครไว้ในใจหรือไม่ หรือหล่อนรอคอย

    หนุ่มที่จะตามมาจากบ้านหนองแสงหรืออย่างไร ด้วยใจที่ร้อนรุ่มเขาจึงตัดสินใจเข้าไปถาม

    หล่อนในวันหนึ่งที่หล่อนออกมาถางป่าช่วยพี่ชาย “เหมื่อยบ่เปี่ยง” แม้จะเตรียมตัวมา

    อย่างดี แต่ด้วยความที่เป็นคนพูดน้อย ทั้งยังอายุอานามห่างจากสาวเปี่ยงเกือบรอบปี

    นักษัตร ทำให้เขาเอ่ยได้เพียงเท่านี้ สาวเปี่ยงเมื่อได้ยินทิดมาถาม จึงตอบว่า “เหมื่อยกะ

    อดเอาดอกอ้ายทิด” ทิดมาได้ฟังดังนั้นก็หันหลังเดินดุ่ม ๆ กลับนาตนเองไป เด็กน้อยลีที่

    เฝ้ามองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เห็นพี่สาวกับทิดมาพูดคุยกันเพียงสองสามคำจึงได้วิ่งเข้ามา

    หาพี่สาว “ข่อยว่าอ้ายทิดมาอยากมาคุยนำเจ้าเด้เอื้อยเปี่ยง มื่อมากินข้าวแลงเฮือน

    เฮาเพิ่นกะแนมหา ข่อยถามว่าแนมหาเจ้าบ้อ เลาผัดว่าหาอ้ายเลียง” สาวเปี่ยงที่ได้ฟัง

    เรื่องราวของทิดมาจากการบอกเล่าของแพทย์ฮงผู้พ่อ เลียงพี่ชาย ในใจของหล่อนก็เห็น

    ใจสงสารเขาเรื่อยมา จนบางครั้งเจ้าหล่อนก็แอบมองตามเขาด้วยสายตาเห็นใจ เข้าใจ จน

    นานวันเข้าหล่อนมีใจห่วงใยเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนหล่อนไม่รู้ตัว ที่หล่อนไม่สนใจหนุ่ม

    น้อยใหญ่ที่เพียรมาจ่ายผญา เป่าแคน เข้าหู ด้วยแอบหวังว่าสักวันหนึ่งทิดมาสร่างซาจาก

    ความเศร้าโศกเรื่องลูกเมียแล้ว จะมีใจต่อหล่อน เมื่อได้ฟังน้องชายบอกอย่างนี้ ก็ให้

    สะเทิ้นอาย “มึงอย่าเว้าแนวนี่ให้อีพ่อได้ยินเด้อบักลี เป็นเด็กน้อยหัดบ่ดีสำมะแจ๋” ปากต่อ

    ว่าน้องชาย หากในใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำ วันทั้งวันหล่อนเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่าทิดมาเดินมาถาม

    หล่อนว่าเหนื่อยไหม แล้วจากไปนั้นหมายถึงสิ่งใด ทิดมาเมื่อได้ไปพบหน้าสาวเจ้าพูดคุย

    เพียงสองสามคำใจเขา อยากถามหล่อนให้แน่ชัด หากหล่อนไม่ได้รอหนุ่มบ้านไกล ไม่มี

    ใครจับจองใจหล่อน เขาจะมีโอกาสสานไมตรีกับหล่อนได้สักกี่มากน้อย คิดหาวิธีที่จะได้

    พูดคุย จนในที่สุด เขาจึงได้ข้อสรุป ทิดมา อดีต ฮ้อยมา จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ฮงใน

    เย็นวันหนึ่ง “มาหยังแหน่ล่ะทิด แล้วแลงแล้วบ้อ” แพทย์ฮงเอ่ยถามเมื่อเห็นทิดมาขึ้น

    บันได มา “ลูกน้องเก่าเมือยามบ้านได้ยาเส้นมาข่อยเลยเอามาแบ่งพ่อแพทย์สูบ” ยาเส้น

    ที่เขาพูดถึงนั้นแท้จริงเขาเก็บจากสวนที่ตนเองปลูกไว้แล้วบ่มเองจนได้ที่ แต่หารู้ไม่

