ประสบการณ์การตกเครื่องบินครั้งที่สอง ในชีวิตการเดินทางครั้งนี้เค้าไม่ให้ตั๋วใหม่เหมือน
ในครั้งแรก 9 ปีมาแล้วที่เป็นความผิดของเราเอง แต่เราโชดดีไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่
ด้วยว่าจองตั๋วเช้า 9.40 เครื่องออก อย่างน้อยต้องไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2
ชั่วโมงหรือ 1ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ก็พยามจัดสรรเวลาแล้วเป็นอย่างดี ตื่น 6 โมงเช้า
ออกจากที่พัก 7.00 น.ถึงสนามบิน 7.40 น. แต่คุณเอ๋ยสนามบินนี้ไม่คุ้นเคย มีสอง
อาคารต้องไปหาว่า สายการบินที่เราจะเดินด้วยอยู่อาคารไหน และอาคารก็ห่างกัน
คนที่มาส่งก็ไปเสียแล้ว ผลอาคารที่เค้ามาส่งคืออาคารเหนือไม่ถูกต้อง สายการบินที่เรา
ต้องเดินทางคืออาคารด้านใต้
คุณเอ๋ยอากาศก็หนาวเสียเหลือเกินเช้านั้นลบห้าองศา มองด้วยสายตาเห็นตึกอยู่ลิปๆ
ไม่ไหวแน่เรา มองหาแท็กซี่คะก็ไม่ได้หาง่าย ๆ แบบบ้านเรานะคะ ใจเริ่มกังวลแล้วคะ
ฉันจะทันไม่นี้ ตอนนี้มองเวลาก็ 8.00 นาทีแล้ว หาแท็กซี่ได้ก็ 8.15 น. ถนนวิ่งทาง
เดียวรถติดอีก ลงรถได้ก็วิ่งแจ้นหาที่สายการบินที่เราจะเดินทางด้วยเพื่อเช็กอินโลด
กระเป๋าเดินทางก่อนที่เราจะเข้าไปด้านใน ตรวจเช็คเอกสารอีกรอบ
ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเราเป็นคนสุดท้ายแล้วตอนนี้ข้างในกำลังเช็ดผู้โดยการขึ้นเครื่องให้เรา
รีบ
โอ้ยแม่เจ้า เข้ามาด้านในเจ้าหน้าที่จะต้องเช็กละเอียดอีกรอบ ต้องถอดเสื้อคลุม
ถอดร้องเท้า ใส่เข็มขัดก็ต้องถอดเพราะหัวเข็มขัดเป็นโลหะ วางของลงในตระกร้าที่เจ้า
หน้าที่เตรียมได้ เพื่อวิ่งไปตามสายพานเพื่อสแกน และตัวเราก็เดินตัวเปล่าผ่านช่องสแก
นด้วย จะมีเจ้าหน้าที่ยืนรอตรวจอยู่ถ้าเราเดินผ่านแล้วเครื่องสแกนร้อง
โอ้ยพี่น้องเอ๋ย แล้วฉันจะไปทันไม่นี้คิวก็ยาว คั่นจะลัดคิวก็ไม่ได้
พอถึงคิวเราถอดเสื้อ ถอดรองเท้า เข็มขัดรอเลยเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา เดินผ่านเครื่อง
สแกรนด้วยความมั่นใจ
แต่เครื่องสแกนที่เราผ่านร้องดังลั่น คุณเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ที่ยืนรอก็ผาย
มือเชิญ ขอสัมผัสเรือนร่างของอีฉัน ตั่งแต่หัวจรดเท้าคะ และก็ใช้เครื่องสแกนที่
คล้ายกับไม้กระบอก ไล่ไปตามทั่วตัวเราอีกครั้ง เจ้าเครื่องสแกนนี้ก็ร้องอีก โอ้ยพี่น้อง
เอ๋ย ว่าแล้วก็ขอตัวไปดินเนอร์ก่อนจ้า ดึก ๆ จะกับมาเขียนต่อ:l-
Bookmarks