วันเด็ก
จากคำกล่าวที่ว่า อนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพชีวิตของเด็กในประเทศนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องให้ การพิทักษ์รักษาคุ้มครองทางด้านกฎหมาย ตลอดจนให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ เพราะถือว่า เด็ก คือมนุษย์ที่ยังอ่อนอยู่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ให้ความหมาย ของคำว่า "เด็ก" ไว้ดังนี้
เด็ก หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก
เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน ๑๔ ปีบริบูรณ์
เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน ๑๔ ปีบริบูรณ์
เมื่อปีพุทธศักราช 2498 ได้เกิดปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติทำให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ ของตนมากขึ้น การขานรับในการนี้จากประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเอง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศต่างก็จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของประเทศตนขึ้น โดยกำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ
การจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติในแต่ละประเทศขณะนั้น มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันเป็นส่วนใหญ่ โดยยึดหลักการให้ความสำคัญแก่เด็กเป็นวัตถุประสงค์หลัก โดยเปิดสถานที่ราชการที่สำคัญเช่น พิพิธภัณฑ์ รัฐสภา เป็นต้น ให้เด็ก ๆได้เข้าชมและศึกษา บางแห่งจัดการแสดงมหรสพ มีการแจกอาหาร แข่งขันเกม แจกของขวัญ ฯลฯ ต่อมางานนี้ได้รับความสำคัญทั่วโลกจึงได้จัดกันแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน
การจัดงานวันเด็กในประเทศไทย
ปีพุทธ ศักราช 2498 อันเป็นปีที่ทั่วโลกเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติกันขึ้น ตามความเห็นคล้อยตามกับองค์การสหประชาชาติที่นำปัญหาเรื่องเด็กมาร่างเป็น ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กขึ้นมา
ประเทศไทยได้รับข้อเสนอของนาย วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่
ขณะนั้น สภาวัฒนธรรมแห่งชาติยังมิได้ถูกยุบเลิกไป คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในที่สุดที่ประชุมได้เห็นชอบนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2498 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการ ให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ
ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 ประเทศไทย จึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ สำหรับประเทศไทย และจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ.2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้น มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่ เพื่อความเหมาะสมด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทยเราเป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็ก ๆ ไม่สะดวกในการมาร่วมงาน ประการต่อไปก็คือ วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครอง จึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด จึงเห็นว่าควรจะเปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมเสียทุกสิ่ง ทุกอย่างได้สะดวกสบายขึ้น และมีความเหมาะสมมากกว่า
จากข้อเสนอดังกล่าว คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวัดเด็กแห่งชาติเสนอ ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 จึงประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ปี พ.ศ.2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว
งานวันเด็กแห่งชาติได้เริ่มจัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ.2508 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาได้สี่สิบกว่าปีแล้ว (งดจัดในปี พ.ศ.2507 หนึ่งปี)
วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
1. เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ
2. เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตน และอยู่ในระเบียบวินัยอันดี
4. เพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก
ชื่อเพลง : วันเด็ก
คำร้อง : คาราบาว
ทำนอง :
INTRO: Am
Am G Am
วันเด็ก ให้เด็กเดินตามใคร
G Am G Am
แม่ตั้งวงไพ่ พ่อตั้งวงเหล้า
E7 D E7
ชกกันเหมือนมวยตู้วันเสาร์ ตีศอกโยนเข่า
G Am
เอาให้ตายให้ตาย
G Am
เสียงด่า ไม่ต้องหาคําแปล
G Am G Am
ด่าพ่อล่อแม่ ก็ปู่ย่าตายาย
E7 D E7
ห้ามปรามเดี๋ยวจะถูกเลขท้ายเป็นเรื่องผู้ใหญ่
G Am
ผัวเมียตีกัน
C Am G Am
ดีกันก็รวมหัวใช้เรา ใช้ไปซื้อเหล้าใช้ดูต้นทาง
C Am G E7
ทําตัวให้เด็กดูตัวอย่าง ลูกไม้ไม่ห่างจากโคนต้นไม้
Am G Am
วันเด็ก เราเป็นเด็กเกเร
G Am G Am
เพราะสังคมโปเก มีผู้ใหญ่นําเรา
E7 D E7
สร้างเธคให้เด็กได้โยกบั้นเด้าดมยาดื่มเหล้า
G Am
เอาให้เมาเช็ดดิน
Am G Am
ลูกหลาน ต้องคืบคลานลงเหว
G Am G Am
อนาคตเลวๆ ก็ผู้ใหญ่ตัวดี
E7 D E7
คําขวัญเขียนกันได้ทุกปี เผื่อผู้ใหญ่บ้างซิ
G Am
สมดุลกัน
E7 F
* อันว่าคําขวัญเท่าที่ฉันผ่านมา
G F
เปรียบเหมือนตัวยาซีม่าโลชั่น
C D
แต่สังคมวันนี้แย่ยิ่งกว่าสังคัง
F C
เขียนให้เด็กได้ฟังมันก็ยังไม่พอ
F
** พ่อกับแม่คือยา ปู่กะย่า ตายาย
C
และผู้หลักผู้ใหญ่ มีความหมายทุกคน
Am F
อย่าปล่อยเด็กเดินชนโดยตามลําพัง
G E7
เพราะสังคมสังคัง ยังไม่สมประกอบ
Am
เด็ก เด็ก (เด็ก เด็ก)
G Am
ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ (โตเป็นผู้ใหญ่)
G Am
อนาคตฝากไว้ (อนาคตฝากไว้)
G Am
ในกํามือเด็กๆ (ในกํามือเด็กๆ)
E7
ถูกมอมเมาตั้งแต่เล็ก
D E7 G Am
ผู้ใหญ่หลอกเด็ก เราจะแก้ที่ใคร
G Am
เราจะแก้ที่เด็กหรือแก้ที่ผู้ใหญ่
G Am
เราจะแก้ที่ใคร เราจะแก้ที่ใคร
G Am
แก้ที่ผู้เด็กหรือแก้ที่ผู้ใหญ่
G Am G Am E7
เราจะแก้ที่ใคร เราจะแก้ที่ใคร
SOLO: G Am E7 Am G Am G Am G Am G Am
G E7 D E7 G Am G
(ซํ้า *, **)
Am G Am
มีวันเด็ก ก็ต้องมีวันผู้ใหญ่
G Am G Am
ที่ก่อกรรมทําร้ายเด็กไทยวันนี้
E7 D E7 G Am
นําอะไรนําในทางที่ดีเด็กๆ สมัยนี้ หูไวตาไว
Am G Am
วันผู้ใหญ่ เขียนให้เริ่ดเลยว่า
G Am G Am
ให้ตั้งหน้าตั้งตา ทําแต่คุณความดี
E7
อย่ากอบโกย กินกันมากนักซิ
D E7 G Am
เด็กๆ สมัยนี้ นั้นแทบไม่มียัดปาก
SOLO: Am G Am G (8 ครั้ง)
ขอบคุณภาพกิจกรรม การแสดงความสามารถของเด็ก
ไทยเมืองมุก,บ่าวเอ๋ คนตระการ
Bookmarks