    ว่า “ข่อยบ่สูบยาเส้นตั่วทิด บักเลียง บักเที่ยงมันสูบอยู่เอาให้มันสา”

    เมื่อได้ฟังแพทย์ฮงกล่าวเขาจึงได้แต่กระดากอาย แพทย์ฮงนั้นพอจะทราบว่าทิดมามีใจ

    ต่อลูกสาวตน และเขาก็ชื่นชมในความมานะ อุตสาหะ และไมตรีของทิดมา หากแต่เขา

    เป็นฝ่ายหญิงหากจะกล่าวสิ่งมากเกรงจะไม่งาม เขาจึงรอว่าเมื่อใดที่ทิดมาจะเอ่ยความใน

    ใจของตน “ซั่นข่อยเมือดอก พ่อแพทย์” กล่าวแก้เก้อกับแพทย์ฮง “คือฟ้าวแท้ล่ะทิด คุย

    กันก่อนกะได้บ่ทันเดิก” ทิดมานั่งลงตรงหน้าแพทย์ฮง “ซ่าวไฮ่ซ่าวนาเป็นจั่งได๋แน่ล่ะทิด

    เฮ็ดผู้เดียว” ด้วยมัวแต่สอดส่ายสายตาหาสาวที่ตนหมายตา จึงไม่ใคร่ได้ยินเสียงแพทย์

    ฮงเอ่ยถาม “ทิด... ทิดมา” แพทย์ฮงเรียกเสียงดัง “เอ่อ..พ่อแพทย์ว่าหยัง” เขาสะดุ้งสุด

    ตัวละล่ำละลักถามกลับ แพทย์ฮงยิ้ม “ข่อยถามว่าซ่าวนาเป็นแนวได๋แหน่” ทิดมาเสมอง

    ฝากระดานเรือน “ได้หลายเติมแล้วล่ะ ปีนี้ว่าสิหว่านซะก่อน ปีหน้าป้านคันแทแล้วจั่งสิตกก

    ล้าดำ” คืนนั้นทิดมานั่งคุยเรื่องต่าง ๆ กับแพทย์ฮงจนดึกดื่นแต่เขาไม่แสดงท่าทีว่าได้

    หมายตาสาวเปี่ยงลูกสาวแพทย์ฮงแม้แต่น้อย เขาเพียงปรายตามองประตูเรือนที่มีเสียง

    เข็ญฝ้ายและเสียงพูดคุยพึมพำของหล่อนและแม่เล็ดลอดออกมา....

    เหมือน สวรรค์คงเห็นในความตั้งใจของทิดมา วันหนึ่งหนุ่มหน้ามนหลานชายแพทย์ฮงซึ่ง

    มีศักดิ์เป็นพี่ชายของสาวเปี่ยงได้มาเยี่ยมยาม นำเกลือสินเธาว์จากบ้านหนองแสง มาแลก

    ข้าวจากหนองผือ ระหว่างนั้นได้พักที่เรือนแพทย์ฮง บางวันที่ว่างเว้นจากการตะเวนนำ

    เกลือไปแลกข้าวในหมู่บ้าน เขาออกไปช่วย ลูก ๆ ของแพทย์ฮงถางป่า ทิดมาไม่ทราบว่า

    หนุ่มบ้านไกลที่ช่วยสาวเปี่ยงถางป่านั้นมีความสัมพันธ์กับคนในเรือนนี้อย่างไร หรือจะเป็น

    คู่รักจากบ้านเก่าตามช่วยถากช่วยถาง เขาเฝ้ามองทั้งสองช่วยกันทำงานโดยมี พี่ชาย และ

    น้องชายของหล่อนร่วมทำงานด้วย ในใจร้อนรุ่มดังมีพระเพลิงสุมอยู่ ใจร่ำ ๆ อยากเข้าไป

    ถามให้แน่ชัด วันหนึ่งเขาตัดสินใจเข้าไปช่วยลูก ๆ แพทย์ฮงถางป่า “อ้ายทิดฝั่งนาเจ้าแล้ว

    ล่ะบ้อคือได้มาซ่อยซุมข่อย” เลียงพี่ชายสาวเปี่ยงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เฮาเห็นหมู่โต

    มีน้อยคนย่านฝนมาก่อน” เขาตอบสั้น ๆ หากส่งสายตาขุ่นเขียวไปให้หนุ่มบ้านไกล ที่ยืน

    หลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ เลียงลอบมองตามสายตาทิดมา ก็เข้าใจว่าทิดมา เข้ามาช่วย

    ตนและน้อง ๆ ถางป่ามีจุดประสงค์อย่างไร เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้กะมีคนซ่อยอยู่ บัก

    สายหลานอิพ่อมายามแต่มันอยู่อีกบ่ดนดอก มันกะสิเมือมันห่วงเมียมันกับลูกน้อย”

    เหมือนภูพนมที่ทับในอกของทิดมาถูกเลียงยกออกไปจนหมดสิ้น หนุ่มที่มาช่วยถางป่าไม่

    ใช่คู่รักของสาวเปี่ยง เป็นเพียงญาติที่มาเยี่ยมยามกันเท่านั้น วันนั้น เขาจึงได้มีโอกาสได้

    ทำงานใกล้ชิดกับสาวเปี่ยง หากไม่ได้เอ่ยสิ่งใดกับหล่อน เขาเพียงแต่ แอบมองหล่อน

    ด้วยสายตาห่วงใย แต่เมื่อใดที่สายตาบังเอิญสบกันเขาจะเสไปคุยกับเด็กน้อยลีแทน

    ความเป็นไปของเขาอยู่ในสายตาของเลียงพี่ชายสาวเปี่ยง ซึ่งเขาไม่ได้รังเกียจทิดมาเขา

    ยังแอบหวังว่าจะได้ทิดมาเป็นน้องเขย แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ได้แสดงท่าทีว่ามีใจให้น้องสาว

    เขาแม้แต่น้อย ด้วยเขาเป็นชายเฉียบขาด เข้มแข็ง เก็บความรู้สึกได้ดีเยี่ยมวันนี้เขาได้

    แสดงออกแล้วว่ามีใจให้น้องสาวตน เขาจึงเก็บความปิตินี้ไว้ในใจ ตั้งใจว่าเย็นนี้จะเล่าเรื่อง

    ทั้งหมดให้แพทย์ฮงผู้พ่อได้รับรู้

    วันนั้นทิดมาถางป่าช่วยลูก ๆ ของแพทย์ฮงจนเย็นย่ำ และเขาได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า

    เขาจะต้องบอกเรื่องนี้แก่แพทย์ฮงให้จงได้ หลังจากกินข้าวแลงเรียบร้อยเขาตรงไปเรือน

    แพทย์ฮงทันที “มาหยังแหน่ล่ะทิด” แพทย์ฮงเอ่ยถามเมื่อเห็นเขามานั่งลงตรงหน้า “มา

    ถามเรื่องยากับพ่อแพทย์ดอก” แพทย์ฮงนั้น พอจะทราบแล้วว่าวันนี้ทิดมา มาหาตนด้วย

    วัตถุประสงค์ใด ด้วยรับฟังเรื่องราวที่เขาไปช่วยถางป่าจากปากลูกชายมาบ้างแล้ว เพียงแต่

    รอคอยว่าเขาจะบอกกล่าวกับตนอย่างไร “เรื่องยาหยังล่ะทิด เจ้าเป็นนายฮ้อยเก่าข่อยว่า

    เจ้าคือสิจักต้นยาหลายผู้หนึ่งอยู่ดอกมีโรคหยังเจ้ายังปัวบ่ได้” “ข่อยบ่เก่งปานนั้นดอกพ่อ

    แพทย์ ยามไปค้าข่อยกะเอาหมอยาไปนำ บ่ได้ปัวเขาเองดอก” ทิดมากล่าวตอบ “ข่อยว่า

    เจ้าบ่ได้มาแต่ถามเรื่องต้นยาดอกแม่นบ่ทิด” หากเขาไม่กล่าวในเชิงชี้ทางทิดมาคงไม่บอก

    ความประสงค์ของตนเป็นแน่ เมื่อได้ยินแพทย์ฮงถาม ใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำหากจะบอกตาม

    ตรงว่ามาด้วยเรื่องลูกสาวของแพทย์ฮง เขาจะตอบว่ากระไร เขาจะนิยมยินดีสักกี่มากน้อย

    ทิดมาครุ่นคิดในใจ หากแต่ด้วยความเด็ดเดี่ยว หากคิดว่าจะทำสิ่งใดแล้วเขาต้องทำให้ถึง


    ที่สุด “พ่อแพทย์ อย่าว่าข่อยดูถูกดูแคลนพ่อแพทย์กับลูกเต้าเด้อ สาวเปี่ยงมีผู้หมายตา

    แล้วบ้อ” ถามออกไปแล้วก้มหน้านิ่ง รอรับปฎิกรียาตอบรับจาก แพทย์ฮง หากแต่คำตอบที่

    ได้ “เจ้ามาถามข่อยหยัง เจ้าคือบ่ถามมันเอง หั่งบ่ทันเห็นมันเว้านำไผ๋เด้ล่ะ” ทิดมาเงย

    หน้าตาเป็นประกาย มีความหวัง “ซั่นเจ้ากะถามมันเบิ่งเด้อ ว่ามันสิว่าจั่งได๋” เมื่อได้ฟัง

    หัวใจทิดมาพองโตคับอก “นาง.. นาง.. ออกมานี่เบิ่ง” เขาหันไปเรียกลูกสาวที่เข็นฝ้าย

    ช่วยแม่อยู่ด้านใน วันนี้สาวเปี่ยงนุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ เสื้อผ้าฝ้ายย้อมครามเย็บมืออย่างประณีต

    เธอเดินก้มหน้ามานั่งพับเพียบสงบ เสงี่ยมข้างแพทย์ฮงผู้พ่อ ไม่ยอมสบตาทิดมาแม้แต่

    น้อยหากดวงหน้ามีสีแดงระเรื่อ กิริยางดงามสมกับเป็นลูกสาวแพทย์ฮง ผู้มั่งคั่ง ทิดมาเก็บ

    ทุกรายละเอียดในตัวหล่อนไว้ในใจ “ทิดเพิ่นมีแนวถาม” แพทย์ฮงหันไปบอกลูกสาวแต่

    เจ้าตัวไม่ได้มีท่าทีว่าจะลุกเดินไปที่อื่น ยังคงปักหลักนั่งอยู่ ทิดมานั้นให้กระดากอายด้วย

    ไม่เคย หยอดคำหวานกับสาวผู้ใดต่อหน้าผู้ใหญ่ เขารวมรวมความกล้าที่มีทั้งหมด “เปี่ยง

    มีผู้หมายตาแล้วบ้อ..” สาวเปี่ยงเมื่อได้ฟัง สีหน้าของหล่อนที่มีระเรื่อก้มหน้างุด เขยิบเข้า

    ใกล้ผู้พ่อมากขึ้น สะเทิ้นอาย แม้จะชื่นชมทิดมาเป็นทุนเดิมอยู่แต่หากได้ยินเขาบอกความ

    ในใจต่อหน้าผู้ใหญ่ หล่อนสะเทิ้นอายเกินกว่าจะกล่าว “เอ๋า..อินางทิดเพิ่นถามมึงบ่ได้ยิน

    ติ” แพทย์ฮงหันมาถามลูกสาว “บ่ทันมี” สาวเปี่ยงอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา และยังคงก้ม

    หน้าอยู่เช่นเดิม ทิดมาได้ฟังแล้วใจเต้นระรัว “คันอ้ายอยากสานไมตรี เจ้าสิว่าจั่งได๋” เขา

    ตัดสินใจถามตามตรง สาวเปี่ยงเงยหน้าสบตากับแพทย์ฮงผู้พ่อ “แล้วแต่อีพ่อ” หล่อนตอบ

    คำถามเสียงแล้วลุกเข้าห้องไปด้วยใจเต้นระรัว ทิดมามีใจต่อหล่อน เขากล้าเข้าหาพ่อ

    หล่อนอย่างชายชาญ กล้าบอกกล่าวความในใจต่อหน้าพ่อของหล่อน นับว่าเขาจริงใจมาก

    พอสมควร แล้วพ่อของหล่อนจะตอบรับไมตรีเขาอย่างไร หล่อนได้แต่ครุ่นคิด

    ทิดมาเมื่อได้ฟังคำตอบจากสาวเจ้า เขาบอกความตั้งใจกับแพทย์ฮงทันที “พ่อแพทย์

    รังเกียจ พ่อฮ้างคือข่อยบ่” ทิดมายังติดใจว่าตนนั้นเป็นม่ายเมียพาลูกหนีไป “บ่ดอกทิดเจ้า

    บ่แม่นผู้ผิด เมียเจ้าเขาหนีไปเอง เจ้ากะบ่แม่นคนสำมะเลเทเมา คันเจ้าฮักแพงอินางข่อย

    อีหลีข่อยกะบ่ว่าหยังดอก มันสิมีผู้เบิ่งผู้แยง” แพทย์ฮงตอบตามความรู้สึกของตน “ซั่น

    ข่อยเมือบ้านเก่าบอกพ่อบอกแม่มาหาพ่อแพทย์ได้บ่” เขากลัวว่าแพทย์ฮงจะเปลี่ยนใจ

    เขาจึงได้รีบบอกว่าเขาจะพาพ่อแม่มาสู่ขอสาวเปี่ยงทันที


    “กะแล้วแต่เจ้าล่ะทิด” ทิดมาได้ฟังดังนั้น หัวใจแช่มชื่นคืนนั้นกว่าเขาจะลาแพทย์ฮงกลับ

    เรือนตนเองก็สองยามพอดี กลับถึงเรือนเขายังข่มตาหลับไม่ลงด้วยความตื่นเต้น ฟ้าสาง

    เขารีบควบม้าคู่ใจกลับบ้านเก่าไปแจ้งข่าวให้พ่อแม่มาสู่ขอสาวเปี่ยงทันที ด้วยใจที่ร้อนรุ่ม

    หรือด้วยม้าหนุ่มมีกำลังวังชาดี เขาใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้นก็ถึงบ้าน

    เก่า เขาแจ้งข่าวที่น่ายินดีนี้ให้พ่อ แม่ ญาติ ผู้ใหญ่ทราบ ว่าให้ไปสู่ขอลูกสาวแพทย์ฮงให้

    แต่งงานกับตนที ฝ่ายแม่ของทิดมาที่เป็นห่วงกลัวว่าตั้งแต่ลูกสะใภ้พาหลานหนีไป ลูกชาย

    ตนจะไม่เหลียวแลหญิงใดอีก ท่านยินดีมากกว่าสิ่งใด จัดแจงเตรียมข้าวของ ขันหมาก ขัน

    พลู เตรียมเดินทางไปหนองผือทันที คาราวานเกวียนผู้เฒ่าผู้แก่ กว่า 10 เล่มออกเดิน

    ทางแต่เช้าตรู่ กว่าจะถึงหนองผือก็กินเวลากว่า 3 วัน 2 คืน การสู่ขอสาวเปี่ยง ให้ทิดมา

    เป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่ครบถ้วนตามประเพณี งานแต่งถูกกำหนดให้จัดหลังจากนั้น 1

    เดือนส่วนค่าสินสอดนั้น ฝ่ายเจ้าสาวเรียก 100 บาท ทองรูปพรรณ 1 บาท พร้อมวัวควาย

    ที่พ่อแม่เจ้าบ่าวแบ่งให้เพื่อการออกเรือนอีก อย่างละ 10 ตัว พร้อมที่ดินบริเวณ หลังโรง

    เรียนเบญจะมะมหาราชในตัวเมืองอุบลฯ หากทิดมาเบื่อหน่ายการทำนา อยากค้าขายเขาก็

    สามารถพาครอบครัวไปค้าขายในตัวเมืองได้ ตั้งแต่นั้นมาทิดมากับสาวเปี่ยงก็ได้ครองคู่

    กัน ต่างช่วยกันทำงานด้วยความรักความเข้าใจ ทำให้ฐานะของทั้งสองดีขึ้นตามลำดับ ทั้ง

    สองมีลูกด้วยกัน 8 คน ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขสืบมา......


    จบบริบุรณ์ ค่ะ ขอได้รับความขอบคุณจากใจเขมราฐ สำหรับการติดตามตั้งแต่ตอนที่ 1 ค่ะ

  2. #2
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ไผ่หวาน
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ที่อยู่
    PATTAYA CITY
    กระทู้
    729
    บล็อก
    14
    สนุกดีค่ะ น้องหลิน สั้นโพดเนาะ บ่แนวคิดต่อแล้วบาดนิ

  3. #3
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ คนบ้านบ้าน
    วันที่สมัคร
    Mar 2009
    กระทู้
    452
    น่องหลิน ลูก หลาน เผิ่นแหม่นซุมน่องหลินบ่คับ แต่งต่อไปเด้อคับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนบ้านบ้าน; 20-12-2010 at 14:46.

  4. #4
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ชัย หมอแคน
    วันที่สมัคร
    Jan 2010
    ที่อยู่
    มณฑลอานสี
    กระทู้
    407
    บล็อก
    3
    บัดสิจบ จบจุ๊ดปุ๊ด...เลยบ่ฮู้ว่า "เสี่ยวหลงมา" กับ "เปี่ยงร่ำ" มีทายาทเป็นผุ้ได๋แน มาต่อเด้อๆ "อาหลิน" บอกแล้วๆว่าให้ยืดตอนออกไป

  5. #5
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ ทิดแหล่
    วันที่สมัคร
    Jun 2008
    กระทู้
    435
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่สุดยอดครับ
    ได้กลิ่นอายการดำรงชีพ อีกทั้ง จารีต ประเพณี อันดีงามแต่เก่าหลัง
    สามารถถ่ายทอดได้อย่างลงตัว และเข้าถึงในอารมณ์
    ขอชมเชยให้เป็นสุดยอดเรื่องสั้นแห่งปี...

    ขอภาคต่อไปด้วยนะครับ...

  6. #6
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ วัฒนชัย หาริโร
    วันที่สมัคร
    Jan 2010
    กระทู้
    837
    สุดยอดครับ ม่วนๆๆๆๆ ตามอ่านมาแต่ทีแรกจนจบ เอาอีกเด้อ
    แต่อยากทราบว่าลูกหลานเลานิ แม่นผุเขียนบ่น้อนิ อิอิ

  7. #7
    ฝ่ายกิจการพิเศษ สัญลักษณ์ของ กำพร้าผีน้อย
    วันที่สมัคร
    Apr 2009
    ที่อยู่
    รัตนาธิเบศร์..ใกล้แยกแคราย
    กระทู้
    1,788

    .บ่ทันอยากให้จบดอก น่าสิมีอีกจักนอยแน...

    แล้วเขมราฐนี่เป็นทายาทรุ่นได๋ของนายฮ้อยมาหรือยายเปี่ยงน้อ...

  8. #8
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ บ่างกะเล็น
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    ที่อยู่
    บ้านม่วง สกล ชลบุรี
    กระทู้
    82
    สงสัยผุเขียนสิเป็นรุ่นหลานรุ่นเหลนเลาอยุ่บ่น้อคับ
    ขอบคุณหลายๆคับ

  9. #9
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ มั่วหน่าฮ่าน
    วันที่สมัคร
    Jan 2007
    กระทู้
    1,781
    แล้วที่ดินบริเวณ หลังโรงเรียนเบญจะมะมหาราชในตัวเมืองอุบลฯ สุมื้อนี้เป็นของผุได๋ล่ะน้องหลิน...สงสัยต้องมีต่อภาคสองเน๊าะ อิอิ
    ไม่เข้าถ้ำมอง เหตุไฉนจะได้มอง...http://img198.google.co.th/img198/6016/iinjiisjiisj.gif

  10. #10
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ เมษา
    วันที่สมัคร
    Jan 2009
    ที่อยู่
    ไทย & ยูเค
    กระทู้
    967

    เรื่องฮิตน่าอ่าน

    :l-ม่วนหลายจ้าา อยากฮู่คือกันๆ อั่นหน่าสิมีรุ่นลูกอีกเนาะ คือในหนังหนั่นแหมหลิน อิอิ

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •